กรณีนางมล (นามสมมติ) อายุ 44 ปี เข้าร้องเรียนต่อนางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาฯ กรณี น.ส.เมย์ (นามสมมติ) อายุ 22 ปี ลูกสาว ถูกหนุ่มแฟนเก่าของเพื่อนราดน้ำมันจุดไฟเผาได้รับบาดเจ็บสาหัส รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ส่วนผู้ก่อเหตุได้รับการประกันตัวในชั้นศาล เมื่อได้รับการปล่อยตัวกลับออกมาข่มขู่อาฆาตจะทำร้ายลูกสาวและเพื่อน จึงขอให้นางปวีณาประสานตำรวจช่วยคุ้มครอง และดำเนินการถอนประกันผู้ต้องหา เนื่องจากทุกวันนี้ลูกสาวที่นอนรักษาตัวมีอาการเครียดจัด อยู่ในอาการหวาดผวา เพราะกลัวจะถูกทำร้ายซ้ำ
วันที่ 20 ก.ค. 61
นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณา หงสกุล เพื่อเด็กและสตรี เดินทางไปที่โรงพยาบาลเพื่อเข้าเยี่ยมอาการของ น.ส.เมย์ (นามสมมติ) อายุ 22 ปี พนักงานออกแบบเสื้อผ้าอยู่บริษัทแห่งหนึ่งย่านถนนเจริญกรุง ที่ถูกนายเก่ง (นามสมมติ) อายุ 23 ปีแฟนเก่าของเพื่อนราดน้ำมันจุดไฟเผาได้รับบาดเจ็บสาหัส ภายหลังจากเมื่อวันที่ 19 ก.ค. นางมล (นามสมมติ) อายุ 44 ปี เดินทางมาจาก จ.อุบลราชธานีเข้าร้องเรียนให้ช่วยเหลือ เพราะหลังเกิดเรื่องผู้ก่อเหตุได้รับการประกันตัวในชั้นศาล เมื่อได้รับการปล่อยตัวกลับออกมาข่มขู่อาฆาตจะทำร้ายลูกสาวและน.ส.เนย (นามสมมติ) เพื่อน ของลูกสาวด้วย
หลังจากนั้น น.ส.ปวีณา พา น.ส.เนย เข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.วัดพระยาไกร เพื่อแจ้งความเพิ่มเติม หลังผู้ก่อเหตุออกมาข่มขู่
นอกจากนี้
นางอำพร แบนอภัย เพื่อนร่วมงานของ น.ส.เมย์ เปิดเผยว่า น้องเมย์เป็นเด็กที่นิสัยดีมาก เรียบร้อย พูดจาไพเราะ และหาเงินส่งเสียเลี้ยงดูลูกที่ต่างจังหวัด เด็กกลุ่มนี้เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่สมัยเรียนที่ต่างจังหวัดแล้ว ส่วนน้องเมย์กับน้องเนยเข้ามาทำงานที่กรุงเทพฯ ได้ราว 1 เดือน แต่นายเก่ง ผู้ก่อเหตุ ไม่ได้มาทำงานที่โรงงานนี้ ตนจึงไม่ได้รู้จักมากนัก เพียงแต่เคยเห็นหน้ากัน
หลังเกิดเหตุ ตนทราบมาว่าน้องเนยถูกนายเก่งพูดจากข่มขู่ว่าจะฆ่าโดยเอาน้ำมันราด เช่นเดียวกันกับเหตุการณ์ของน้องเมย์ ทำให้เวลาที่นายเก่งขับจักรยานยนต์ผ่านหน้าโรงงาน น้องเนยก็จะเกิดความวิตกกังวล จึงต้องไปไหนมาไหนกับเพื่อนเป็นประจำ ตนก็รู้สึกเป็นห่วงเช่นเดียวกันว่านายเก่งจะเข้ามาทำร้ายน้องเนยอีกคน
สำหรับอาการของน้องเมย์ ขณะนี้ตนทราบมาว่าดีขึ้นแล้ว ทำให้รู้สึกหายห่วง และอยากให้น้องหายไวๆ หากหายเป็นปกติแล้ว ตนก็อยากให้กลับมาทำงานที่เดิม เนื่องจากน้องเมย์เป็นที่รักของเพื่อนร่วมงาน แต่ทั้งนี้ คนในละแวกเดียวกันก็ยังรู้สึกกังวล กลัวว่านายเก่งจะกลับมาก่อเหตุซ้ำ เพราะคนแถวนี้ก็รู้จักทั้งสองฝ่าย