จากกรณีที่ น.ส.อทิชา ทองนันไชย ได้ขับรถฟอจูนเนอร์ ไล่ชนรถเบนซ์สีขาวของสามี ที่เห็นว่ามากับสาวอื่น ส่งผลกระทบกับรถคันอื่น ได้รับคามเสียหายอีก 3 คัน รวมทั้งหมด 5 คัน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 13 พฤษภาคมที่ผ่านมานั้น (อ่าน:
เจ็บหนัก! เหยื่อเมียหลวงไล่ชนเบนซ์ เย็บ18เข็ม ไร้คนรับผิดชอบ)
ล่าสุด วันที่ 15 พฤษภาคม 2560
นายอัครพนธ์ หรือบอล สามีของ น.ส.อทิชา หญิงขับฟอร์จูเนอร์ ได้เปิดเผยถึงเหตุการณ์ในวันที่เกิดเหตุกับผู้สื่อข่าวอมรินทร์ ทีวี ว่า ตนทำงานเป็นผู้อำนวยการของบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง วันดังกล่าวได้ขับรถไปรับ
พนักงานหญิงที่บริษัทย่านพระราม 9 เพื่อไปทดลองงาน และได้ตั้งใจว่าจะไปส่งหญิงคนนี้ที่บ้าน เนื่องจากเป็นทางผ่านที่จะกลับบ้านตนอยู่แล้ว ซึ่งนายอัครพนธ์ชี้แจงว่า ลักษณะงานที่ทำมักจะต้องมีการพบปะผู้คน เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับงานอยู่เป็นประจำ ซึ่งภรรยาตนก็เข้าใจ
แต่ทั้งนี้ ในวันดังกล่าว เมื่อตนขับรถมาถึงบริเวณที่เกิดเหตุ ตนได้เห็นรถของภรรยาขับอยู่ใกล้กัน จึงกังวลและไม่อยากให้แฟนมาพบว่าตนอาสาพาพนักงานหญิงคนที่นั่งมาด้วยไปส่งที่บ้าน เนื่องจากกลัวภรรยาจะคิดมาก ซึ่งขณะนั้นตนคิดว่าภรรยาน่าจะไม่ทันสังเกตเห็นรถของตน จึงได้รีบเร่งเครื่องเพื่อจะขับหนี แต่ปรากฏว่า ภรรยาคงจะเห็นจึงขับรถไล่ตาม ด้วยความเร็วสูง และเมื่อถึงจุดเกิดเหตุ ก็ไม่สามารถควบคุมรถได้ จึงทำให้พุ่งชนจนเป็นเหตุดังกล่าว
นายอัครพนธ์ ยืนยันว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นเพียงความเข้าใจผิดของภรรยา ไม่ใช่เป็นเรื่องหึงหวงแบบเมียหลวงเมียน้อย ตามที่กำลังเป็นข่าวอยู่ตอนนี้ ซึ่งสังคมก็โจมตีการกระทำของภรรยาตนว่าเป็นเรื่องไร้สาระ ทำให้คนอื่นต้องเดือดร้อน ทั้งที่จริงแล้วเป็นการเข้าใจผิด
อย่างไรก็ตาม นายอัครพนธ์ ยอมรับว่า
ภรรยาของตนนั้นก็ทำเกินไป จนทำให้คนที่ไม่เกี่ยวข้องต้องเดือดร้อน จึงอยากขอโทษและขออภัยแทนภรรยาของตนด้วย
ส่วนกรณีที่บอกว่า ภรรยาขับรถตามจีพีเอสจนมาเจอรถของตนนั้น นายอัครพนธ์ ชี้แจงว่า เป็นการมาเจอกันระหว่างทาง ไม่ได้ตามจีพีเอสอย่างที่เป็นข่าว ทั้งนี้ตนไม่ทราบว่าภรรยาของตนมาติดจีพีเอสเอาไว้ที่รถของตนจริงหรือไม่ เพราะภรรยาไม่เคยพูดถึงเรื่องนี้มาก่อน
ด้าน
น.ส.อทิชา หญิงขับฟอร์จูเนอร์ ได้เข้าให้ปากคำพนักงานสอบสวน ที่สภ.ธัญบุรี พร้อมเพื่อนรวม 3-4 คน ซึ่งตลอดการสอบสวน ทั้งหมดพยายามหลบสื่อโดยการนำร่มมาบังตัวเองไว้ จนกระทั่งเวลาประมาณ 19.30 น. หญิงสาวรูปร่างท้วม ผิวคล้ำ ซึ่งคาดว่าเป็นคนขับรถฟอร์จูเนอร์ ใช้เสื้อคลุมศีรษะ และมีเพื่อนเดินประกบ ได้เดินออกมาจากห้องสอบสวน
แต่เป็นที่น่าสังเกต ว่าหญิงรายนี้มีรูปร่างไม่ตรงตามลักษณะของหญิงที่ขับฟอร์จูเนอร์ ตามที่ปรากฎในวันเกิดเหตุ เช่น มีสีผิวค่อนข้างขาวกว่า โดยหญิงรายดังกล่าว พยายามเดินอย่างรวดเร็วและไม่ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว ก่อนขึ้นรถยนต์สีดำออกไปอย่างรวดเร็ว
ขณะเดียวกัน พบว่ามีผู้ที่อยู่ในห้องสอบสวนบางส่วน ได้เดินออกจากห้องผ่านทางประตูด้านหลังสถานีตำรวจ และขับรถยนต์ออกไป จึง
คาดการณ์ว่า น.ส.อทิชา อาจจะออกไปทางด้านหลังสถานีตำรวจ สอดคล้องกับคำยืนยันของเพื่อนบ้าน ที่ทีมข่าวได้เดินทางไปสอบถาม โดยยืนยันว่า ผู้ที่คลุมหน้าออกมาจากห้องไม่ใช่ น.ส.อทิชา อย่างแน่นอน
ด้าน
พ.ต.อ.ธีรวัฒน์ ขจรเกียรติภาพ ผู้กำกับการสภ.ธัญบุรี ระบุว่า เบื้องต้นยังไม่มีการแจ้งข้อหา คนขับฟอร์จูนเนอร์ เนื่องจากต้องรอใบรับรองแพทย์จากผู้เสียหาย ส่วนในวันนี้เป็นการเข้าให้ปากคำครั้งแรกของผู้ก่อเหตุ โดยประเด็นหลักคือเรื่องการขับขี่ และมูลเหตุจูงใจในการก่อเหตุ นอกจากนี้ได้ถามเรื่องส่วนตัว โดยยืนยันให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย