คุมตร.เมายิงพ่อค้าก๋วยเตี๋ยว เอ่ยขอโทษที่ลั่นไก เมียร่ำไห้ผัวโคม่า ลูกรอไปส่งโรงเรียน (คลิป)

สืบเนื่องจากจากกรณีเมื่อเวลา 05.45 น. ของวันที่ 23 ก.พ. 64 ส.ต.ท.พรเทพ ชาญณรงค์ ตำรวจสังกัดกองกำกับการสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต เมาสุรา และใช้อาวุธปืน ยิงนายอรุณ ทองพลับ อายุ 26 ปี พ่อค้าขายก๋วยเตี๋ยว ได้รับบาดเจ็บสาหัส โดยไม่ได้มีเรื่องกันมาก่อน หลังจากเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ป่าตอง ได้ควบคุมตัวผู้ก่อเหตุไว้ได้

ล่าสุด วันที่ 25 ก.พ. 64 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ป่าตอง นำโดย พ.ต.อ.สุจินต์ นิลบดี ผกก.สภ.ป่าตอง เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน และเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้อง นำตัว ส.ต.ท.พรเทพ ผู้ก่อเหตุทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่เกิดเหตุ ซ.บางลา ต.ป่าตอง จ.ภูเก็ต ท่ามกลางการคุ้มกันของเจ้าหน้าที่

ขณะที่ผู้ต้องหามีสภาพที่อิดโรย บอกว่า "ผมอยากขอโทษกับสิ่งที่เกิดขึ้น" ก่อนที่จะสิ้นสุดการทำแผน โดยเจ้าที่ตำรวจใช้เวลาประมาณ 30 นาที

นอกจากนี้ จากการสอบถามพยานในที่เกิดเหตุ หลังจากตำรวจก่อเหตุยิงพ่อค้าก๋วยเตี๋ยวและกระทืบซ้ำ ได้กล่าวว่า "วันนี้กูอารมณ์ดี ไม่งั้นมึงตาย" ส่วนคนเจ็บร้องขอชีวิต ตะโกนว่า "ช่วยด้วย ยิงผมทำไม"

ขณะที่ พ.ต.อ.สุจินต์ นิลบดี ผกก.สภ.ป่าตอง กล่าวว่า พล.ต.ต.ภรศักดิ์ นวนหนู ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต ได้สั่งการให้ดำเนินคดีอย่างตรงไปตรงมา ซึ่งขณะนี้ได้รวบรวมพยานหลักฐานได้พอสมควรแล้วทุกประเด็น ค่อนข้างสมบูรณ์ และจะดำเนินการไปตามกฎหมายต่อไป

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- เปิดความจริง ตำรวจเมายิงพ่อลูกอ่อนเตะซ้ำรำคาญคำขอชีวิต 3 แม่ลูกเคว้งไร้เงิน
- เปิดนาที! ตร.เมากร่างคว้าปืนยิงพ่อค้าก๋วยเตี๋ยว เมียไหว้พระขอผัวพ้นโคม่า พยานแฉเมายันตี 5

นายเกิดผล แก้วกำเนิด ทนายความ เปิดเผยว่า หลังไปเข้าร่วมรายการโทรทัศน์แห่งหนึ่ง ทางภรรยาผู้บาดเจ็บได้ขอให้ตนช่วยทำคดีเนื่องจากกังวลใจว่าจะไม่ได้รับความยุติธรรม ตนจึงรับปากไปว่าจะช่วยโดยวันที่ 2 มี.ค. 64 ตนจะเดินทางไปที่ จ.ภูเก็ต เพื่อคัดค้านการประกันตัวที่ศาล ส่วนตัวมองว่าถ้าทำผิดแบบนี้ เบื้องต้นในส่วนของตำรวจด้วยกันเองก็ไม่น่าจะปล่อยผ่าน เนื่องจาก พล.ต.ต.ภรศักดิ์ นวนหนู ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต ได้กำชับไว้แล้ว ว่าถ้าพบเข้าข่ายความผิดใดให้แจ้งข้อหาทุกข้อหา ไม่มีการละเว้น

สำหรับผู้เสียหายเองก็เป็นชาวบ้านธรรมดา กังวลใจเรื่องไม่ได้รับความเป็นธรรม แต่เรื่องการเอาผิดเพิ่มในส่วนนี้ตนต้องขอดูรายละเอียดก่อนว่าจะเอาผิดเพิ่มจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งไว้ 3 ข้อหาหรือไม่ คือ 1.พยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา 2. พกพาอาวุธปืนไปในเมืองหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือไม่มีเหตุอันควร และ 3.ยิงปืนในเมือง หมู่บ้าน หรือที่ชุมชนโดยไม่มีเหตุอันควร แต่ตนอยากมุ่งเป้าไปที่การเรียกร้องค่าเสียหายให้ผู้เสียหายมากกว่า ส่วนตัวมองว่าคดีนี้ไม่ซับซ้อน จากหลักฐานพยานหลักฐานที่ปรากฎก็ชี้ชัดว่าพฤติการของตำรวจผู้นั้นค่อนข้างอุกอาจ ตั้งใจยิงซ้ำ

นางกุลธิตา ชะนะนาน ภรรยาของผู้ได้รับบาดเจ็บ เปิดเผยว่า อาการล่าสุดของสามีเลือดที่ปอดยังออกอยู่ เกล็ดเลือดยังไม่ค่อยเข้มข้น การรับรู้ ได้ยิน พูดไม่ได้ เพราะใส่ท่อหายใจ พยักหน้าได้ กระดูกสันหลังแตก ร่างกายยังไม่ตอบสนอง ขายังขยับไม่ได้ ดีที่ร่างกายตอบสนองการรับรู้ได้มากขึ้น

โดยหมอตรวจเจอค่าไตต่ำ ต้องเช็กอาการบาดเจ็บว่าต้องไปฟอกไตหรือไม่ มีการฟอก 2 แบบ แบบ 4 ชั่วโมง และอีกแบบ 24 ชั่วโมง ครั้งละ 25,000 บาท หมอบอกว่า เป็นผลกระทบจากปอด 2 ข้างที่ฉีกขาด ไตเลยมีปัญหา ค่าไตต่ำ

สามีเป็นเสาหลักของครอบครัว โดยค่าใช้จ่ายต่อเดือน มีค่าใช้จ่ายเยอะ ค่านม ค่าผ้าอ้อมของลูก ประมาณเดือนละ 4,000 บาท ค่าเช่าห้องเดือนละ 5,000 บาท รวมค่าน้ำไฟแล้ว ค่าผ่อนมอเตอร์ไซค์เดือนละ 2,500 บาท แต่ค้างส่งมา 3 เดือนแล้ว ช่วงโควิด-19 เนื่องจากขาดรายได้ สภาพคล่องไม่ดี รายได้ต่อวันไม่เท่ากัน

นอกจากนี้ ช่วงนี้วันศุกร์เสาร์ขายดีกว่าทุกวัน ได้กำไรวันละ 300-400 บาท ตอนเช้า 7 โมงของทุกวัน ปกติสามีจะปลุกลูกและขี่มอเตอร์ไซค์ไปส่งลูกไปเรียนทุกวัน และรับลูกช่วง 15.00 น. หลังเลิกเรียน