ล่าไอ้โหม่งจ่อยิงหัวตำรวจ ญาติปัดพาหนีขออย่าสู่หวั่นถูกเก็บ เพื่อนมอบตัวปัดร่วมฆ่า (คลิป)

จากกรณี เมื่อเวลา 01.00 น. ของวันที่ 8 ก.พ. 64 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสุพรรณบุรี ได้รับแจ้งมีเหตุยิงกันภายในปั๊มน้ำมัน  ปตท.สวนแตง อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี พ.ต.อ.กฤศ จันทร์สว่าง ผกก.สภ.เมือง พร้อมชุดสืบสวน-ชุดพิสูจน์หลักฐาน และสมาคมร่วมใจสวนแตง รุจตรวจสอบที่เกิดเหตุ

จุดเกิดเหตุ อยู่บริเวณลานจอดรถ หน้าศูนย์อาหาร พบผู้บาดเจ็บนอนหายใจรวยริน ทราบชื่อคือ ร.ต.ต.ชาญวิทย์ ดิษฐ์เจริญ หรือ หมวดโย่ง อายุ 53 ปี เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ภ.จว.สุพรรณบุรี สวมเสื้อลาย กางเกงยีนส์ ถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้าที่ท้ายทอย 1 นัด จึงรีบนำส่ง รพ.เจ้าพระยายมราช แต่ทนพิษบาดแผลไม่ไปไวเสียชีวิตในเวลาต่อมา

จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุที่นั่งใต้ต้นไม้ใกล้ร่างผู้บาดเจ็บ พบขวดเหล้า โซดา น้ำแข็ง และกับแกล้มวางทิ้งเอาไว้ ซึ่งของเป็นกลุ่มวัยรุ่นในพื้นที่ หลังก่อเหตุได้หลบหนี และที่พื้นพบปลอกกระสุนปืนขนาด .38 ตกอยู่ 1 ปลอก

นอกจากนี้ ที่ตู้จ่ายน้ำมันยังพบรถจักรยานยนต์ฮอนด้า MSX สีเหลือง-ดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียนจอดไว้ เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมข้อมูลไว้เป็นหลักฐาน

ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุ บริเวณปั๊มน้ำมัน ปตท.สวนแตง อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี น.ส.โปเต้ 27 ปี ผู้จัดการปั๊มน้ำมันจุดเกิดเหตุ เผยว่า เหตุเกิดเวลาประมาณ 23.00 น. ของคืนที่ผ่านมา ขณะนั้นภายในปั๊มน้ำมันมีพนักงานประจำกะเติมน้ำมัน อยู่ 2 คน

พบว่ามีกลุ่มวัยรุ่น 5-6 คน ขี่รถจักรยานยนต์มา 2 คัน รถกระบะ 1 คัน เข้ามาจอดนั่งดื่มสุราบริเวณที่นั่งใต้ต้นไม้ ลานจอดรถหน้าศูนย์อาหารของปั๊ม ซึ่งจากการสอบถามพนักงานที่อยู่ในเหตุการณ์เล่าว่ากลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวได้นั่งดื่มกิน พร้อมเปิดเพลงเสียงดังสนั่น

กระทั่ง ร.ต.ต.ชาญวิทย์ ดิษฐ์เจริญ อายุ 53 ปี เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ภ.จว.สุพรรณบุรี ขี่รถจักรยานยนต์สวมชุดนอกเครื่องแบบ เข้ามาภายในปั๊มน้ำมันเพื่อทำการตรวจตราตามปกติ และได้พบกับกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าว ก่อนจะทำการตักเตือนว่า ห้ามนั่งดื่มกินสุราภายในปั๊มน้ำมัน และให้ออกจากปั๊มน้ำมัน ทำให้หนึ่งในกลุ่มวัยรุ่นไม่พอใจ ใช้อาวุธปืน .38 ยิงใส่ผู้เสียชีวิตเข้าบริเวณช่วงท้ายทอยเกือบถึงศีรษะ จำนวน 1 นัด ก่อนพากันแตกตื่นรีบขี่รถหลบหนีออกจากปั๊มน้ำมันไป พนักงานปั๊มที่เห็นเหตุการณ์รีบประสานตำรวจและรถพยาบาลให้มาเหลือ แต่พบว่าเสียชีวิตในเวลาต่อมา

สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนคิดว่าเป็นการกระทำที่อุกอาจสร้างความหวาดกลัวให้กับพนักงานปั๊มและผู้ที่เข้ามาใช้บริการเป็นอย่างมาก เนื่องจากปั๊มน้ำมันแห่งนี้ไม่เคยเกิดเหตุในลักษณะนี้มาก่อน อีกทั้งปกติแล้วภายในปั๊มน้ำมันมีคำสั่งห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และไม่ให้มานั่งสังสรรค์ดื่มกินถึงภายในปั๊ม รวมถึงก็จะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจเข้ามาตรวจเป็นประจำ แต่ก็ไม่เคยมีปัญหา

ทีมข่าวเดินทางมาที่สถานีตำรวจภูธรเมืองสุพรรณบุรี พบว่าในวันนี้ นายก้อง เพื่อนของผู้ก่อเหตุ หนึ่งในกลุ่มวัยรุ่น ได้เดินทางมามอบตัวกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ รวม 3 คน

หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการสอบสวน นายก้อง เพื่อนของผู้ก่อเหตุ หนึ่งในกลุ่มวัยรุ่น และจะนำตัวไปฝากขังเพื่อรอประกันตัวนั้น นายก้อง เผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุยิงนายตำรวจจนเสียชีวิต ซึ่งผู้ก่อเหตุคือ นายโหม่ง เพื่อนรุ่นน้องที่สนิทกัน อีกทั้งอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุก็ไม่ใช่ของตน และก็ไม่ทราบว่าผู้ก่อเหตุนำอาวุธปืนดังกล่าวมาจากไหน

อย่างไรก็ตาม สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตนยังมองว่าผู้ก่อเหตุเป็นน้องชายที่น่ารักและนิสัยดีคนหนึ่ง แต่ก็ไม่ทราบว่าทำไมถึงลงมือก่อเหตุดังกล่าว ก็ต้องรอทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามตัวมาสอบสวนเพิ่มเติมอีกครั้ง เนื่องจากตอนนี้ ตนเองก็ยังคงไม่สามารถติดต่อกับผู้ก่อเหตุได้เช่นกัน

น.ส.ผึ้ง อายุ 24 ปี แฟนสาวนายก้อง เล่าว่า ขณะเกิดเหตุตนและนายก้อง แฟนหนุ่ม ได้ขับรถกระบะไปที่ปั๊มน้ำมันจุดเกิดเหตุ ช่วง 23.00 น. เพื่อร่วมนั่งดื่มสุรากับนายโหม่ง ผู้ก่อเหตุ ซึ่งเพื่อนของแฟน และกลุ่มเพื่อนรวม 7 คน ประกอบด้วย โหม่ง, ก้อง, ผึ้ง, รัน, ปุ๊กลุก, เต้ย และอีกคนที่ตนไม่รู้จัก

หลังจากที่ตนนั่งดื่มกินกันได้ประมาณ 30 นาที ผู้เสียชีวิตก็ได้ขี่รถจักรยานยนต์เข้ามากล่าวตักเตือน บอกว่าให้กลุ่มของตนเลิกนั่งดื่มแอลกอฮอล์กันภายในปั๊มเนื่องจากส่งเสียงรบกวน ในขณะนั้นกลุ่มเพื่อนของตนก็พยามขอโทษและรับฟังผู้เสียชีวิต แต่ด้านนายโหม่ง ที่อยู่ในอาการเมาสุรา เกิดความไม่พอใจ เดินอ้อมไปที่ด้านหลังของผู้เสียชีวิตแล้วใช้อาวุธปืนยิงใส่เข้าที่บริเวณท้ายทอยของผู้เสียชีวิต อนที่ผู้เสียชีวิตจะล้มลงกับพื้น กลุ่มของตนที่อยู่ในความตกใจ จึงต่างคนต่างแยกย้ายขี่รถออกจากปั๊มจุดเกิดเหตุทันที

กระทั่งในวันนี้ ตนกับแฟนจึงพากันเดินทางเข้ามามอบตัวกับตำรวจ เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าไม่ได้เป็นผู้ก่อเหตุยิงนายตำรวจ แต่ผู้ที่ก่อเหตุคือ นายโหม่ง ขณะนี้ก็หลบหนีอยู่ สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนก็รู้สึกเสียใจและไม่ได้อยากให้เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น จึงอยากจะขอโทษทางครอบครัวผู้เสียชีวิตกับการสูญเสียในครั้งนี้

นางมะลิ (นามสมมติ) อายุ 43ปี น้าสาวของผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า หลานชายคือนายสิทธิพง จ่าสอาด หรือ โหม่ง อายุ 23 ปี ผู้ก่อเหตุ ปกติแล้วหลานชายจะอาศัยอยู่กับตนเองตั้งแต่เด็ก เนื่องจากพ่อกับแม่ของหลานชายแยกทางกันและไม่ได้ติดต่อกลับมาอีก ตนจึงเป็นผู้เลี้ยงดูมาตั้งแต่เล็ก ๆ ปกติหลานชายจะเป็นคนนิ่งเงียบไม่ค่อยพูด แต่จะอารมณ์รุนแรงใจร้อน ก่อนหน้านี้เคยติดคุกคดี ยาเสพติด มาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อ 3-4ก่อน และออกจากคุกมาเมื่อช่วงเดือนเมษาปี 2563 กระทั่งมาเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น

ตนเพิ่งมาทราบข่าวเมื่อช่วงดึกวานนี้ว่าหลานชายอาจเป็นผู้ก่อเหตุ ตนก็รู้สึกตกใจ ล่าสุดที่ตนเจอหลานชายก็เมื่อช่วงเย็นวานนี้ หลานชายได้เข้ามาอาบน้ำก่อนจะออกไปดื่มกินกับกลุ่มเพื่อนที่บริเวณปั๊มน้ำมัน

สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนอยากจะขอโทษทางครอบครัวผู้เสียชีวิตและขอแสดงความเสียใจ ตนรู้ว่าเป็นการกระทำที่รุนแรงเกินกว่าจะให้อภัย แต่ตนก็อยากแสดงความเสียใจด้วยจริง ๆ ทั้งนี้ หากเป็นไปได้ตนอยากพูดกับหลานชายว่า "หากเป็นผู้ก่อเหตุจริง ก็อยากจะให้กลับมามอบตัวโดยเร็ว โทษหนักจะได้กลายเป็นเบา" ตนยืนยันว่าหากสามารถติดต่อหลานชายได้จะรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที ส่วนปมเหตุน่าจะมาจากความใจร้อน เมาสุรา เป็นเหตุให้ขาดสติ

ด้าน พล.ต.ต.ชมชวิณ ปุระธนานนท์ ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี, พ.ต.อ.กฤศ จันทร์สว่าง ผกก.สภ.เมือง ได้นำกำลัง ชุดสืบสวน สภ.เมืองสุพรรณบุรี ชุดสืบสวกก.สส.ภ.จว.สุพรรณบุรี ชุดสืบสวนภาค 7 ลงพื้นที่ไปจำลองเหตุการณ์ที่จุดเกิดเหตุ

ด้าน พ.ต.อ.กฤศ จันทร์สว่าง ผกก.สภ.เมือง เปิดเผยว่า ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจภ.จว.สุพรรณบุรี กำลังเร่งทำการสืบสวน เบาะแสของกลุ่มวัยรุ่นผู้ต้องหา ส่วนมูลเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้เสียชีวิตได้ทำงานช่วงกะดึกและได้ลงไปว่ากล่าวตักเตือนกลุ่มวัยรุ่นไม่ให้มาดื่มสุรา เนื่องจาก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ไม่ให้มีการมั่วสุม จึงทำให้กลุ่มวัยรุ่นเกิดความไม่พอใจ คว้าอาวุธปืนเข้ามายิง ขณะนี้ กำลังทำการรวบรวมพยาน หลักฐานเพื่อเตรียมออกหมายจับ และเข้าไปดำเนินการจับกุม

นางปู อายุ 46 ปี แม่ของนายเต้ย หนึ่งในกลุ่มวัยรุ่น เปิดเผยว่า ในวันนี้ตนพาลูกชายของตนเดินทางเข้ามาให้ปากคำกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจถึงกรณีที่เกิดขึ้นเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ เนื่องจากลูกของตนเองเป็นหนึ่งในกลุ่มวัยรุ่นที่ไปนั่งดื่มกินกันที่บริเวณปั๊มน้ำมันจุดเกิดเหตุจริง แต่ลูกของตนเองได้กลับมาก่อน เนื่องจากเพียงจะไปซื้อสายชาร์จโทรศัพท์มือถือภายในร้านสะดวกซื้อในปั๊มน้ำมัน และบังเอิญไปเจอกับกลุ่มเพื่อนที่นั่งดื่มกินกันอยู่ภายในปั๊มน้ำมัน จึงไปร่วมวงด้วย ก่อนจะขอตัวกลับก่อน

อย่างไรก็ตาม สำหรับนายโหม่ง มีการโพสต์เฟซบุ๊กเกี่ยวกับความชื่นชอบในอาวุธปืนมาโดยตลอด ตรวจสอบพว่าตั้งแต่ปี 2555-2556 โพสต์รูปปืนในรุ่นต่าง ๆ ซึ่งตำรวจกำลังตรวจสอบเกี่ยวกับการก่อเหตุและการครอบครองปืนเพื่อดำเนินคดีต่อไป