ล่าหัว "แก๊ง สันติสุข" ทืบนายแบบ "แบงค์" หวั่นอนาคตดับ ย้อนอดีตร่วมงานซุปตาร์ (คลิป)

จากกรณี เมื่อวันที่ 26 ธ.ค.63 มีผู้ใช้เฟซบุ๊ก "MaM Moji" โพสต์ข้อความระบุว่า "รบกวนทุกคนช่วยแชร์ด้วยคะ ช่วยกันตามหาคนร้ายมารับโทษให้ได้ ลูกแม่กลับมาจาก กทม. เพื่อมาเยี่ยมญาติ และได้มาทานอาหารที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งใน อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ กลับโดนกลุ่มวัยรุ่นทำร้าย

ขณะนี้รักษาตัวอยู่ รพ.บุรีรัมย์ อาการกะโหลกศีรษะร้าว เพราะโดนรุมตี น้องแบงค์เป็นเด็กกิจกรรมที่ไม่เคยเกเรมาก่อน กรุณาช่วยตามหาตัวด้วยคะ อย่าปล่อยให้เด็กเลวพวกนี้ไปทำกับลูกหลานใครแบบนี้อีก ขอให้น้องแบงค์เป็นคนสุดท้าย ที่ต้องมาเจอรุมตี โดยไม่รู้จักกันมาก่อน ขอบคุณนะคะ"

พร้อมโพสต์ภาพขณะน้องแบงค์ นอนอยู่บนเตียงผู้ป่วยในสภาพเบ้าตาบวม มีรอยเขียวช้ำ มีร่องรอยแผลทั่วใบหน้า เมื่อโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไปในโซเชียลฯ ต่างมีผู้คนเข้ามาแสดงความคิดเห็นถึงกรณีที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

เจ้าถิ่นโหด รุมสกรัมนักเต้นรองแชมป์โลกโคม่า แม่น้ำตาคลอห่วงผ่าตัดสมองดับฝันลูก

ล่าสุดวันที่ 27 ธ.ค.63 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปยังรพ.บุรีรัมย์ เพื่อดูอาการของผู้บาดเจ็บ เมื่อไปถึงพบว่าขณะนี้ผู้บาดเจ็บได้ย้ายจากห้อง ICU ออกมาอยู่ห้องพิเศษชั้น 7 อาคาร 1 ศัลยกรรม-ศัลยกรรมกระดูก โดยมีคนในครอบครัวและเพื่อนต่างเดินทางมาเยี่ยมดูอาการอยู่เรื่อย ๆ

ทีมข่าวได้พูดคุยกับ นางกาญจนา ภูวนผา อายุ 40 ปี แม่ของผู้บาดเจ็บ เปิดเผยว่า ขณะนี้อาการล่าสุดลูกชายได้ออกจากห้องไอซียูมารักษาตัวต่อที่ห้องพิเศษแล้ว โดยอาการล่าสุดลูกชายมีอาการกะโหลกศีรษะร้าว มีเลือดคั่งในสมองชั้นนอกเริ่มขยายใหญ่ขึ้น บริเวณใบหูด้านขวาฉีก ใบหน้าบวมช้ำจากการถูกทำร้าย เบื้องต้นทางแพทย์ได้ทำการสแกนสมองไปแล้วถึง 2 ครั้ง เพื่อเตรียมตัวดูอาการต่อไปสักระยะ หากอาการไม่ดีขึ้นจึงจะต้องมีการผ่าตัดสมอง โดยขณะนี้ลูกชายยังอยู่ในอาการมึนงง และไม่สามารถตอบคำถามอะไรได้รวดเร็วหนัก

อย่างไรก็ตาม สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนรู้สึกโกรธแค้นที่คู่กรณี มาทำกับลูกชายของตนแบบนี้ เพราะขนาดตนเป็นแม่ยังไม่เคยตีลูกถึงขั้นนี้ อีกทั้งเกรงว่าลูกชายของตนหากหายดีจะไม่สามารถกลับมาเต้นได้เหมือนเดิม จึงเป็นห่วงอนาคตลูก

ส่วนตัวยอมรับว่า หากเจอคู่กรณีตนจะตั้งสติได้หรือไม่ กับการกระทำที่เกิดขึ้น แต่ก็อยากให้ทางคู่กรณีกลับมารับผิดชอบ สำหรับการกระทำในครั้งนี้อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการเอาผิดคู่กรณีให้ถึงที่สุด เนื่องจากก่อเหตุอุกอาจเกินไป อีกทั้งลูกชายของตนเป็นคนดี เป็นคนเก่ง ตั้งแต่ที่ตนและสามีแยกทางกันไปก็อยู่กับลูกชายกัน 2 คน และลูกชายไม่เคยมีปัญหากับใคร จึงคิดว่าลูกชายไม่น่าจะต้องมาประสบเหตุแบบนี้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ ออกหมายเรียกกลุ่มวัยรุ่นที่ร่วมกันก่อเหตุทำร้ายร่างกาย นายนพรัตน์ แล้วจำนวน 3 คน เป็นวัยรุ่นในพื้นที่ อ.ละหานทราย อายุ 20-23 ปี เพื่อมาสอบปากคำและรับทราบข้อกล่าวหา หากไม่มาตามหมายเรียกก็จะออกหมายเรียกครั้งที่ 2 และออกหมายจับตามขั้นตอน

ส่วนจะมีคนอื่นร่วมก่อเหตุอีกหรือไม่ จะทำการสอบปากคำผู้เกี่ยวข้องและรวบรวมหลักฐาน เพื่อออกหมายเรียกเพิ่มเติม ทั้งนี้จากการสอบประวัติผู้ที่ถูกออกหมายเรียกเบื้องต้น พบว่า 2 ใน 3 คนเพิ่งพ้นโทษในคดียาเสพติดเมื่อไม่นานมานี้

หลังจากนั้นทีมข่าวได้พูดคุยกับ นายนัฐวุฒิ ฉลองกลาง อายุ 34 ปี ลูกพี่-ลูกน้องที่อยู่ในเหตุการณ์ เปิดเผยว่า นายนพรัตน์ บุญรัตน์ หรือ แบงค์ อายุ 23 ปี เพิ่งเดินทางกลับจากกรุงเทพฯ เมื่อประมาณ 22.00 น. ของวันที่ 23 ธ.ค.63 เพื่อมาเยี่ยมญาติที่บ้าน เลขที่ 225 /2 หมู่ 6 โคกจำปี ต.ละหานทราย อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์

โดยตนเป็นลูกพี่ลูกน้อง จึงได้ชวนกันไปรับประทานอาหารที่ร้านแห่งหนึ่ง ในอ.ละหานทราย จากนั้นก็นั่งดื่มกินกันจนถึงเวลาประมาณเที่ยงคืน ระหว่างนั้นไม่ได้มีปัญหาอะไรกับใคร แต่มีวัยรุ่นกลุ่มใหญ่นั่งดื่มกินอยู่อีกโต๊ะ ซึ่งตนและนายนพรัตน์ ก็ไม่ได้รู้จัก ก่อนเกิดเหตุช่วงที่ตนลุกจากโต๊ะเดินไปเข้าห้องน้ำ วัยรุ่นในกลุ่มดังกล่าวถามตนว่า "ไปไหนครับ ขอยืมไฟแช็กหน่อย" ตนจึงตอบกลับว่า "ไปเข้าห้องน้ำ" แล้วก็มาขอเหล้าที่โต๊ะกิน ซึ่งนายนพรัตน์ ก็ชงเหล้าแบ่งให้กิน ด้วยความอัธยาศัยดี เพราะคิดว่าเป็นคนมาเที่ยวทักทายกันตามปกติ

แต่เมื่อตนเดินออกมาจากห้องน้ำ ก็เห็นกลุ่มวัยรุ่นชาย 4 คน ประกาศตัวอ้างว่ามาจากบ้านสันติสุข กำลังรุมทำร้ายร่างกายนายนพรัตน์ อยู่ ทั้งเตะต่อย กระทืบ ขวดตี และใช้เก้าอี้ฟาดซ้ำ ตามคลิปที่ปรากฏ ทั้งตน พนักงานในร้าน พยายามจะเข้าไปช่วย แต่ถูกกลุ่มวัยรุ่นที่มาด้วยกันขวางเอาไว้และขู่ห้ามช่วย เมื่อนายนพรัตน์ สลบ กลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุก็พากันหลบหนีไป

นายนัฐวุฒิ กล่าวต่อว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนยืนยันว่าไม่ได้มีเรื่องกับกลุ่มที่ก่อเหตุเลย แต่กลับมาโดนรุมทำร้ายแบบนี้ตนคิดว่าเกินไป ตนเชื่อว่าตีมั่ว หรือตีเพื่อความสะใจ หรือต้องการสร้างจุดเด่นให้ตัวเองเจ๋ง จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดี เพราะสงสารนายนพรัตน์ ที่ต้องมาเจอเหตุการณ์ในลักษณะนี้ ทั้ง ๆ ที่ไม่เคยมีปัญหาหรือรู้จักกันมาก่อน

อีกทั้งมีความกังวลในเรื่องอาการบาดเจ็บเกรงว่า นายนพรัตน์ หากอาการหายดีแล้ว จะไม่สามารถกลับมาเต้นและรับงานได้เหมือนเดิม จึงอยากให้ผู้ก่อเหตุกลับมารับผิดชอบและชดใช้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ในส่วนของเรื่องคดีความก็ปล่อยให้เป็นไปตามขั้นตอนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่อยากวอนขอว่า อย่านิ่งเฉยและให้ช่วยปฏิบัติหน้าที่เสมือนคิดว่าผู้ที่บาดเจ็บ เป็นคนในครอบครัวของท่านถูกกระทำ

เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ละหานทราย ระบุว่า ผู้ที่ถูกทำร้ายร่างกายชื่อ นายนพรัตน์ บุญรัตน์ หรือแบงค์ อายุ 23 ปี ปัจจุบันเรียนอยู่มหาวิทยาลัยหอการค้า และรับงานอีเวนต์เป็นนักเต้นของศิลปินชื่อดังหลายคน ทั้งยังเคยเป็นตัวแทนนักกีฬาของประเทศไทย ไปแข่งเต้นในหลายประเทศ ล่าสุดเมื่อปี 2561 ได้คว้ารางวัลเหรียญเงินรองแชมป์โลกประเภทนักเต้น Hip Hop Doubles ที่ประเทศโปแลนด์

ก่อนเกิดเหตุได้เดินทางกลับมาเยี่ยมญาติที่ อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ และเมื่อวันที่ 23 ธ.ค.63 ได้ไปนั่งรับประทานอาหารที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งใน อ.ละหานทราย กับญาติซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน แต่กลับถูกกลุ่มวัยรุ่นหลายคนที่ไปนั่งดื่มกินในร้านดังกล่าว รุมทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บสาหัสกระโหลกศีรษะร้าว ซึ่งขณะนี้ยังรักษาตัวอยู่ที่ รพ.บุรีรัมย์ เบื้องต้น ขณะที่เจ้าหน้าที่ก็ทราบตัวกลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุแล้ว อยู่ระหว่างติดตามตัวมาสอบปากคำและดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

นายนพรัตน์ บุญรัตน์ หรือ แบงค์ อายุ 23 ปี ผู้บาดเจ็บ พูดกับทีมข่าวสั้น ๆ ว่า ตนยอมรับว่าตนแค่เดินทางไปเที่ยวกับลูกพี่ลูกน้องเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาจะไปหาเรื่องใคร และยืนยันว่าไม่รู้จัก หรือมีปัญหากับทางกลุ่มคู่กรณี ที่ก่อเหตุมาก่อน จึงไม่เข้าใจว่าการกระทำที่เกิดขึ้นกลุ่มคู่กรณีทำไปด้วยจุดประสงค์อะไร ถึงก่อเหตุกับตนจนได้รับบาดเจ็บสาหัสเช่นนี้

แต่อย่างไรก็ตาม ตนอยากวอนให้เจ้าหน้าที่เร่งดำเนินการเอาผิดคู่กรณีถึงที่สุด เนื่องจากไม่อยากให้ไปก่อเหตุดังกล่าวกับผู้อื่นอีก

สำหรับประวัติของผู้บาดเจ็บ ตั้งแต่อายุ 8-9 ขวบ ไม่เคยเรียนการเต้น เน้นอาศัยเปิดอินเทอร์เน็ตฝึกฝนด้วยการจดจำ และนำมาทำตามจนเก่งมีความสามารถ

ส่วนประวัติรางวัลที่เคยได้รับเบื้องต้น
- รางวัล 2 ของโลก การแข่งขันเต้นที่ประเทศเกาหลีใต้ ปี 2017
- รางวัล 2 ของโลก การแข่งขันเต้นที่ประเทศโปแลนด์ ปี2018
- รางวัลที่ 1 ตัวแทนประเทศไทย การแข่งขันเต้นที่ประเทศสหรัฐอเมริกา (ไม่ทราบปี)
- รางวัล 1 (ของโลก) การแข่งขันเต้น ที่ประเทศเยอรมัน ปี 2019

- รับสอนเต้นตามสตูดิโอที่เปิดสอน
- รับสอนเต้นให้กับเพื่อนนักเรียนที่สนใจ
- รายได้การทำงานต่อเดือนขั้นต่ำ 5 หมื่นบาท 

ประวัติเคยร่วมงานศิลปิน-ดารา
- เป๊ก ผลิตโชค
- ชิน ชินวุฒ
- ไอซ์ พาริส
- แจ๊ส ชวนชื่น
- โตโน่ เดอะสตาร์
- ริท เดอะสตาร์

ทีมข่าวเดินทางไปพูดคุยกับ นายภาณุวัชร สุนทวงษ์ หรือ ออมสิน อายุ 23 ปี เพื่อนสนิทของแบงค์ เปิดเผยว่า ตนรู้จักกับแบงค์ ตั้งแต่ อายุ 15 ปี หรือ พ.ศ.2555 เพราะเป็นเพื่อนในโครงการทูบีนัมเบอร์วัน และห่างหายกันไป เนื่องจากต่างคนต่างทำหน้าที่ของตัวเอง และมาเจอกันอีกครั้งเมื่อช่วงอายุ 20 ปี หรือ พ.ศ.2560 ที่ค่ายเพลงแห่งหนึ่งในกรุงเทพ และทราบว่าแบงค์เป็นแดนเซอร์แล้ว โดยที่ผ่านมาแบงค์ จะเรียนรู้และฝึกฝนการเต้นโดยตลอด กระทั่งไปรวมทีมกับเพื่อน ๆ คนอื่น ๆ และเริ่มแข่งขันมาเรื่อย ๆ นิสัยของแบงค์เป็นคนดี ไม่ชอบมีเรื่องมีราวกับใคร และเป็นคนที่ชอบอยู่กับเพื่อนมาก

เมื่อตนทราบว่าแบงค์โดนรุมทำร้าย รู้สึกเสียใจ และแย่มาก ส่วนตัวมองว่าสาเหตุที่แบงค์ถูกทำร้าย เพราะเป็นวัยรุ่นต่างที่ ที่เข้ามาในพื้นที่เจ้าถิ่นจึงถูกทำร้าย แต่ตนไม่สามารถพูดอะไรได้มาก เพราะคงต้องรอให้แบงค์หายดี และออกมาพูดด้วยตัวเองจะดีกว่า ล่าสุดตนได้คุยกับแม่ของแบงค์แล้ว ตนก็ได้ให้กำลังใจ

ทั้งนี้ตนและแบงค์วางแผนไว้ว่า อาจจะมีการร่วมงานกัน และคุยกันเมื่อวันที่ 23 ธ.ค.63 ที่ผ่านมา แต่แบงค์ก็หายไปสักพัก ตนก็ไม่ได้เอะใจอะไร กระทั่งมาทราบข่าวว่าเพื่อนถูกทำร้ายร่างกาย หลังจากที่แม่ของแบงค์เป็นผู้โพสต์ลงในเฟซบุ๊ก ตนพูดไม่ออกกับคนก่อเหตุ กลัวจะหยาบไป อยากให้มามอบตัวมากกว่า และมองว่าทำรุนแรงเกินไป ไม่ใช่การทะเลาะวิวาท แต่เป็นการพยายามฆ่ามากกว่า อยากถามว่า แบงค์ทำอะไรให้ถึงต้องทำกันถึงขั้นกะโหลกร้าว

อย่างไรก็ตาม ตนยืนยันว่าก่อนหน้านี้แบงค์ไม่เคยมีปัญหากับใคร ไม่มีใครอยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ อยากให้คนผิดรับโทษถึงที่สุด ส่วนเรื่องคดีความก็ต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของครอบครัวดำเนินการต่อไป