จับแก๊งฆ่าหนุ่มยัดกระสอบร่วมหัวกับญาติฆ่า แค้นแอบตีซี้เมียแต่ผัวดันมาเจอ (คลิป)

กรณีพบศพชายไทยไม่ทราบชื่อ ถูกฆ่าตาย-มัดมือมัดเท้า และใช้ผ้าขาวม้ารัดคอ นำศพยัดกระสอบโยนทิ้งไว้กลางทุ่งนา ในพื้นที่หมู่ 2 ต.วังบ่อ อ.หนองบัว จ.นครสวรรค์ ซึ่งเจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่า ผู้ตายน่าจะถูกฆาตกรรมมาจากที่อื่น แล้วนำศพยัดกระสอบมาทิ้งไว้ ตามที่ได้มีการนำเสนอข่าวไปแล้วนั้น

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

เบาะแสศพมัดมือเท้ายัดกระสอบทิ้งป่า คาดเป็นหนุ่มทะเลาะวัยรุ่นในเพชรบูรณ์ถูกฆ่าทิ้งอำพราง

ล่าสุดทราบว่า ผู้ที่โดนฆ่ามัดมือมัดเท้ายัดกระสอบ คือ นายคนึง เจริญรัตน์ อายุ 48 ปี ชาว อ.รัตนบุรี จ.สุรินทร์ แต่พักอาศัยอยู่กับภรรยาและลูก อยู่ในพื้นที่ อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์ จึงได้เดินทางไปตรวจสอบที่บ้านของภรรยานายคนึงทันที

ล่าสุดวันที่ 21 ธ.ค.63 ทีมข่าวอมรินท์ ทีวี เดินทางมายังจุดเกิดเหตุ ที่บ้านซับตะเคียนทอง ต.เพชรละคร อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งเป็นบ้านของนางไพลิน และนายคนึง ผู้เสียชีวิต สภาพเป็นบ้านสองชั้น ครึ่งไม้ครึ่งปูน มีรั้วรอบขอบชิด จุดที่เกิดเหตุคือบริเวณกองไฟหน้าบ้าน

นางทอง (นามสมมติ) เพื่อนบ้านของนายไพลิน ให้สัมภาษณ์ว่า เวลาประมาณ 19.00 น. ของวันที่ 19 ธ.ค.63 นางไพลิน (ภรรยาคนตาย) ได้นั่งผิงไฟ ดื่มเหล้า และกินข้าวพร้อมกับนายจวบ แม่ของนางไพลิน และลูกสาววัย 12 และ 4 ขวบ

ส่วนนายคนึง ผู้เสียชีวิตและเป็นสามีนางไพลิน ได้นั่งกินข้าวกับเพื่อนบ้านที่อยู่ห่างกันอีก 50 เมตร จากนั้นนายคนึง ได้เดินเดินกลับไปบ้าน ไปเจอภรรยานั่งดื่มเหล้าผิงไฟ อยู่กับนายจวบ ทำให้นายคนึงเกิดการหึงหวง และเข้าไปชกต่อยและใช้ไม้ตีนายจวบ จนนายจวบได้รับบาดเจ็บ และนายจวบก็สู้นายคนึงไม่ไหว วิ่งหนีไปอีกประมาณ 100 เมตร

จากนั้นนายจวบได้โทรศัพท์หาพรรคพวกที่อยู่ต่างหมู่บ้าน ประกอบด้วยนางติ๋ม น้องสาวนายจวบ นายกัน นายโก้ เพื่อนนายจวบ และผู้หญิงอีกคนหนึ่งที่เป็นภรรยานายกัน โดยมารถ 2 คัน เป็นรถเก๋ง 1 คัน และรถกระบะ 1 คัน เพื่อให้มารุมทำร้ายและอุ้มตัวนายคนึง มัดมือมัดเท้าออกไปนอกพื้นที่ ส่วนตัวแล้วคิดว่าเรื่องราวทั้งหมด น่าจะมาจากเรื่องการหึงหวง ซึ่งนายคนึง หึงนางไพลินที่อยู่กับนายจวบ จึงไปทำร้ายนายจวบ พอนายจวบสู้ไม่ไหว จึงได้พาพรรคพวกมาเอาคืน

สำหรับนางไพลินนั้น ตนก็ได้ยินมาว่า ก่อนจะเกิดเหตุก็หายออกจากบ้านไปกับนายจวบกว่า 2 วัน และอาจเป็นอีก 1 ปมเหตุที่ทำให้นายจวบหึงหวง กระทั่งตนมาทราบข่าวในช่วงเช้าของวันที่ 20 ธ.ค.63 ว่าพบศพนายคนึง สำหรับนางไพลินนั้น เป็นคนที่เจ้าชู้ คบหาผู้ชายหลายคน และนางไพลินก็เป็นคนที่ขี้เมาอีกด้วย เหตุครั้งนี้ถ้านายจวบก่อเหตุจริง ตนก็คิดว่าเขาทำเกินกว่าเหตุ และท้าทายกฎหมายมาก คนเรามีปัญหากันน้องพูดคุยกัน จะอุ้มฆ่ากันเหมือนในละครไม่ได้

นายเลง ลอยนิสัย น้าของนางไพลิน ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ว่า ก่อนเกิดเหตุนายคนึง นั่งทานข้าวที่บ้านของตน ห่างจากบ้านของนางไพลิน ประมาณ 50 เมตร จากนั้นนายคนึง ได้เดินกลับไปที่บ้านของเขา และเห็นภรรยานั่งอยู่กับนายจวบ จึงได้เกิดอาการหึงหวง และชกต่อยกับนายจวบ จากนั้นนางไพลิน ก็วิ่งเข้ามาหาตนที่บ้านเพื่อให้ตนไปช่วยแยกนายคนึงกับนายจวบ ตนจึงได้ไปแยกทั้ง 2 คนออกจากกัน จากนั้นนายจวบก็เดินออกไปจากบ้าน และแม่ของนางไพลินก็โทรศัพท์ไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ส่วนเหตุที่นายจวบมาอุ้มนายคนึงไปนั้น ตนไม่รู้ไม่เห็นเหตุการณ์ มารู้ข่าวอีกทีคือเช้าวันที่ 20 ธ.ค.63 ว่านายคนึงเสียชีวิตแล้ว สำหรับนายคนึงกับนายจวบ ที่ผ่านมาตนก็ไม่เคยเห็นเขามีเรื่องด้วยกัน และสำหรับนางไพลิน และนายจวบ ตนก็พอรู้ว่าหลานสาวตนคบหากับนายจวบ เขาเคยเล่าให้ตนฟังบ่อย ๆ ตนก็รู้สึกเห็นใจคนตาย

ทีมข่าวเดินทางมายังป้อมบึงสามพัน อ.บึงสามพัน จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งวันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้นำรถเก๋ง ที่ใช้ในการก่อเหตุ มาไว้เป็นหลักฐานอยู่ที่ป้อมดังกล่าว เป็นรถเก๋งสีบรอนซ์เงิน

นางติ๋ม น้องสาวของนายจวบ กล่าวว่า วันเกิดเหตุนายจวบ พี่ชายตนได้โทรหาตนว่าเขาถูกทำร้าย ด้วยความเป็นห่วง ตนและนายโก้ พร้อมกับนายกัน ภรรยานายกัน รวม 4 คน ได้ขับรถ 2 คัน เป็นรถเก๋ง 1 คัน และรถกระบะ 1 คัน ออกไปรับนายจวบ ในบ้านที่เกิดเหตุ ส่วนความสัมพันธ์ของนายจวบ กับนางไพลิน ตนไม่รู้เขามีความสัมพันธ์กันแบบไหน แต่ตนเคยเจอนางไพลินครั้งสองครั้งในวงไฮโลเท่านั้น

แต่สำหรับเหตุที่เกิดขึ้น ตนก็อยากให้นายจวบ พี่ชายมามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้เขาออกมาพูดความจริง ถึงตนจะเห็นเหตุการณ์หรือไม่เห็นเหตุการณ์ ตนก็ไม่อยากจะพูด พูดไปเดี๋ยวไม่ตรงกับที่ให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตนเกิดมาไม่คาดคิดว่าจะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับพี่ชาย ถ้าตนรู้ว่านายจวบจะทำแบบนี้ ตนจะไปทำไม

ทีมข่าวได้ข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ตำรวจมาว่า วันเกิดเหตุหลังจากนายจวบ ถูกนายคนึง ผู้เสียชีวิตทำร้ายร่างกายแล้ว นายจวบได้เดินออกมาจากบ้านนางไพลิน 100 เมตร และได้โทรศัพท์หานายโก้ ซึ่งเป็นเครือญาติกัน นายโก้จึงชวนนางติ๋ม น้องสาวนายจวบ และนายกัน ภรรยานายกัน ขับรถไปรับนายจวบ ที่บ้านซับตะเคียนทอง บ้านของนางไพลิน ด้วยรถเก๋ง 1 คัน รถกระบะ 1 คัน พอไปถึงบ้านนางไพลิน นายจวบ ได้เรียกนายคนึง ที่นั่งผิงไฟกับลูกสาวที่หน้าบ้านให้ออกมาหา

เมื่อนายคนึงออกมาหา นายจวบได้อุ้มนายคนึง ขึ้นรถเก๋ง โดยให้นายคนึงนั่งหลังรถเก๋ง จากนั้นรถของฝั่งนายจวบ ทั้ง 2 คัน ได้ขับมุ่งหน้าไปที่ หมู่ 8 ต.กันจุ อ.บึงสามพัน จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งตรงนั้นเป็นป่าละเมาะ และได้เอาตัวนายคนึงลงจากรถเก๋ง จากนั้นนายจวบได้ให้นางติ๋ม และนายโก้ขับรถเก๋งกลับบ้าน ต่อมานายจวบได้ทำร้ายร่างกายนายคนึง โดนการใช้ไม้ตี และมีนายกัน ภรรยานายกัน ก็ได้ยืนดู พอนายคนึงร่างกายน่วมหมดสติ นายจวบได้เอาเชือกมามัดมือมัดเท้า เอาร่างนายคนใส่กระสอบ และขับรถกระบะเอาศพไปทิ้งที่ อ.หนองบัว จ.นครสวรรค์

ต่อมาทีมข่าวอมรินทร์ทีวี เดินทางมายังบ้านของนางอุทัย (นามสมมติ) พี่สาวของนายจวบ ซึ่งนายจวบอาศัยอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าว นางอุทัย พี่สาวของนายจวบ เล่าว่า ตนเป็นพี่สาวคนโตของนายจวบ ช่วงเช้าของวันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ได้มาที่บ้านของตน มาถามหานายจวบ และสอบถามตนว่า ที่บ้านของตนมีกระสอบใส่ข้าวเปลือกกี่ใบ ตนจึงตอบตำรวจว่าบ้านของตนมีกระสอบ 4 ใบ และกระสอบทั้งหมดก็อยู่ครบ ไม่มีกระสอบใบไหนหายออกไปจากบ้าน

นางอุทัย เล่าต่อว่า วันที่ 19 ธ.ค.63 นายจวบ มายืมรถมอเตอร์ไซค์กับตนที่บ้าน เขาไม่ได้บอกตนว่าจะไปไหน จากนั้นตนก็ไม่เจอกับนายจวบอีกเลย ส่วนว่าน้องชายไปมีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับนางไพลินจริงหรือไม่นั้น ตนก็ไม่รู้เรื่อง ทีมข่าวจึงนำภาพนางไพลินให้นางอุทัยดูว่าเคยเห็นนางไพลินไปไหนมาไหนกับนายจวบบ้างไหม นางอุทัยก็บอกว่า ตนไม่เคยหน้านางไพลินรายนี้

ส่วนกรณีที่ว่านายจวบ น้องชายตนไปอุ้มนายคนึง ตนก็ไม่รู้เรื่องนี้ ตนตอบไม่ได้ เท่าที่ตนรู้จักน้องชาย น้องชายเป็นคนอ่อนน้อม เป็นที่รักของเพื่อนฝูง แต่ถ้าน้องชายไปก่อเหตุจริง ตนก็อยากให้เขามามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และก็ถือว่าเป็นพฤติกรรมที่โหดร้าย ตนพูไปก็ขนลุกไป ไม่อยากจะเชื่อว่าเขาไปอุ้มฆ่าคนได้