เปิดใจ แท็กซี่โต้ฝรั่งไลฟ์สดโกงเงิน ยันกดมิเตอร์คิดตามจริง เศร้าทำดีแต่ถูกใส่ร้าย (คลิป)

จากกรณี ผู้ใช้เฟซบุ๊ก "Easy English Thai" ซึ่งเป็นชาวต่างชาติ ได้โพสต์คลิปวิดีโอเล่าเหตุการณ์ ขณะที่ตัวเองขึ้นรถแท็กซี่มาจากสนามบิน ไปที่พักโดยแท็กซี่พยายามให้จ่ายราคาเหมา 500 บาท ซึ่งตนไม่ยอมและขอให้เปิดมิเตอร์ ซึ่งอีกฝ่ายก็ยอมเปิดมิเตอร์ จนรถขึ้นทางด่วนแท็กซี่ขอเงินตน 200 บาท ตนคำนวนแล้วเห็นว่าราคาไม่ถึง 100 บาท เท่านั้น จึงจ่ายไปแค่ 100 บาท เมื่อมาถึงที่พัก ราคามิเตอร์อยู่ที่ 375 บาท ตนจ่ายแบงค์ 500 บาท คนขับแท็กซี่ได้บอกว่า พอดี ซึ่งตนไม่ยอมขอจ่ายตามมิเตอร์ คนขับจึงบอกว่ามีค่าเซอร์วิสชาร์จจากสนามบินอีก 50 บาท ตนจึงขอจ่ายในราคารวม 425 บาท ซึ่งคนขับก็เริ่มโวยวายด่าทอตนว่า ขี้งก ขี้เหนียว ก่อนทอนเงินตน

ด้าน นายทองคำ สระแก้ว คนขับแท็กซี่ เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ (17 เม.ย.) ตนรับผู้โดยสารชาวต่างชาติ มาจากสนามบินสุวรรณภูมิ ไปยังคอนโดมิเนียมย่านเมืองทองธานี โดยฝรั่งรายนี้ถามตนก่อนว่าเป็นแท็กซี่มิเตอร์หรือเหมา ตนจึงตอบไปว่า หากเหมาก็คิดราคา 500 บาท แต่หากกดมิเตอร์ก็ราคาตามมิเตอร์ ซึ่งฝรั่งก็ขอให้เปิดมิเตอร์ ตนจึงกดมิเตอร์ตามปกติ จากนั้น ตนได้ขึ้นทางด่วนและขอเงินผู้โดยสาร 100 บาท เพราะค่าทางด่วนต้องจ่าย 3 ด่าน ด่านแรก 25 บาท ด่านสอง 50 บาท และด่านที่สาม 10 บาท รวม 85 บาท ซึ่งตนได้วางเงินทอนไว้ที่หน้ารถ เพราะลืมทอน เมื่อไปถึงจุดหมาย มิเตอร์ค่าโดยสารขึ้นตัวเลข 375 บาท ตนจึงบอกไปว่าค่าเซอร์วิสชาร์จ ที่เรียกจากสนามบินอีก 50 บาท อีกฝ่ายก็เถียงว่าไม่มีค่าเซอร์วิสชาร์จ ตนจึงหยิบสลิปซึ่งเป็นหลักฐานให้ดู อีกฝ่ายจึงยอมจ่าย 500 บาท โดยตนได้ทอนให้ 75 บาท

นายทองคำ ยืนยันว่า ไม่ได้บอกว่า 500 บาทพอดี ตนเพียงถามว่าให้ทิปหรือไม่ เมื่อไม่ให้ตนก็ทอนเงินตามปกติ ส่วนที่มีปากเสียง โวยวายว่าอีกฝ่ายขึ้งก ก็เพราะว่าตอนแรกฝรั่งจะไม่ยอมจ่ายค่าเซอร์วิสชาร์จ โดยค่าทางด่วนตนก็รับมาเพียง 100 บาท และไม่เคยคิดราคาเหมา ที่ตอบไปเพียงเพราะอีกฝ่ายมาถามก่อนว่าเป็นแท็กซี่เหมาหรือมิเตอร์ ทั้งนี้ นายทองคำ ยืนยันว่า ที่อีกฝ่ายพูดไม่เป็นความจริง ตนเป็นแท็กซี่จิตอาสาทำความดีเพื่อสังคมมาตลอด เมื่อมาเจอเหตุการณ์แบบนี้ก็รู้สึกเสียใจ

ด้าน นายสุกรี จารุภูมิ ผู้อำนวยการกองตรวจการขนส่งทางบก กรมการขนส่งทางบก กล่าวว่า ทางกรมการขนส่งฯ ร่วมกับตำรวจท่องเที่ยว ได้ติดตามตัวผู้ถูกร้องเรียนและตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่า ผู้ถูกร้องได้ปฏิเสธข้อหาไม่ใช้มาตรค่าโดยสาร โดยแจ้งว่าได้กดมิเตอร์ค่าโดยสาร แต่ยอมรับว่าได้ใช้กริยาวาจาไม่สุภาพกับชาวต่างชาติคนดังกล่าวจริง จึงได้ลงโทษเปรียบเทียบปรับ ตาม พรบ.รถยนต์ พ.ศ.2522 มาตรา 57 ข้อหาแสดงกริยาวาจาไม่สุภาพ เป็นเงิน 1,000 บาท

ส่วนเรื่องค่าทางด่วนที่ผู้โดยสารไม่ได้รับเงินทอนจำนวน 15 บาท นั้น หากติดใจสามารถไปแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนได้ โดยผู้โดยสารเกิดความเข้าใจผิดว่า คนขับแท็กซี่ขอทิป 50 บาท ซึ่งความจริงคือค่าเซอร์วิสชาร์จ เมื่อเรียกแท็กซี่จากสนามบินตามปกติ ทั้งนี้ตนยืนยันว่าแท็กซี่ทุกคันต้องกดมิเตอร์ หากใช้ราคาเหมาก็จะมีความผิด