กรณีชายหื่นแฝงตัวเข้าไปก่อเหตุ หวังจะลวงเด็กหญิงไปกระทำอนาจารกลางชุมชน ย่านสุขสวัสดิ์ เมื่อวันที่ 8 พ.ย.63 ที่ผ่านมา กระทั่งญาติมาทราบจากภาพกล้องวงจรปิดของเพื่อนบ้าน ในวันที่ 12 พ.ย.63 จับพฤติกรรมของชายคนดังกล่าวอย่างชัดเจน จึงรีบนำหลานเข้าแจ้งความกับตำรวจ เพื่อให้ติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี
โดยภาพจากล้องวงจรปิดหน้าบ้านหลังหนึ่งในชุมชนดังกล่าว จับพฤติกรรมของชายคนหนึ่ง สวมเสื้อโปโลสีชมพู กางเกงขาสั้นสามส่วน โดยช่วงแรกชายคนนี้ยืนอยู่ที่บ้านหลังหนึ่ง คล้ายกำลังจับอวัยวะเพศของตัวเอง และเดินไปมาคล้ายกำลังดูลาดเลา
จากนั้นชายรายนี้จึงเดินออกมาจากบ้านหลังแรก มายืนที่ริมรั้วบ้านอีกหลังหนึ่ง ซึ่งจุดนี้ทำให้กล้องวงจรปิดจับภาพได้อย่างชัดเจน ถอดกางเกงตัวเองออก และใช้เสื้อดึงลงมาปิดอวัยวะเพศไว้ ยืนมองไปด้านหน้า ต่อมามีเด็กผู้หญิงเดินผ่านมา ชายคนนี้จึงเรียกและดึงแขนเด็กหญิงเข้าไปหาตรงอวัยวะเพศคล้ายบังคับให้ทำอะไรบางอย่าง แต่เด็กหญิงตกใจ และรีบเดินออกมา ส่วนชายคนนี้รีบวิ่งหนีออกไป จนพ้นจุดที่กล้องวงจรปิดสามารถจับภาพได้
ล่าสุดวันที่ 12 พ.ย.63 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่ไปยังจุดเกิดเหตุ พบว่าเป็นซอยชุมชนขนาดเล็ก ที่มีบ้านเรือนของประชาชนอยู่หนาแน่น และตรงจุดเกิดเหตุจะเป็นบริเวณบ้านเช่าที่มีรั้วและกำแพงกั้น จึงอาจจะเป็นจุดที่ลับตาคน แต่คนร้ายอาจจะไม่ทันได้สังเกตเห็นกล้องวงจรปิดที่อยู่ตรงหน้าจุดเกิดเหตุ
ทีมข่าวมีโอกาสพูดคุยกับนางติ๋ม (นามสมมติ) อายุ 53 ปี ย่าของเด็กที่ถูกกระทำ เปิดเผยว่า วันที่เกิดเหตุน้องเอ (นามสมมติ) หลานของตน อายุ 6 ขวบ ออกมาวิ่งเล่นตามปกติ ในเวลาประมาณ 16.00 น. ที่บริเวณทางเดินหลังบ้าน ตนก็ไม่ได้คิดเอะใจอะไร และโดยปกติที่เกิดเหตุจะมีเจ้าของบ้านออกมานั่งเล่นจำนวนมาก เนื่องจากเป็นวันอาทิตย์ แต่คาดว่าวันเกิดเหตุคนในละแวกนั้นอาจจะกลับต่างจังหวัด และนอนพักผ่อนอยู่ในบ้าน จึงไม่ค่อยมีคนอยู่บริเวณนั้น
หลังจากกลับมาน้องเอ บอกว่า มีคนโรคจิตเอาอวัยวะเพศให้ดู และทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น หลังจากเกิดเหตุผู้ชายคนนั้นก็วิ่งออกไป และน้องเอก็วิ่งกลับบ้าน แต่น้องไม่หวาดกลัว แค่ตกใจ และที่ผ่านมาหลังจากเกิดเหตุก็มีอาการปกติ ไม่มีอาการร้องไห้แต่อย่างใด แต่บอกว่าต่อไปนี้จะไม่ออกมาวิ่งเล่นแล้ว ซึ่งที่ผ่านมาเรื่องไม่เคยเกิดขึ้น และตนก็กลัวอยู่เหมือนกัน โดยต่อจากนี้จะดูแลหลานเป็นพิเศษ ไม่ให้ไปวิ่งเล่นไกลมาก ให้วิ่งเล่นแถวบ้านก็พอ
ทั้งนี้ตนมองว่าคนร้ายน่าจะมีอาการทางจิต และตนก็ไม่เคยเห็นมาก่อน ซึ่งหลังจากจับคนร้ายได้ ยืนยันว่าจะดำเนินคดีถึงที่สุด เพราะเป็นภัย เป็นขยะสังคม อยากฝากให้ผู้ปกครองทุกคนระวัง และดูแลลูกหลานให้มากกว่านี้ อย่าปล่อยปะละเลย ต้องติดตามลูกหลานตลอด ไม่ให้อยากปล่อยพ้นหูพ้นตาเด็ดขาด
นอกจากนี้ทีมข่าวยังมีโอกาสพูดคุยกับ นางกัลยาณี โสภาค อายุ 69 ปี ชาวบ้านใกล้จุดเกิดเหตุ เปิดเผยว่า วันเกิดเหตุ ไม่ได้ยินอะไรเลย ได้ยินเด็กวิ่งไปวิ่งมาและหยอกล้อเล่นกันตามปกติ และตอนนั้นกำลังย้อมและตัดผมให้แฟนอยู่ที่หลังกำแพงบริเวณในบ้าน และเด็กที่โดนกระทำก็ไม่ได้ร้องขอความช่วยเหลือ
แต่ก่อนเกิดเหตุตนสังเกตเห็นเพียงเล็กน้อยว่ามีคนแปลกหน้าที่ตนไม่รู้จัก เดินผ่านหน้าบ้านตามช่องว่างของกำแพง และเป็นคนเดียวกับที่อยู่ในคลิป แต่พอตนหันมาดูอีกทีก็หายไปแล้ว ซึ่งตนก็ไม่ได้สงสัยว่ามาทำอะไร เพราะปกติบริเวณนี้จะมีคนเข้าออกเยอะอยู่แล้ว
อย่างไรก็ตาม ตนก็ค่อนข้างกลัว เพราะวันธรรมดาเวลาแฟนไปทำงาน ตนก็ต้องอยู่ที่บ้านคนเดียว ซึ่งหลังจากเกิดเหตุก็มีเพื่อนบ้านมาหา และพูดคุยด้วยเพราะเป็นห่วง ตนอยู่ที่นี่มา 50 ปีไม่เคยมีเหตุการณ์แบบนี้เลย ตั้งแต่เป็นสาวจนกระทั่งแก่ นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้
