กรณีพนักงานร้านอาหารชื่อดัง ติดต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เข้าช่วยเหลือน.ส.สมศรี สกุลทองใบ อายุ 85 ปี ภายในบ้านพักในหมู่บ้านเมืองทองธานี โครงการ 2 หลังขาดการติดต่อไป 5 วัน ทั้งที่ปกติจะต้องสั่งอาหารที่ร้านเป็นประจำ
เมื่อเข้าไปตรวจสอบพบ น.ส.สมศรี นั่งอยู่ในสภาพร้องโอดโอยจากการบาดเจ็บที่สะโพกขวา อยู่ทางขึ้นบันไดชั้น 2 เจ้าหน้าที่เร่งช่วยเหลือเคลื่อนย้ายนำส่งที่ รพ.ชลประทาน จ.นนทบุรี
ล่าสุดวันที่ 11 พ.ย.63 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้พูดคุยกับ น.ส.อำคา ยศทะแสน อายุ 45 ปี พนักงานแคชเชียร์ร้านเอส แอนด์ พี กล่าวว่า น.ส.สมศรี เป็นลูกค้าประจำของทางร้านมาประมาณ 5 ปีแล้ว โดยก่อนหน้านี้จะมีพนักงานไรเดอร์ขี่ไปส่งอาหารให้ที่บ้านประจำ แต่ช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ตนเป็นคนไปส่งอาหารให้น.ส.สมศรี ด้วยตัวเอง จนเกิดเป็นความผูกพัน น.ส.สมศรี จะชอบพูดว่า "คิดถึงนะ จะมาหาอีกไหม" บางครั้งจะขอให้ตนอยู่รอจนกินข้าวเสร็จ
โดยตนไปส่งอาหารให้ล่าสุดเมื่อวันที่ 5 พ.ย.63 ที่ผ่านมา จากนั้น น.ส.สมศรี เงียบหายไป 4 วัน ตนคอยไปดูที่หน้าบ้านทุกวันเห็นไฟเปิดอยู่ ได้ยินเสียงทีวีจากในบ้าน แต่เรียกแล้วไม่มีเสียงตอบรับ ก็ไม่ได้คิดอะไร
กระทั่งในวันที่ 10 พ.ย.63 ที่ผ่านมา ช่วงเช้าจึงเข้าไปเรียกอีกครั้ง แต่ยังไม่มีเสียงตอบรับเหมือนเดิม ด้วยความเป็นห่วงจึงตัดสินใจโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก่อนปีนประตูรั้วบ้านเข้าไป แล้วเข้าไปงัดประตูหน้าบ้าน พบว่า น.ส.สมศรี นั่งอยู่ที่บันไดเกือบขั้นสุดท้าย พร้อมร้องไห้ด้วยความเจ็บปวด คาดว่าน่าจะลื่นล้มลงมา ก่อนที่กู้ภัยจะนำตัวส่งโรงพยาบาล โดยตนได้ตามไปดูแลอย่างใกล้ชิด เพราะน.ส.สมศรี เป็นคนที่กลัวคนแปลกหน้า จะต้องมีตนคอยอยู่ใกล้ ๆ ตลอด
โดยแพทย์เอกซเรย์ พบว่าร่างกายปกติ แต่ไม่มีแรงเพราะขาดสารอาหาร จึงจัดยาก่อนให้กลับบ้านได้ในช่วงค่ำ ซึ่งตนก็อยู่ดูแลจนถึงเวลา 03.00 น. ก่อนกลับบ้าน โดยก่อนกลับ น.ส.สมศรี ร้องไห้ อยากให้ตนอยู่ต่อ ตนก็สงสารแต่ต้องตัดใจ เพราะต้องกลับมาทำงานในช่วงเช้า ทั้งนี้ที่ผ่านมาน.ส.สมศรี ชวนให้ตนย้ายไปอยู่ด้วยกันหลายครั้ง แต่ตนปฏิเสธ และสัญญาว่าจะมาดูแลทุกวัน คิดว่า น.ส.สมศรีน่าจะรู้สึกเหงา
โดยตนไม่รู้ว่า น.ส.สมศรี มีญาติหรือไม่ เพราะที่ผ่านมาอยู่บ้านคนเดียวตลอด ตนเคยถามถึงญาติ ก็มักมีอาการน้อยใจ จึงไม่กล้าถามต่อ ส่วนตัวอยากฝากสื่อให้ช่วยติดต่อญาติให้เข้ามาดูแลเพราะเป็นห่วงน.ส.สมศรีมาก แม้ตนจะคอยดูแล แต่คิดว่าหากมีญาติโดยตรงมาอยู่ด้วยน่าจะดีกว่า
จากเหตุการณ์ เมื่อวันที่ 10 พ.ย.63 โดยปกติ คุณป้าสมศรี ซึ่งเป็นลูกค้าประจำของทาง S&P จะโทรมาสั่งอาหารกับคุณอำคา เป็นประจำทุกวัน จนกระทั่งคุณป้าสมศรีหายจากการสั่งอาหาร คุณอำคาเริ่มเอะใจว่าทำไมคุณป้าไม่โทรมาสั่งอาหารเลยนานถึง 5 วัน ด้วยความเป็นห่วง คุณอำคา จึงพยายามโทรติดต่อคุณป้าสมศรี แต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้ จึงตัดสินใจมาหาคุณป้าที่บ้าน ซึ่งได้พบว่า ไฟหน้าบ้านเปิดอยู่ และมีกุญแจล็อกจากด้านในบ้าน คุณอำคาเกรงว่าคุณป้าจะได้รับอันตราย จึงรีบโทรแจ้งเจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบและให้การช่วยเหลือ
เวลา 14.30 น. วันที่ 10 พ.ย.63 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งมาถึงบ้านคุณป้าสมศรี ตัดสินใจงัดประตูหน้าบ้านในขณะที่กำลังงัดประตูก็ได้ยินเสียงคนร้องจากด้านในก็มั่นใจว่าคุณป้า ยังไม่เสียชีวิต และพบว่าตัวคุณป้านั่งอยู่ที่พื้นทางขึ้นบันไดชั้น 2 ซึ่งสันนิษฐานว่าแกน่าจะพลัดตกบันไดจนได้รับบาดเจ็บ
ทางเจ้าหน้าที่เร่งช่วยเหลือเคลื่อนย้ายนำส่งที่โรงพยาบาล เบื้องต้นพบว่ามีอาการอ่อนเพลียและมีร่องรอยเขียวช้ำที่สะโพกขวา ซึ่งล่าสุดได้รับแจ้งว่าคุณป้าสมศรี ปลอดภัยแล้ว
เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านคุณยายอีกครั้ง พบว่าคุณยายกลับมาที่บ้านแล้ว แต่ขอพักผ่อนและยังไม่สะดวกให้สัมภาษณ์ เพราะยังมีอาการอ่อนเพลีย จากการสอบถามเพื่อนบ้าน บอกว่า ที่ผ่านมา คุณยายอาศัยอยู่บ้านคนเดียว จะมีหลานคอยแวะมาดูแลเป็นครั้งคราว แต่ส่วนใหญ่คนที่จะมาดูแลคุณยาย คือ พนักงานคนดังกล่าว ที่จะมาส่งอาหารให้บ่อยครั้ง แต่บางวันคุณยายก็สั่งเอ็มเค มารับประทานบ้าง
ส่วนที่คุณยาย ไม่ได้สั่งอาหารนาน 5 วัน ทำให้พนักงานเอะใจนั้น ยอมรับว่าตนก็ไม่ได้สังเกต เพราะที่ผ่านมาคุณยายไม่ค่อยได้ออกจากบ้าน และปกติคุณยายจะแข็งแรง บางวันก็เห็นทำงานบ้าน กวาดบ้านเองบ้าง พอทราบข่าวก็ตกใจ
อย่างไรก็ตาม ทีมข่าวสอบถามไปยัง นพ.สิทธา ลิขิตนุกูล เจ้าของเพจคุณหมอสตอรี่ บอกว่า อาการขาดอาหารและน้ำ ถ้าขาดน้ำจะเสียชีวิตได้ภายใน 3 วัน แต่ถ้าขาดอาหาร จะเสียชีวิตได้ภายใน 3 สัปดาห์
_2.jpg)
