"ทนายโก้" สุดทน ถูกร้องสอบมรรยาท เตือนคนเคลื่อนไหวอย่าทำให้สภาฯ ถูกรังเกียจ (คลิป)

22 มี.ค. 61
จากกรณีที่ น.ส.ณุมาพร พัฒนพงศธร หรือ "ทนายตุ๊กตา" ได้เข้ามายื่นหนังสือถึงคณะกรรมการมรรยาท ให้มีการตรวจสอบพฤติกรรมของอุปนายก เน่ื่องจากเห็นว่า อุปนายกทั้งคู่มีการทำเรื่องไม่ถูกต้องตามข้อบังคับของสภาทนายฯ คือการเอาเรื่องร้องเรียนมาแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ก่อนที่จะยื่นเรื่องให้คณะกรรมการมรรยาท ซึ่งตรงนี้ถืือว่าผิดมรรยาททนาย
น.ส.ณุมาพร พัฒนพงศธร หรือ "ทนายตุ๊กตา"
ล่าสุด วันนี้ (21 มี.ค.) ทีมข่าวเดินทางมาพบ น.ส.เสาวรียา ไชยยังธัญทวี หรือ “ทนายโก้” กรรมการฝ่ายช่วยเหลือประชาชน สภาทนายความฯ เปิดเผยภายหลังหลังทราบว่าตัวเองถูกร้อง ระบุว่า ตนทราบเรื่องที่มีคนเดินทางมาร้องมรรยาททนายความกับตน ผ่านข่าวที่มีการนำเสนอ แต่ตนไม่รู้จักกับผู้ร้องเรียน ที่ผ่านมาไม่เคยมีใครร้องเรียนกรรมการบริหารมาก่อน หลังจากนี้เป็นหน้าที่ของคณะกรรมการมรรยาทในการตรวจสอบ ทนายโก้ คิดว่า "ไม่อยากให้คนเหล่านี้นำองค์กรไปยี้ จะทำให้เกิดความเสียหายต่อประชาชน เพราะสภาทนายความเป็นองค์กรที่ช่วยเหลือประชาชน ถึงวันหนึ่งตนตายไป แต่องค์กรยังอยู่ ฉะนั้น อย่าใช้โอกาสนี้มาทำลายองค์กร"
น.ส.เสาวรียา ไชยยังธัญทวี หรือ “ทนายโก้”
นอกจากนี้ ทนายโก้ ยืนยันว่า เมื่อมีคนมาติดต่องานที่สภาทนายความจำนวนมาก ในฐานะกรรมการบริหารมีอำนาจหน้าที่สามารถจัดการได้ และตนไม่ได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าว พร้อมยืนยันว่า เรื่องนี้นักข่าวที่อยู่ในวันเกิดเหตุน่าจะทราบดี หลังจากนี้จะมีการดำเนินการตามขั้นตอน ถือเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการมรรยาท โดยตนไม่เกี่ยวข้องในการตรวจสอบ แต่ตนอยากฝากไว้ว่า "หากตนไม่สามารถควบคุมตรวจสอบทนายความได้ สิ่งใดจะเกิดขึ้น" ทนายโก้ ยืนยันว่า ทุกอย่างที่ตัวเองทำลงไปนั้น ทำตามหน้าที่ และเป็นสิ่งที่ถูกต้อง พร้อมขอให้คนที่คิดจะใช้โอกาสนี้ก่อเรื่อง อย่ามาทำลายเรา และอย่าทำให้คนรังเกียจสภาทนายความ เพราะประชาชนจะได้รับความเสียหาย ด้วยสภาทนายความเป็นที่ผลิตทนายความ เป็นหน่วยงานให้ความช่วยเหลือประชาชน สำหรับตนเป็นคนมาจากการเลือกตั้ง รวมทั้งเป็นทนายความที่ว่าคดีความ ย่อมมีคนรักและเกลียด เพียงแต่ตนเป็นห่วงองค์กรและประชาชนที่ต้องการที่พึ่งเท่านั้น
น.ส.เสาวรียา ไชยยังธัญทวี หรือ “ทนายโก้” พูดคุยกับผู้สื่อข่าว
ส่วนกรณีที่มีนักกฎหมายบางคน ออกมาให้ความเห็น กรณีทนายความไปตั้งมูลนิธิ ที่อาจมีวัตถุประสงค์ตรงกับสภาทนายความ ทนายโก้ มองว่า หากจะจัดตั้งมูลนิธิ หรือองค์กร เพื่อช่วยเหลือประชาชน เป็นสิ่งที่ทนายความทำได้ ไม่ขัดกับสภาทนายความ แต่ต้องอยู่ในกรอบวัตถุประสงค์ที่ตั้งมูลนิธิ หากมีการจัดตั้งมูลนิธิ และนำไปแอบอ้างเก็บเงิน เป็นการเอาเปรียบประชาชนนั้น ไม่สามารถทำได้ หากมีการร้องเรียนเข้ามา สภาทนายความจะเข้าไปตรวจสอบความผิดของทนายความ แต่ถ้าหากเป็นเรื่องการเปิดมูลนิธิ ต้องไปร้องต่อศาล เพราะไม่ได้อยู่ในอำนาจของสภาทนายความ ส่วนกรณีมูลนิธิแข่งกับสภาทนายความ ทนายโก้ ระบุว่า ไม่มีใครสามารถแข่งกับสภาทนายความได้อยู่แล้ว หากประชาชนเข้าใจ สภาทนายความมีหน้าที่ช่วยเหลือประชาชนเป็นหลัก ซึ่งจะมีทนายอาสาประจำอยู่ทุกศาลจังหวัดทั่วประเทศ ประชาชนที่ยากไร้ และไม่ได้รับความเป็นธรรม สามารถเข้าไปขอความช่วยเหลือได้

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวที่ได้รับความสนใจ