เจ้าอาวาส ยืมเงินญาติคืนเจ้าภาพกฐินกู้ศรัทธา นักบุญพ้อเจอวีนไม่ถึงล้าน (คลิป)

จากกรณีเจ้าอาวาสวัดดงสวอง แชตไลน์ไม่พอใจกับยอดกฐินที่ไม่ถึงล้านบาท โดยระบุว่า จะนำเงินจำนวนดังกล่าวส่งตืนให้กับประธานกฐิน ทำให้นักบุญเกิดความไม่พอใจ จึงเดินทางมารับเงินคืน รวมถึงมีการด่าทอกันและตั้งใจจะขับไล่เจ้าอาวาสวัดดังกล่าว

ล่าสุดวันที่ 3 ต.ค.63 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี เดินทางไปยังวัดดงสวอง ต.เขาสามยอด อ.เมือง จ.ลพบุรี เพื่อเข้าไปพูดคุยกับพระอธิการวราวุธ ชินวโร เจ้าอาวาสวัดดงสวอง เปิดใจกับทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ว่า การคืนเงินกฐินให้กับนางสุรินทร์ บุญเสริม ประธานกฐิน เนื่องจากอาตมามีความเครียด และรู้สึกไม่สบายใจ สิ่งที่ทำไปนั้นเน้นความถูกต้องที่สุด ซึ่งก็พร้อมที่จะให้ตรวจสอบบัญชี

หลังจากที่อาตมาได้พิมพ์ข้อความแสดงความรู้สึกลงในไลน์กลุ่ม แล้วทำให้เกิดความไม่พอใจกับประธานกฐิน ในฐานะที่อาตมาเป็นผู้รับเงิน ก็รู้สึกไม่สบายใจ จึงเลือกที่จะคืนเงิน แล้วรับผิดชอบด้วยตัวเอง โดยปกติยอดเงินกฐิน จะทะลุล้านบาททุก ๆ ปี ซึ่งก็ได้มีการวางแผนบริหารเงินในการพัฒนาพื้นที่วัดไว้ก่อนแล้ว แต่เกิดความไม่สบายใจและไม่ถูกต้อง ซึ่งก็ไม่ได้มีการคาดหวังว่ายอดเงินจะต้องทะลุล้านตามที่เป็นข่าว

ข้อความที่บอกว่า ทำไมมีคนมาเยอะ แต่ยอดเงินไม่ถึงกับที่คาดไว้ เป็นความสงสัยและเป็นความรู้สึกส่วนตัว เนื่องจากอาตมาเป็นพระภิกษุสงฆ์ เลือกที่จะไม่เผชิญหน้าและปะทะกับชาวบ้าน ซึ่งการที่เงียบหายไป และไม่ได้ออกมาชี้แจงกับสื่อมวลชน อาตมามองว่าเป็นการออกมาตอบโต้ หลังจากเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ก็ไม่ได้รับผลกระทบอะไรมาก ยังคงมีชาวบ้านที่เข้ามาทำบุญปกติ และก็มีชาวบ้านในบางส่วนเข้ามาให้กำลังใจ

สิ่งเดียวที่จะยืนยันความบริสุทธิ์ของอาตมาได้ คือผลงานทั้งหมดที่ได้บริหารวัดดงสวองมา 4 ปี จากการดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาส หากชาวบ้านคนอื่น ๆ ที่ยังต่อต้านอาตมา ก็ให้เป็นดุลพินิจของแต่ละคน เพราะแต่ละคนมีสติและปัญญาที่ต่างกัน

ทีมข่าวมีโอกาสเข้าไปพูดคุยกับนางสุรินทร์ บุญเสริม 60 ปี สมาชิกสภาเทศบาล ต.เขาสามยอด ในฐานะประธานกฐิน กล่าวว่า ตนพร้อมครอบครัวและเพื่อน ๆ ได้รวบรวมเงินจากการร่วมทำบุญในครั้งนี้ จำนวน 351,387 บาท เพื่อจะไปถวายเจ้าอาวาสวัดดงสวอง ต.เขาสามยอด อ.เมือง จ.ลพบุรี

จากนั้นเจ้าอาวาสก็มาขอให้ตนช่วยเป็นประธานในการทอดกฐินในปี 63 ตนจึงบอกบุญกับญาติพี่น้อง และเพื่อนร่วมงานอีกหลายจังหวัด รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 804,347 บาท ซึ่งได้มีการจัดงานทอดกฐินไปแล้วในวันที่ 24 ต.ค.63 ที่ผ่านมา กระทั่งเจ้าอาวาสได้พิมพ์ข้อความมายังกลุ่มไลน์ในลักษณะที่ว่า ชาวบ้านมาทำบุญกันเยอะ แต่ทำไมยอดเงินถึงไม่ตรงตามยอดที่ตั้งไว้ ทั้ง ๆ ที่เตรียมงานเหนื่อยมาก

จากนั้นตนก็ได้แสดงความบริสุทธิ์ใจ ด้วยการแจงรายละเอียดที่มาของเงินทุกอย่าง แต่เหมือนว่าเจ้าอาวาส ยังคงคาใจ และดูเหมือนจับผิดตน เรื่องเงินค่าไตรจีวรพระ 53,000 บาท ว่าหายไปไหน ทำไมไม่อยู่ในยอด 804,347 บาท ซึ่งตนก็ชี้แจงว่าเป็นการทำบุญเพิ่มเติมจากหน้างาน ไม่ได้เอาไปรวมกับยอดเงินกฐิน ซึ่งเงินค่าไตรจีวร คณะกรรมการเป็นผู้รับมอบ และเงินในส่วนนั้นก็ไม่ได้ผ่านตนแม้แต่บาทเดียว 

เจ้าอาวาสพิมพ์ข้อความบอกมาในไลน์ว่า รู้สึกเครียดไม่สบายใจ จะปรึกษากรรมการวัด ขอคืนเงินประธานกฐิน 351,387 บาท ตนจึงสงสัยว่าเงินที่ตนตั้งใจทำบุญไปแล้ว คืนได้ด้วยเหรอ จึงโทรไปหากรรมการเพื่อให้มาเป็นพยานในการคืนเงิน

จากนั้นวันที่ 28 ต.ค.63 ตนก็ไปรับเงินคืนจากวัด เป็นจำนวนเงิน 350,590 บาท และชักชวนชาวบ้านไปทอดกฐินที่วัดดงสวองเก่า 100,000 บาท วัดหนองบัวขาว 100,000 บาท วัดน้ำจั้น 50,590 บาท ยอดทำบุญครั้งแรก 351,387 บาท ได้คืน 350,590 บาท เงินหายไป 797 บาท

ส่วนตัวตนทำบุญกับวัดดังกล่าวมามากกว่า 30 ปีแล้ว ทำตั้งแต่วัดยังไม่มีอะไร จนกระทั่งวัดสวยงามจนเป็นที่รู้จักและสวยงามขนาดนี้ หลังจากเกิดเหตุตนรู้สึกเสียความรู้สึกอย่างมาก กล่าวหาว่าตนนำผ้าไตรจีวรไปขาย แล้วไม่ยอมให้เงินวัด จากนี้ยังไม่หมดศรัทธากับการแสวงบุญ เพราะตนเป็นชาวพุทธ แต่หมดศรัทธากับตัวเจ้าอาวาส ส่วนตัวยังมองว่าถึงท่านจะเป็นพระ แต่ก็ยังเป็นมนุษย์ ยังคงมีความรู้สึกนึกคิดอยากได้ แต่ก็อาจจะลืมตัวไปว่าเป็นพระ ซึ่งหลังจากนี้จะมุ่งหน้าทำบุญกับวัดอื่น ๆ ที่ยังต้องการความช่วยเหลือ

สำหรับกฐินที่วัดดังกล่าว นางสุรินทร์ บุญเสริม เคยทำถวายมาแล้ว 4 ครั้ง ได้แก่ ปี 2542 เป็นเงิน 300,000 บาท ปี 2549 เป็นเงิน 800,000 บาท ปี 2560 เป็นเงิน 1.3 ล้านบาท และปี 2563 เป็นเงิน 350,000 บาท

วัดดังกล่าวมีพื้นที่วัด 10 ไร่ (ของกองทัพบกมอบให้ 30 ปีก่อน) จำนวนพระ 10 รูป ส่วนเจ้าอาวาสบวชมาแล้ว 19 พรรษา เป็นเจ้าอาวาสมาแล้ว 4 ปี มีกรรมการวัด 6 คน ไวยาวัจกร 4 คน และเจ้าหน้าที่การเงิน 2 คน

นายกำจัด รีวงษ์ วัย 74 ปี ไวยาวัจกรวัดดงสวอง เปิดเผยว่า ปีนี้เงินกฐินถือว่าเป็นจำนวนเงินที่ไม่น้อยเลย ถ้าเทียบกับวันอื่น ๆ ในตำบลเดียวกัน ส่วนตัวก็รู้สึกประหลาดใจเช่นกันกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ความเป็นจริงแล้ว วัดได้เงินเท่าไรก็ต้องรับไว้ เพราะเป็นกำลังศรัทธา ถึงแม้ว่าจะไม่สามารถเอาเงินไปสร้างอะไรใหม่เพิ่มได้ แต่ก็สามารถเอาไปบูรณะส่วนอื่น ๆ ของวัดได้

นางแก้ว (นามสมมติ) อายุ 62 ปี เปิดเผยว่า ตนอยู่ในพื้นที่มานานกว่า 30 ปีแล้ว ก็ได้เข้าร่วมงานกฐินเป็นประจำ รวมถึงญาติพี่น้องที่อยู่หมู่บ้านอื่น ก็เข้ามาทำบุญที่วัดแห่งนี้ หลังจากที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น ตนก็รู้สึกหดหู่ ไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ หากพระภิกษุสงฆ์ยังประพฤติตนแบบนี้ ถามว่าประชาชนจะยังศรัทธาอยู่หรือไม่

ทีมข่าวมีโอกาสเข้าไปพูดคุยกับ พระชัธธีชัย ย่ำรำ พระลูกวัด กล่าวว่า พฤติกรรมและอุปนิสัยของเจ้าอาวาส เป็นคนนิสัยดี ขยัน ทุก ๆ ตี 3 ก็จะมาล้างห้องน้ำด้วยตัวเอง เวลามีงานในวัดเจ้าอาวาสก็จะลงมาช่วยพระลูกวัดทุกงาน แต่เรื่องดราม่าที่เกิดขึ้น อาตมาก็ไม่ได้ทราบรายละเอียด โดยหลังจากที่เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นแล้ว เจ้าอาวาสก็ไม่มีท่าทีเครียด หรือมีสีหน้าแววตากังวลอะไร ซึ่งตั้งแต่มาจำพรรษาอยู่ที่วัดดงสวอง ก็ยังไม่เคยโดนเจ้าอาวาสดุด่า

หลังจากนี้ หากมีการปลดพระอธิการวราวุธ ชินวโร ออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาส อาตมาก็รู้สึกเสียดาย เพราะเจ้าอาวาสเป็นผู้ที่มีไอเดียคิดริเริ่มสร้างสรรค์ และบูรณะวัดในหลาย ๆ ส่วน เจริญขนาดนี้ก็เป็นเพราะเจ้าอาวาส