จากกรณีเจ้าหน้าที่ป่อเต็กตึ๊ง ได้รับแจ้งจากชาวบ้านย่านทุ่งครุ พบหญิงสาวพยายามจะโยนเด็กลงนํ้า บริเวณสะพานข้ามคลองหนองรี (หน้าวัดทุ่งครุ) จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบหญิง 1 ราย ทราบชื่อ น.ส.รัชดาวัลย์ อายุ 28 ปี มีลักษณะอาการเซื่องซึม ไม่พูดไม่จา ถามไม่ตอบ จึงประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ
จากการสอบถามพลเมืองดีหลังช่วยเด็กไว้ได้อย่างปลอดภัยทราบว่า หญิงดังกล่าวยืนอุ้มลูกอยู่กลางสะพาน มีทีท่าจะโยนเด็กลงคลอง ชาวบ้านจึงเข้าแย่งเด็กไว้ได้ ทราบชื่อ ด.ญ.หนึ่ง (นามสมมติ) อายุ 1 เดือน จากการตรวจสอบอาการเด็กมีอาเจียนตลอดเวลา ตัวซีด จึงแจ้งกู้ภัยทุ่งครุ 007 นำส่ง รพ.เจริญกรุงประชารักษ์
ล่าสุดวันที่ 7 ต.ค.63 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ได้พูดคุยกับ นายนันทภพ ปาลเรือง อาสาป่อเต็กตึ๊งที่เข้าช่วยเด็ก เปิดเผยว่า เหตุเกิดวันที่ 6 ต.ค.63 เวลา 23.00 น. ขณะนั้นตนได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่า พบเห็นหญิงสาวพยายามจะโยนเด็กลงนํ้า บริเวณสะพานข้ามคลองหนองรี (หน้าวัดทุ่งครุ) ถนนประชาอุทิศ เขตทุ่งครุ แขวงทุ่งครุ กรุงเทพฯ จึงรุดไปยังที่เกิดเหตุเพื่อทำการช่วยเหลือ
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบ ชาวบ้านได้แยกเด็กออกจากแม่เด็กแล้ว ส่วนแม่อยู่ในสภาพเหม่อลอย คล้ายคนเป็นโรคซึมเศร้า สอบถามข้อมูลใด ๆ ก็ไม่ตอบ จึงประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ทุ่งครุ ก่อนจะรีบนำตัวเด็กส่งโรงพยาบาล เนื่องจากมีอาการตัวขาวซีด อาเจียนตลอดเวลา
จากการสันนิษฐานคาดว่า แม่เด็กน่าจะมีปัญหากับทางพ่อเด็ก เพราะในที่เกิดเหตุพ่อเด็กไม่ได้อยู่ด้วย แต่สอบถามแม่เด็กก็ไม่ยอมให้ข้อมูลแต่อย่างใด ได้แต่เงียบ แต่รายละเอียดที่แน่ชัดจริง ๆ ก็ไม่มีใครทราบ หลังเกิดเหตุตนรู้สึกตกใจและสงสารเด็ก เพราะหากไม่มีคนเข้าช่วยได้ทัน ก็ไม่รู้ว่าเด็กจะต้องตกอยู่ในสภาพไหน ทั้งนี้ในฐานะคนเข้าไปช่วยเด็ก ก็อยากจะบอกกับแม่ของเด็กว่า "เด็กไม่ได้รู้เรื่องอะไรด้วย เด็กเกิดมาแล้วก็ต้องเลียงไป ไม่ว่าจะเกิดมาจากความผิดพลาด หรืออะไรก็ตาม"
หลังจากนั้นทีมข่าวได้เดินทางไปยังบ้านของผู้ก่อเหตุ บริเวณห้องเช่า ภายในซ.ปราชาอุทิศ 111 ถ.ประชาอุทิศ เขตทุ่งครุ แขวงทุ่งครุ กรุงเทพฯ
ทีมข่าวได้พูดคุยกับ นายวิฑูล บางต่าย อายุ 50 ปี สามีของผู้ก่อเหตุ เปิดเผยว่า ภรรยาของตนเป็นคนสติไม่ค่อยดี เนื่องจากติดยาเสพติดมาเป็น 10 ปี ทำให้ประสาทเสีย เคยพาไปบำบัดรักษาอาการที่ รพ.ศรีธัญญา มาแล้วหลายครั้ง แต่กลับออกมาภรรยาก็แอบเสพยาเสพติดเหมือนเดิมในขณะที่ตนออกไปทำงาน ทั้งนี้ตนยังมีลูกด้วยกัน 1 คน อายุ 1 เดือน 15 วัน
โดยเหตุเกิดวันที่ 6 ต.ค.63 เวลา 18.00 น. ตนมีปากเสียงกับภรรยาเรื่องลูก เนื่องจากภรรยาประสาทไม่ค่อยดี จึงดูแลลูกได้ไม่ดีนัก ตนจึงจะเอาลูกไปฝากให้พี่สาวช่วยเลี้ยง แต่แฟนของตนก็ไม่ยอม ก่อนจะขอเงินตนไปจำนวน 300 บาท อ้างว่าจะไปซื่อนมให้ลูก แต่กลับเอาเงินไปซื่อยาเสพติดมาเสพ
กระทั่งตนมาทราบข่าวอีกที ก็ตอนหลังเกิดเหตุว่า ภรรยาได้แอบเดินอุ้มลูกออกไปที่สะพานข้ามคลอง หวังจะโยนลูกทิ้งลงน้ำช่วงกลางดึกในช่วงที่ตนนอนหลับ ตนโกรธกับการกระทำของภรรยามาก หลังรู้ข่าวตนก็รู้สึกเสียใจ เพราะสงสารลูก หลังจากนี้ตนจะไปรับลูกที่โรงพยาบาลกลับบ้าน และจะนำไปฝากให้บ้านพี่สาวช่วยเลี้ยง
ส่วนภรรยาที่ก่อเหตุขณะนี้ก็ยังไม่ได้กลับมาที่บ้าน ซึ่งหากมีโอกาสได้ถาม ก็อยากจะถามว่า "ทำไมทำแบบนี้" พร้อมทั้งอยากขอบคุณชาวบ้าน เจ้าหน้าที่กู้ภัย และเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ช่วยเหลือลูกของตนไว้ได้ทัน เพราะหากช่วยไว้ไม่ทัน ก็ไม่รู้ว่าลูกจะต้องอยู่ในสภาพไหน
