หนุ่มตบหญิงคนเลี้ยงเด็ก แจงถูกหยาม ขอเมียมาระบายแค้น เลยเดือด (คลิป)

จากกรณีมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์คลิปเหตุการณ์กลุ่มคนเข้ามาทำร้ายภายในสถานรับเลี้ยงเด็ก โดยระบุว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นครั้งที่แรกในวันที่ 13 ก.พ. มีผู้หญิง 3 คน เข้ามารุมทำร้ายผู้หญิงตามคลิป จนนำไปสู่การแจ้งความบุกรุกและทำร้ายร่างกาย จากนั้นในครั้งที่ 2 มีผู้ชายถือหมวกกันน็อคเข้ามาภายในบ้าน แล้วทุบตีทำร้ายผู้หญิงที่อยู่ในคลิปอีกครั้ง ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี ลงพื้นที่สถานรับเลี้ยงเด็ก ซ.ภาณุวงศ์ ต.บางเมืองใหม่ อ.เมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ ซึ่งมีนางอ้อย (นามสมมติ) เป็นเจ้าของกิจการ เปิดดูแลเด็กทั้งพักอาศัยอยู่ประจำ และแบบรับไปกลับ ขณะนี้มีเด็กในการดูแลทั้งหมด 6 คน อายุระหว่าง 4-6 ขวบ  โดยมี น.ส.สรีรัตน์ สกิล หรือหลิน สาวในคลิปที่ถูกรุมทำร้าย มาช่วยดูแลเด็กหลังจากที่ว่างเว้นจากงานประจำ โดย น.ส.หลิน เปิดเผยว่า ถูกบุคคล 3 คน เข้ามารุมทำร้าย เนื่องจากเข้าใจผิดว่า ตนไปทำร้ายร่างกายน้องออโต้ เด็กอายุ 4 ขวบ ที่มีผู้ปกครองนำมาฝากเลี้ยง ด้วยการใช้นิ้วดีดใบหู โดยเมื่อวันที่ 12 ก.พ. น้องออโต้ได้ใช้ข้อศอกกระแทกน้องเอเดน ลูกชายวัย 1 ขวบของตนอย่างแรง จนมีรอยปูดที่หน้าฝาก ตนจึงลงโทษน้องออโต้ ด้วยการดีดเบาๆ ไปที่ใบหู 1 ครั้ง ไม่มีรอยเขียวช้ำ ซึ่งเด็กก็ไม่ร้องไห้

ต่อมา วันที่ 13 ก.พ. แม่ของน้องออโต้ มารับกลับบ้าน และเด็กคงบอกแม่ว่าถูกตนดีดหู จึงทำให้แม่เด็กไม่พอใจ พาพวกเข้ามารุมทำร้าย ซึ่งครั้งนี้ตนคิดว่าเรื่องน่าจะจบไปแล้ว แต่แม่น้องออโต้ ยังมีความคิดฝังใจ นำเรื่องนี้ไปฟ้องพ่อของเด็ก ทำให้พ่อของเด็กกลับมาทำร้ายตนเป็นครั้งที่ 2 ด้วยการใช้หมวกกันน็อค ตีมาที่ตนจนล้มลง และเมื่อพ่อเด็กทราบว่ามีการถ่ายคลิป จึงได้กระชากตนออกไปจากบ้าน เพื่อให้หลบกล้องแล้วจะทำร้ายต่อ น.ส.หลิน ยืนยันว่า ตนเองไม่เคยตบตี หรือทำโทษเด็ก เพราะไม่ได้อยู่ในฐานนะคนรับเลี้ยง จึงทำโทษใครไม่ได้ เพราะส่วนใหญ่นั้นแม่อ้อย จะเป็นผู้ดูแลเด็ก ซึ่งตนเข้ามาช่วยเพียงเท่านั้น

ด้าน นางตี้ (นามสมมติ) แม่น้องออโต้ คู่กรณีในคลิปทำร้าย น.ส.หลิน เปิดใจว่า เหตุการณ์ในคลิปเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 13 ก.พ. ตนและพี่สาว ตั้งใจจะเข้าไปคุยกับ น.ส.หลิน เพื่อสอบถามว่า เหตุใดจึงต้องลงโทษเด็กด้วยการดีดหู ทำไมไม่แจ้งนางอ้อย ให้ทำโทษแทน เพราะที่ผ่านมา น้องใบเตย วัย 8 ขวบ พี่สาวน้องออโต้ ที่นำไปฝากเลี้ยงไว้ด้วยกัน มักจะเล่าให้ฟังอยู่เสมอว่า น้องออโต้ถูกดีดหูบ่อยครั้ง แต่ในวันนั้น น.ส.หลิน กลับเริ่มต้นด้วยการหาเรื่องโดยพูดเชิงท้าทายว่า “แล้วจะเอายังไง” เหตุการณ์จึงบานปลายตามที่ปรากฏในคลิป

ทั้งนี้ นางสาวตี้ ยอมรับว่าเกิดเรื่องขึ้นเพราะฝ่ายของ น.ส.หลิน เป็นคนเริ่มก่อน ในเมื่อเคลียร์กันไม่ได้จึงทำให้เกิดการลงไม้ลงมือเกิดขึ้น ตนคิดว่าหลังจากเหตุการณ์วันนั้นเรื่องจะจบ แต่ฝ่าย น.ส.หลิน ก็เอาเรื่องไปโพสต์ลงเฟซบุ๊กแล้วทักแชทมาหาเรื่องฝ่ายตนตลอด ตนจึงพาลูกไปบอกแฟน สุดท้ายแฟนจึงอาสาออกไปพูดคุย และขอโทษ น.ส.หลิน แทน

ขณะที่ นายเอ (นามสมมติ) พ่อของน้องออโต้ ชายที่ใช้หมวกกันน็อคทำร้าย น.ส.หลิน เล่าเหตุการณ์ว่า หลังจากทราบเรื่องตั้งใจเข้าไปขอโทษ แต่ถูก น.ส.หลิน พูดกลับมาว่า ถ้าอยากให้เรื่องจบ ต้องให้ตนพาแฟนคือนางตี้ มาให้ตบก่อน แต่ตนพยายามขอโทษแล้วบอกกับ น.ส.หลิน ขอให้เรื่องนี้จบจะทำอย่างไรก็ได้ จะชกต่อยหรือทุบตีตนเองก็ได้ แต่ น.ส.หลินกลับไม่ยอม จนกระทั่งวันที่ 17 ก.พ. ตนกลับไปที่บ้านหลังดังกล่าวอีกครั้ง เนื่องจาก น.ส.หลิน ส่งข้อความมาทางเฟซบุ๊กในลักษณะการท้าทาย และยั่วยุให้ตนเข้าไปในบ้าน แต่เมื่อเข้าไปถึง น.ส.หลิน ได้ใช้ด้ามไม้ถูพื้นทุบมาที่ตน นายเอ ยอมรับว่าวินาทีนั้นจึงตัดสินใจ ใช้หมวกกันน็อคทุ่มไปที่ น.ส.หลิน เพื่อป้องกันตนเอง แต่เมื่อเห็นว่าเหตุการณ์เริ่มบานปลาย จึงตัดสินใจออกมาจากบ้านหลังนั้น

นายเอ เปิดใจอีกว่าหาก น.ส.หลิน รับคำขอโทษ และยอมให้เรื่องจบ เหตุการณ์คงไม่บานปลาย แต่จนถึงทุกวันนี้น.ส.หลิน ยังคงโพสต์เฟซบุ๊กกระทบกระทั่งตน และยังส่งข้อความมาท้าทายครอบครัวอย่างต่อเนื่อง