แจ้ง 9 ข้อหา "เปรมชัย" กับพวก "จรัมพร" เตือนอย่าสู้คดีให้เสียเวลา หลักฐานชัดเอาผิดแน่

หลังเกิดเหตุการณ์ ตำรวจจับกุม นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานกรรมการบริหาร บมจ.อิตาเลียนไทย และพวก คดีลักลอบล่าสัตว์ป่าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร

วันนี้ (8 ก.พ.61) พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพย์ยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม  เป็นประธานประชุม คณะกรรมการสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่าแห่งชาติ วาระพิเศษ เรื่อง สถานการณ์ลักลอบเข้าไปตั้งแคมป์ และล่าสัตว์ป่าในพื้นที่หวงห้าม โดยได้เรียก นายวิเชียร ชิณวงษ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร เข้าร่วมประชุมและ รายงานเหตุการณ์เหตุการณ์ทั้งหมดให้ที่ประชุมรับทราบ ภายหลังการประชุมได้สั่งให้ตั้งคณะกรรมการดูแลเรื่องนี้ โดยมีอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธ์พืชเป็นประธาน เพื่อติดตามคดี ล่าสุด พนักงานสอบสวนได้แจ้ง 9 ข้อหา กับ นายเปรมชัย และพวกแล้ว พร้อมสั่งให้เจ้าหน้าที่หาหลักฐานเพิ่มเติมเพื่อดำเนินคดีอย่างจริงจัง ส่วนกรณีที่ นายเปรมชัย ไม่ได้เข้าป่าล่าสัตว์เป็นครั้งแรกนั้น หากพบหลักฐานก็จะนำมาร่วมในการดำเนินคดีด้วย

ด้าน พล.ต.อ.จรัมพร สุระมณี อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า การตรวจสอบหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ เจ้าหน้าที่ต้องรวบรวมหลักฐานวัตถุพยาน พยานแวดล้อม หลักฐานอื่นที่เชื่อมโยงกัน ทั้งก่อนและหลังเกิดเหตุ พร้อมฝากถึงผู้ต้องหาว่า การปฎิเสธหรือการต่อสู้คดีอาจทำให้เสียเวลา เพราะเจ้าหน้าที่ได้เก็บพยานหลักฐานทั้งหมดไว้แล้ว โดยมั่นใจว่าสามารถดำเนินคดีเอาผิดได้

ขณะที่ นายวิเชียร ชินวงษ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่า ทุ่งใหญ่นเรศวรฯ กล่าวว่า หลังการจับกุมยังไม่ถูกข่มขู่ หรือคุกคาม และไม่กังวลเรื่องการถูกโยกย้าย เพราะทำในสิ่งที่ถูกต้อง รวมถึงไม่กลัวการถูกฟ้องร้องดำเนินคดีกลับ เนื่องจาก ทุกคนมีสิทธิต่อสู้ทางกฎหมาย โดยรัฐมนตรีกระทรวงทรัพย์ฯ ท่านก็ได้ให้กำลังใจมาโดยตลอด สำหรับเหตุการณ์นี้ เจ้าหน้าที่ทุกคนรู้สึกเสียใจ และไม่คาดฝันว่าจะเกิดขึ้น ซึ่งจุดอ่อนของเจ้าหน้าที่ คือ การตรวจตรารถที่ผ่านจุดตรวจ บางครั้งมีจำนวนมาก ทำให้ตรวจไม่ละเอียด หลังจากนี้ต้องตรวจอย่างละเอียดขึ้น ต้องยอมเสียเวลาและทนคำด่าว่าล่าช้าบ้าง นายวิเชียร เล่าถึงเหตุการณ์ก่อนเข้าจับกุม นายเปรมชัยและพวก ว่า เจ้าหน้าที่ได้เข้าไปตักเตือนให้ออกจากพื้นที่ดังกล่าว แต่กลุ่มของ นายเปรมชัย ไม่ยอมย้ายออก โดยอ้างว่าเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยในการเดินป่าช่วงเวลากลางคืน จึงทำให้เชื่อว่า มีความผิดปกติ และเมื่อมีเสียงปืนดังขึ้น เจ้าหน้าที่ได้เข้าจับกุม โดยกลุ่มของ นายเปรมชัย ได้พยายามเจรจาต่อรอง แต่ตนปฏิเสธ และยืนยันว่า ไม่มีใครต้องการได้เงินจาก นายเปรมชัยแม้แต่บาทเดียว