ตร.ชี้ฝีมือแฮกเกอร์แถบยุโรป โจมตี รพ.สระบุรี เผยมีโดนแบบเดียวกันอีกหลายราย

"บิ๊กปั๊ด" สั่งจัดทีมสืบสวนทำคดีแฮกเกอร์โจมตีระบบคอมพิวเตอร์ รพ.สระบุรี จากพฤติกรรมเชื่อว่าเป็นฝีมือของแฮกเกอร์ในประเทศแถบยุโรป เผยก่อนหน้านี้มีโดนไปหลายราย และบางรายยอมจ่ายเงินไปแล้วด้วย

ความคืบหน้ากรณีโรงพยาบาลสระบุรี ออกมาเปิดเผยเรื่องถูกแฮกเกอร์โจมตีระบบคอมพิวเตอร์ของโรงพยาบาล ด้วย Ransomware หรือ "ไวรัสเรียกค่าไถ่" และมีการเรียกเงิน 200,000 Bitcoin หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 63,000 ล้านบาทนั้น

เมื่อวันที่ 10 ก.ย. 63 พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ ผบก.ขส.บช.ปส. หัวหน้าชุดประสานงานกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และสำนักงาน กสทช. ได้แถลงข่าวผลการปราบปรามผู้กระทำผิดทางเทคโนโลยีสารสนเทศ และผลการดำเนินคดีกับผู้ต้องหาความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ โดยได้กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า ระบบคอมพิวเตอร์ของโรงพยาบาลสระบุรีถูกโจมตีด้วยมัลแวร์เรียกค่าไถ่ เมื่อวันที่ 5 ก.ย. 63 ที่ผ่านมา ส่งผลให้ระบบ รวมถึงฐานข้อมูลระบบบริการผู้ป่วย ไม่สามารถสืบค้นข้อมูลประวัติเก่าหรือให้บริการออนไลน์ได้

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

- คืบหน้า แฮ็กเกอร์เจาะข้อมูลรพ.สระบุรี เรียกค่าไถ่ 6.3 หมื่นล้าน
- ปั่นป่วน! รพ.สระบุรีระบบล่ม เจอไวรัสเรียกค่าไถ่ 6.3 หมื่นล้าน

ทาง พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รอง ผบ.ตร สั่งการให้ตนจัดทีมสืบสวนทำคดีติดตามหาตัวผู้กระทำความผิดแล้ว โดยร่วมกับกระทรวงดิจิทัลฯ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) และศูนย์คอมพิวเตอร์ กองทัพอากาศ ขณะนี้อยู่ระหว่างการนำเครื่องมือพิเศษไปตรวจสอบกรณีที่เกิดขึ้น เบื้องต้นที่โรงพยาบาลสระบุรียังไม่ได้มีการเรียกค่าไถ่แต่อย่างใด

พล.ต.ต.พันธนะ กล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบพบว่า ก่อนหน้านี้มีการก่อเหตุแฮกข้อมูลปล่อยมัลแวร์กับโรงพยาบาล และบริษัทแห่งอื่น ทั้งของรัฐบาล และเอกชน มีการเรียกค่าไถ่แลกกับข้อมูลที่ถูกแฮก มีบางรายยอมจ่ายเงินไปแล้วด้วย ในราคาไม่ถึงหลักล้านบาท ซึ่งจะไปตรวจสอบข้อมูลจากผู้เสียหายเหล่านี้ด้วย จากแผนประทุษกรรม เชื่อว่าคนร้ายน่าจะเป็นชาวต่างชาติที่ก่อเหตุในประเทศแถบยุโรป เนื่องจากในต่างประเทศเคยเกิดเหตุในลักษณะเช่นนี้บ่อยครั้ง อีกทั้งยังไม่เคยพบว่ามีแฮ็คเกอร์คนไทยก่อเหตุในลักษณะนี้มาก่อน

อย่างไรก็ตาม พล.ต.ต.พันธนะ ยอมรับว่าไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องมีบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถ รวมทั้งระบบคอมพิวเตอร์และเครื่องมือพิเศษที่มีคุณภาพ ซึ่งในอนาคตคาดว่าจะมีการจัดซื้อมาให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด