กรณีตำรวจ สภ.วังคู อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา รับแจ้งเหตุมีผู้เสียชีวิต จากอาวุธปืนในพื้นที่หมู่ 18 บ้านมาบสมบูรณ์ ต.ทุ่งพระยา พบศพ นางสาลี บัวคำ อายุ 60 ปี ถูกยิงด้วยอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ ชนิดลูกโม่ ขนาด .38 จำนวน 1 นัด ที่บริเวณไหปลาร้าด้านซ้าย นอนตายจมกองเลือดอยู่บนที่นอนในบ้าน
โดยตำรวจสอบสวนเบื้องต้น พบว่านายบอย ลูกชาย เป็นคนนำอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ออกมา และทำปืนลั่นถูกแม่ตัวเอง เจ้าหน้าที่นำร่างผู้เสียชีวิตส่ง รพ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา ให้แพทย์ชันสูตร สาเหตุการเสียชีวิตโดยละเอียด ก่อนควบคุมตัวลูกชายที่ยังให้การมีพิรุธวกไปวนมา
ล่าสุดวันที่ 31 ส.ค.63 ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี เดินทางลงพื้นที่ไปยังหมู่บ้านมาบสมบูรณ์ ต.ทุ่งพระยา จ.ฉะเชิงเทรา เป็นบ้านที่เกิดเหตุ มีลักษณะเป็นชั้นเดียว มุงด้วยสังกะสี หลังขนาดไม่ใหญ่ วันนี้ฝาบ้านและข้าวของเครื่องใช้ของผู้ตาย ญาติ ๆ ได้รื้อข้าวของออกไปเก็บเอาไว้ข้างนอก เพราะเนื่องจากตัวบ้านค่อนข้างขับแคบ จึงต้องมีการเก็บของออกทั้งหมด เพราะจะถูกใช้เป็นที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพของผู้ตาย โดยสังเกตว่ากลางบ้านวันนี้ มีโลงเย็นขนาดใหญ่ตั้งอยู่ และยังคงมีคาบเลือดติดอยู่บนพื้น
ส่วนบ้านของนายบอย คนก่อเหตุ อยู่ห่างจากบ้านผู้ตายซึ่งเป็นแม่ เพียงไม่ถึง 5 เมตร เพราะมีลักษณะบ้านปลูกติดกัน เป็นบ้านปูนชั้นเดียว มุงหลังคาสังกะสี และบ้านของนายบอย ถือเป็นบ้านจุดเริ่มต้นของสาเหตุที่นายบอยกับนางสาวอ้อม ภรรยา มีปากเสียงกัน
นางแขก (นามสมมติ) อายุ 60 ปี เพื่อนบ้านในฐานะคนที่ให้ความช่วยเหลือ พานางสาวอ้อมหลบซ่อนตัว หลังจากนายบอย วิ่งตามหาและจะใช้อาวุธปืนยิง เปิดเผยว่า ในคืนวันเกิดเหตุ ตนไม่ได้ยินเสียงคนทะเลาะกัน แต่ได้ยินคล้ายเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด จากนั้นนางสาวอ้อมได้วิ่งมาพร้อมกับลูกชายวัย 9 ขวบ เข้ามาขอหลบภายในบ้าง โดยบอกว่า ”ช่วยด้วย ไอ้บอยยิงแม่มันตาย แล้วมันจะไล่ทำร้ายหนู๋” ตนจึงได้พานางสาวอ้อมเข้าไปหลบ พร้อมกับกอบและปลอบใจนางสาวอ้อม ไม่ให้ตกใจกลัว ซึ่งตอนนั้นตนก็ไม่รู้ว่าเกิดเหตุอะไรขึ้น ทำไมนายบอยถึงถืออาวุธปืนวิ่งไล่นางสาวอ้อม
จนกระทั่งเวลาผ่านไปช่วงหนึ่ง นายบอยได้วิ่งเข้ามาตามหานางสาวอ้อมที่ซ่อนตัวอยู่ นายบอยเห็นมีคนอยู่จำนวนมาก จึงวิ่งตรงเข้ามาถามหาเมีย ด้วยความตกใจเพราะตนเห็นในมือของนายบอยยังมีอาวุธปืนถืออยู่ จึงได้บอกให้นายบอยใจเย็น ๆ จากนั้นก็บอกให้วางปืนลง เพราะในบ้านของตนมีทั้งเด็กและผู้ใหญ่ กำลังล้อมวงกินข้าวกัน ซึ่งตอนนั้นนายบอยก็ยอม แล้วออกไปจากบ้าน แต่เป็นจังหวะเดียวกันกับที่นางสาวอ้อมวิ่งออกมาจากจุดซ่อนตัว กำลังจะวิ่งไปที่บ้านอีกหลัง นายบอยจึงวิ่งตามไปที่บ้านอีกหลัง
นางแขก บอกว่า ตนเองสังเกตลักษณะของนายบอยในคืนดังกล่าว ซึ่งอยู่ในอาการมึนเมา พูดจาไม่รู้เรื่อง ประกอบกับในมือมีอาวุธปืน จึงไม่กล้าถามหรือพูดคุยอะไรมาก แต่ส่วนตัวก็ไม่คิดว่านายบอยจะก่อเหตุแบบนี้ขึ้นกับคนในครอบครัว เพราะเจ้าตัวก็ไม่ได้มีประวัติเรื่องเกี่ยวกับยาเสพติดหรือการทำร้ายคน ส่วนกรณีเรื่องของอาวุธปืน ตนก็ไม่รู้ว่าเอามาจากไหน
จากนั้นทีมข่าวได้เจอกับ นางเงิน พรหมสุข หรือป้าแห๋ว อายุ 53 ปี ป้าของคนก่อเหตุ พาทีมข่าวไปดูจุดที่นายบอยกับนางสาวอ้อมมีปากเสียงกัน ก่อนที่จะเคลียร์ใจกันไม่ได้ นายบอยคว้าอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ .38 หวังจะมาทำร้ายและข่มขู่ภรรยาตัวเอง จากนั้นนางอ้อม ได้วิ่งไปที่บ้านอีกหลังที่อยู่ติดกัน ซึ่งเป็นบ้านของนางสำลี แม่นายบอย เพื่อไปขอความช่วยเหลือ และเป็นบ้านที่ถูกลูกชายยิงตาย โดยวันนี้บ้านหลังดังกล่าวถูกใช้เป็นสถานที่ตั้งบำเพ็ญกุศลศพ และบริเวณกลางบ้านยังคงทิ้งคราบเลือดกองโหญ่เอาไว้
นางเงิน ป้าของคนก่อเหตุ เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ช่วงเวลาประมาณ 19.00 น. นายบอยพร้อมกับภรรยาและลูกอีก 2 คน กลับมาจากเที่ยวพักผ่อนวันหยุด โดยนายบอยได้ไปนั่งดื่มสังสรรค์กับเพื่อน หลังจากกลับมาถึงบ้านได้มีปากเสียง จนทำให้ลูกชายคนโต ทนดูพ่อแม่ทะเลาะกันไม่ไหว จึงได้ขอไปนอนบ้านตา ซึ่งอยู่ต่างหมู่บ้าน
จากนั้นนายบอยและนางสาวอ้อม ก็ทะเลาะและมีปากเสียงกันต่อหน้าลูกคนเล็ก วัย 9 ขวบ กระทั่งเคลียร์ใจกันไม่ลง นายบอยได้ไปคว้าเอาอาวุธปืนในบ้าน หวังจะมาข่มขู่ และนางสาวอ้อมเห็นท่าไม่ดี จึงวิ่งไปที่บ้านของแม่ เพื่อหลบอยู่ข้างหลัง หวังจะให้นายบอยสงบสติอารมณ์ ส่วนลูกชายคนเล็ก ก็วิ่งตามหลังมา ยืนอยู่ที่ประตูหน้าบ้าน นายบอยกับแม่มีการแย่งปืนกัน จนกระทั่งปืนลั่น ซึ่งเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด แม่นายบอยล้มลม นางสาวอ้อม คว้าลูกแล้ววิ่งไปขอความช่วยเหลือ ที่บ้านเพื่อนบ้าน นายบอย รีบวิ่งตามไปติด ๆ เพราะตั้งใจจะเคลียร์ใจกับเมีย
ภายหลังสิ้นเสียงปืน ตนก็รีบวิ่งเข้ามาที่บ้านจุดเกิดเหตุ พบว่านางสำลี นอนอยู่บนที่นอน ซึ่งมีเลือดไหลติดหมอน แต่ยังไม่รู้ว่าถูกยิงเข้าบริเวณจุดไหน ซึ่งสังเกตว่านางสำลี พยายามจะสื่อสารอะไรบางอย่าง แต่พูดออกมาไม่ได้ เพราะอาการใกล้จะสิ้นใจแล้ว
หลังจากที่นายบอยวิ่งตามหาเมีย จากนั้นเมียบอกนายบอยว่า “ยิงแม่ตัวเองนะ” นางสาวอ้อม จึงพยายามกล่อมขอปืนคืนจากนายบอย เพราะกลัวว่าผัวจะยิงตัวเองตาย นายบอยได้ส่งปืนให้เมีย จากนั้นก็กลับมาที่บ้านด้วยอาการเสียใจ ร้องไห้กอดศพแม่ พร้อมกับพูดว่า “ช่วยด้วย ช่วยแม่ผมด้วย ผมขอโทษ ผมไม่ได้ตั้งใจ” จากนั้นนายบอยก็ห้ามไม่ให้ใครแตะศพแม่ ร้องไห้เสียใจรอให้รถโรงพยาบาลมาช่วย แต่ก็ไม่ทัน นางสำลีเสียชีวิตก่อน
ส่วนตัวในฐานะญาติ ก็ต้องยอมอโหสิกรรมให้กับนายบอย แต่ต้องไปรับกรรมที่ก่อไว้ เพราะไม่คิดว่าเจ้าตัวจะก่อเหตุยิงแม่ตัวเองได้ สุดท้ายก็ให้ขึ้นอยู่ตามกระบวนการยุติธรรม แต่ยืนยันว่าคงไม่ประกันตัว เพราะที่บ้านฐานะยากจน ไม่ได้ร่ำรวย ไม่สามารถหาเงินไปประกันตัวได้
