แม่น้องมิ้นช็อกหามส่ง รพ. ครอบครัวเผยเพ้อถึงแต่ลูก เพื่อนแฉ 3 ท่าใช้ทำโทษ (คลิป)

22 ส.ค. 63

จากกรณีที่ น.ส.พรพิพัฒน์ เอียดดำ หรือ มิ้น นักศึกษาชั้นปีที่ 1 สาขาภาษาไทย คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต เสียชีวิตช็อกหมดสติ หลังร่วมกิจกรรมเชียร์หลีดเดอร์ของมหาวิทยาลัย โดยมีเพื่อนให้ข้อมูลว่า ก่อนหน้าถูกรุ่นพี่ลงโทษให้วิ่งรอบขุมเหมือง 8 รอบ เนื่องจากมาซ้อมหลีดช้า จนเป็นลมและช็อกหมดสติก่อนเสียชีวิต

899195

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
พี่เหยื่อแฉรุ่นพี่โหดสั่งวิ่ง 5 กม. ปมมาซ้อมหลีดสาย เพื่อนเจอฉี่แตกดับก่อนถึงหมอ

982022

ทีมข่าวลงพื้นที่คณะมนุษยศาสตร์ วันนี้ไม่มีนักศึกษาเข้ามาเรียน เนื่องจากอยู่ในช่วงเรียนออนไลน์ น้องเจน (นามสมมติ) นักศึกษาที่เคยเรียนอยู่ที่คณะมนุษย์ศาสตร์ และเคยเป็นเชียร์หลีดเดอร์ ให้ข้อมูลว่า ตนเองเคยเป็นหลีดอยู่ที่คณะมนุษยศาสตร์ แต่ตอนนี้ได้ออกไปแล้ว เพราะย้ายไปเรียนคณะอื่น

489031

ซึ่งเท่าที่ตนเคยซ้อมหลีดมาก็มักจะซ้อมกันช่วงเย็น และการซ้อมก็ไม่ได้หนักขนาดนั้น แต่ตนไม่รู้ว่าน้องที่เสียชีวิตฝึกหนักขนาดไหนถึงได้เสียชีวิต ทั้งนี้ ตนรู้สึกตกใจมากที่มีข่าวการเสียชีวิต เนื่องหลังจากเกิดเหตุน้องเข้าพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลก่อนจะเสียชีวิต

643918

น้องเกรท (นามสมมติ) เพื่อนผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า วันเกิดเหตุผู้ตายไม่ได้วิ่งรอบขุมเหมืองของมหาวิทยาลัย แต่วิ่งอยู่ในพื้นที่ลานจอดรถหน้าตึกอุตสาหกรรม ที่อยู่ข้างขุมเหมือง ปกติหลีดจะนัดซ้อมกันตั้งแต่เวลา 17.00 - 22.00 น.

144604

แต่น้องมิ้น และเพื่อนอีก 3 คน ขอกลับช่วง 20.00 น. เนื่องจากบ้านอยู่ไกล ซึ่งพี่ ๆ ก็ยอม จนกระทั่งเมื่อวันที่ 19 ส.ค. 63 วันเกิดเหตุ ในช่วงแรกมีการซ้อมหลีดตามปกติ จนกระทั่งในช่วงที่ 2 รุ่นพี่ที่ชื่อแพรได้เข้ามาและมีการเพิ่มท่าเต้น โดยบอกว่าเต้นผิด 1 จุด จะให้วิ่งรอบลานจอดรถ 1 รอบ

840072

ซึ่งตนคาดว่าน่าจะมีการเต้นผิดถึง 8 จุด ถึงได้มีการวิ่งถึง 8 รอบ และวิ่งกัน 11 คน ซึ่งวิ่งในรอบที่ 7 ก่อนที่มิ้นจะล้ม เพื่อน ๆ บอกว่าก็วิ่งตามกันมาเรื่อย ๆ มิ้นยังหัวเราะอยู่ พอเพื่อนวิ่งนำหน้าได้ไม่กี่วินาที มิ้นก็ล้มลงไปมีอาการชักเกร็ง เพื่อนพยายามปฐมพยาบาลแล้วไม่ดีขึ้นจึงนำตัวส่งโรงพยาบาล

554151

ทั้งนี้ ตลอดการซ้อมเพื่อนบอกว่ามิ้นและเพื่อน ๆ มีเวลาพักแค่ 5 นาที ไม่มีน้ำให้ดื่ม และตอนที่ซ้อมพี่ ๆ ก็จะตะโกนว่า "วิ่งไปอย่าอ่อนแอนะ" ประกอบกับการซ้อมที่ติดต่อหลาย ๆ วัน จึงอาจจะทำให้ร่างกายทนไม่ไหว

333232807927

สำหรับไทม์ไลน์การซ้อมของน้องมิ้น
17.30 น. เข้ามาซ้อมหลีด โดยเริ่มจากการทบทวนท่า และซ้อมเต้นท่าใหม่
18.45 น. หลีดไปร่วมซ้อมกับสแตนเชียร์
19.00 น. ถูกทำโทษ วิ่ง 8 รอบลานจอดรถ หลังเต้นผิดเยอะ
19.15 น. น้องมิ้นล้มลง ชักเกร็ง เพื่อนช่วยกันปฐมพยาบาล
19.20 น. พาน้องมิ้นไปโรงพยาบาล
19.40 น. น้องมิ้นไปถึงโรงพยาบาล (ใช้ระยะทาง 3 กม.)

398351

ทีมข่าวลงพื้นที่ลานจอดรถข้างขุมเหมือง ขนาดความกว้างประมาณ 4 แถวจอด จุดที่เพื่อนผู้เสียชีวิตให้ข้อมูลว่าใช้เป็นสถานที่วิ่งคือวิ่งรอบลานจอดเพียงสองแถวเท่านั้น ระยะทางรอบละประมาณ 96.22 เมตร และบริเวณลานจอด พบธูปและเทียนที่ทางครอบครัวน้องมิ้นได้มาจุดไว้เพื่ออัญเชิญวิญญาณ หลังจากวันที่เสียชีวิต

153049

ล่าสุด วันที่ 22 ส.ค. 63 น้องจีน (นามสมมติ) และน้องเดียว (นามสมมติ) ผู้ที่อยู่ในการซ้อมหลีด ในจำนวน 11 คน เล่าว่า สำหรับกำหนดการซ้อมหลีดเริ่มซ้อมกันตั้งแต่เวลา 17.30 - 20.30 น. วันเกิดเหตุน้องมิ้นไม่ได้มาซ้อมสาย น้องมิ้นมาซ้อมตรงตามเวลา ซึ่งการซ้อมหลีดเริ่มเวลา 17.30 น. อย่างแรกที่เราเริ่มคือวอร์มร่างกาย และทบทวนท่าที่เคยเรียนมา จากนั้นพี่แพรก็เริ่มสอนท่าใหม่เพิ่มเติม ซึ่งการซ้อมในช่วงนี้จะมีการหยุดพักเป็นช่วง ๆ ประมาณ 3-5 นาที

597747

จากนั้นพี่ ๆ ก็ให้หลีดไปซ้อมพร้อมกับสแตนเชียร์ โดยการเต้นท่าใหม่ร่วมด้วย และบอกว่าวันนี้ถ้าเต้นผิด 1 จุดจะให้วิ่ง 1 รอบ ภายหลังจากซ้อม พี่แพรบอกว่าวันนี้ผิดหลายจุด จึงทำโทษให้วิ่ง 8 รอบลานจอดรถ ไม่ใช่ขุมเหมืองอย่างที่เป็นข่าว ซึ่งพวกตนก็แอบไปกินน้ำก่อน ส่วนกลุ่มของมิ้นได้ลงไปวิ่งก่อน จากนั้นตนก็ลงไปวิ่งพร้อมกับเพื่อน ๆ ตอนที่วิ่งตนวิ่งอยู่หน้ามิ้น

cg1cg2

จากนั้น น้องจีนวิ่งตามมิ้นมาโดยมีการเปิดแฟลชโทรศัพท์เพื่อส่องทางเดิน เนื่องจากบรรยากาศเริ่มมืดแล้ว หลังจากมิ้นวิ่งไปได้ 6 รอบ เข้ารอบที่ 7 มิ้นก็ล้มลง มีอาการชักเกร็ง และตาเหลือก ล้มคว่ำลงไป ส่วนไปหน้าตะแคงมาทางขวา โดยไม่มีการแสดงอาการก่อนหน้านี้เลย

983636

หลังจากที่มิ้นล้มลงไป น้องจีนก็เป็นคนมาช่วยพยุงให้นอนหงาย พร้อมกับช่วยง้างปากเพราะกลัวว่ามิ้นจะกัดลิ้นตัวเอง จากนั้นจีนก็เรียกตนให้เข้าไปช่วย พร้อมกับมีเพื่อนอีกคนวิ่งไปบอกรุ่นพี่ รุ่นพี่รีบวิ่งมาและโทรหาโรงพยาบาล ตอนนั้นตนและเพื่อน ๆ ก็เอายาดมมาให้และพยายามบีบนวด ใช้มือพัดเพื่อระบายอากาศ และเรียกชื่อมิ้นตลอด แต่อาการไม่ดีขึ้น

345807542694

เป็นจังหวะเดียวกับที่มีรุ่นพี่ในมหาวิทยาลัยขับรถจักรยานยนต์ผ่านมาพอดี เพื่อน ๆ จึงเรียกและพยายามให้ขอให้พามิ้นไปส่งโรงพยาบาล รุ่นพี่อุ้มมิ้นไปนั่งบนรถตนก็นั่งประกบท้ายประคองไป จนถึงกลางทางก็มีเพื่อนพี่คนขับก็มาสับเปลี่ยนประคองมิ้นแทน จนไปถึงโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต โดยตลอดระยะทางที่พาไปโรงพยาบาล ไม่มีการตอบสนองเลย

938212

ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้การซ้อมหลีดมักถูกลงโทษเป็นประจำ ส่วนใหญ่ก็วิ่งประมาณ 5 รอบ และตั้งการ์ด 10 นาที มีลุกนั่งบ้างเป็นบางครั้งแต่ก็ไม่เคยมีใครเป็นอะไร และพี่ ๆ จะถามตลอดว่าไหวไหม เป็นอะไรให้บอก

577407

ซึ่งหลังเกิดเหตุ พี่แพรก็อยู่ที่โรงพยาบาล และร้องไห้เพราะพี่แพร่ก็ไม่คิดว่าเหตุการณ์ดังกล่าวจะทำให้มิ้นเสียชีวิต พี่แพรก็เสียขวัญพอสมควร และที่ตนออกมาพูดเพราะไม่อยากให้ข่าวบิดเบือน และที่บอกว่ามิ้นเดินชนพานไหว้ครูรุ่นพี่เลยลงโทษ ไม่เป็นความจริง ทั้งนี้ เพื่อนตายทั้งคนตนก็เสียใจ และเพื่อนต้องได้รับความเป็นธรรม

584837

นายแพทย์สิทธา ลิขิตนุกูล เจ้าของเพจคุณหมอสตอรี่ ให้ข้อมูลว่า ขณะที่เพื่อนน้องมินช่วยเหลือปฐมพยาบาลเบื้องต้น ด้วยการจับน้องนอนหงาย ใช้มือบีบปาก และง้างปาก เพื่อไม่ให้กัดแก้ม และกัดลิ้น และใช้มือบีบนวดขาและแขน ประมาณ 5 นาที ก่อนส่งโรงพยาบาล

674610

การที่เพื่อนช่วยปฐมพยาบาลมีบางวิธีถูกต้อง เช่น จับนอนหงาย แต่ควรให้น้องมินตะแคงหน้า เพราะป้องกันสิ่งแปลกปลอมหลุดลงคอ ส่วนง้างปากบีบปาก มองว่าไม่ถูกต้อง ปกติถ้าชัก คนเราไม่กัดลิ้นอยู่แล้ว ไม่ต้องกังวล แต่การบีบปาก อาจจะส่งผลให้ฟันของคนเจ็บซึ่งอาจจะฟันผุหรือฟันโยกหลุดลงไปในคอได้ ทางที่ดีควรใช้แก้มไปสัมผัสกับจมูกของน้องมิ้น หากไม่มีลมหายใจ ก็ควรทำ CPR ปั๊มหัวใจช่วยเหลือก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาล ส่วนการบีบนวดไม่ได้ผิด แต่ก็ไม่ได้ช่วยอะไรมาก เป็นแค่ส่วนประกอบ ส่วนตัวรู้สึกเสียดายเวลา หากทำ CPR น้องมิ้นมีโอกาสรอดตาย หากหัวใจหยุดเต้น เลือดก็จะไม่ไปเลี้ยงสมอง สมองก็จะขาดอากาศ โดยสมองขาดอากาศได้เพียง 3-4 นาทีเท่านั้น หากเกินกว่านี้จะทำให้เสียชีวิต

257013

บรรยากาศที่บ้านของน้องมิ้น ผู้เสียชีวิต คุณแม่ของน้องมิ้นยังไม่สามารถพูดคุยอะไรได้ เอาแต่เพ้อเรียกแต่ชื่อน้องมิ้น และตกใจจนต้องเข้าโรงพยาบาล โดยมีญาติมาคอยดูแลอย่างใกล้ชิด ส่วนคุณพ่ออาการดีขึ้น ทานข้าวได้บ้างแล้ว พูดคุยได้บ้าง ลูกสาวคนเล็กก็เริ่มที่จะพูดคุยกับเพื่อน ๆ ได้แล้ว

750939

นางกาญจนา บุญยงค์ ป้าผู้ตาย เล่าว่า หลังจากหลายสาวถูนำตัวส่ง รพ.วชิระภูเก็ต ตนก็มาทำพิธีบอกกล่าวดวงวิญญาณหลานสาวให้กลับไปเข้าร่างที่นอนสลบอยู่ที่ รพ.วชิระ โดยก่อนหน้านี้ได้มีนักศึกษารุ่นพี่ที่อยู่มหาวิทยาลัยเดียวกันกับนัองมิ้นมาชี้จุดที่เป็นลม เชื่อว่าถ้าดวงวิญญาณหลานรับรู้ได้ก็จะกลับไป

785095

น้องนัด (นามสมมติ) นักศึกษา เปิดเผยว่า ตนเองมานั่งกินข้าวและนั่งเล่นตรงนี้อยู่บ่อยครั้ง ซึ่งก็จะเห็นหลีดกลุ่มดังกล่าวฝึกซ้อมอยู่บนตึกอุตสาหกรรมอยู่เป็นประจำ ประมาณ 2 สัปดาห์แล้ว ซึ่งการฝึกซ้อมค่อนข้างโหดในเรื่องของท่าเต้นต้องเป๊ะ ต้อมีวินัยในการซ้อม แต่เรื่องการลงโทษนั้นส่วนใหญ่ก็เห็นว่ารุ่นพี่จะให้ลุกนั่ง หรือวิ่งบ้างเป็นบางครั้ง ซึ่งยืนยันได้ว่ารุ่นพี่ให้วิ่งที่ลานจอดรถจริง ไม่ใช่รอบขุมเหมือง

ซึ่งในวันเกิดเหตุตนก็อยู่ด้วย เห็นผู้ตายและกลุ่มเพื่อนถูกลงโทษให้ไปวิ่ง ทุกคนก็วิ่งกันที่ลานจอดรถ เมื่อผ่านไปประมาณ 6-7 รอบ ผู้ตายก็ล้มลง และเพื่อน ๆ ก็รีบพาไปโรงพยาบาลทันที นอกจากนี้ ตั้งแต่ตนเข้าเรียนมาก็ยังไม่เคยเห็นหลีดไปวิ่งรอบขุมเหมือง

 

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส