พ่อค้าชี้มี 30 คนเห็นภาพก้มเก็บหวย - เมียลุงจรูญโต้เจ็บ ทีตอนซื้อ ไม่เห็นกันล่ะ? (คลิป)

จากกรณีคดีลอตเตอรี่ 30 ล้านบาท ที่ ร.ต.ท.จรูญ วิมูล อดีตข้าราชการตำรวจ เป็นผู้นำสลากไปขึ้นเงินรางวัล ขณะเดียวกัน นายปรีชา ใคร่ครวญ ครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียนเทพมงคลรังษี แจ้งความว่าลอตเตอรี่ชุดดังกล่าวเป็นของตนเองที่ทำหายไป โดยผลการตรวจดีเอ็นเอเมื่อวันที่ 19 ม.ค.ที่ผ่านมา พบเพียงลายนิ้วมือของ ร.ต.ท.จรูญ บนลอตเตอรี่ดังกล่าว ภายหลังครูปรีชา ได้ออกมาเปิดเผยว่า ตนมีหลักฐานเพิ่มเติมเป็นคลิปวิดีโอขณะที่ภรรยาของ ร.ต.ท.จรูญ กำลังก้มเก็บลอตเตอรี่ดังกล่าวนั้น

วันนี้ (21 ม.ค.) ทีมข่าวเดินทางมาที่ จ.กาญจนบุรี ไปบ้านของครูปรีชา เพื่อยืนยันถึงประเด็นเรื่องที่มีข่าวลือว่า ครูมีหลักฐานเป็นภาพวิดีโอจากกล้องวงจรปิดที่สามารถจับภาพคนก้มเก็บลอตเตอรี่ เอาไว้ได้ โดยครูปรีชา ยืนยันว่า ตนมีคลิปดังกล่าวแต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะจะใช้เป็นหลักฐานในการสู้คดีในชั้นศาล ครูปรีชา เปิดใจว่า ไม่ตกใจเรื่องผลตรวจดีเอ็นเอ ที่ไม่มีลายนิ้วมือของตนติดอยู่ เพราะก่อนตรวจตนได้บอกเจ้าหน้าที่ไปแล้วว่า ก่อนที่ลอตเตอรี่จะหาย ตนได้จับเพียงแค่ซองพลาสติกเท่านั้น ไม่ได้สัมผัสลอตเตอรี่ด้านในแต่อย่างใด ผลที่ปรากฏออกมาว่าไม่มีลายนิ้วมือของตน จึงถือเป็นเรื่องปกติ ซึ่งตนไม่กังวล เพราะมีความมั่นใจในหลักฐานที่ตนมีอยู่ว่า จะสามารถช่วยให้ตนเอาชนะคดีในครั้งนี้ไปได้อย่างแน่นอน

ขณะเดียวกัน ทีมข่าวได้เดินทางไปที่ตลาดเรดซิตี้ เพื่อตรวจสอบจุดที่ติดตั้งกล้องวงจรปิดซึ่งครูปรีชา อ้างว่าเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญ โดยพบว่ากล้องวงจรปิดจุดที่ใกล้กับบริเวณแผงขายลอตเตอรี่ เป็นกล้องของร้านเจ๊นีขายไก่สด ซึ่งผู้ช่วยเจ้าของร้านให้ข้อมูลว่า มีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาขอภาพจากกล้องวงจรปิดไป เมื่อเดือนที่แล้ว แต่ตนไม่ทราบว่า ตำรวจภาพอะไรไปบ้าง และไม่แน่ใจว่า จะมีภาพในวันเกิดเหตุหรือไม่ เพราะทางร้านบันทึกภาพไว้เพียง 15 วันเท่านั้น หากย้อนหลังไปถึงวันเกิดเหตุ อาจจะไม่มีภาพในนั้นก็เป็นเป็นได้ ส่วนระยะการบันทึกภาพนั้น กล้องของทางร้านไม่สามารถบันทึกได้ไกล ถึงจุดที่แม่ค้าขายลอตเตอรี่ตั้งแผงอยู่ เพราะกล้องของร้านจะบันทึกภาพได้เพียงบริเวณหน้าร้านของตนเท่านั้น

จากนั้นทีมข่าวได้พูดคุยกับ นายวิทยา สังวรณ์ หรือ "ลุงอี๊ด" พ่อค้าในตลาดเรดซิตี้ เล่าว่า ตนเห็นคลิปที่กำลังถูกเผยแพร่ในเมืองกาญจนบุรี เป็นภาพภรรยาของลุงจรูญ ก้มลงเก็บลอตเตอรี วินาทีนั้นได้มีแม่ค้าขายลอตเตอรี่ตะโกนถามว่า "ลอตเตอรี่ใครตก" ซึ่งตนไม่ทราบว่า ใครได้คลิปมา ซึ่งพ่อค้าแม่ค้าขายหวยกว่า 30 คน ได้ไปดูคลิปพร้อมกันที่หน้า สภ.เมืองกาญจนบุรี โดยคลิปนั้นได้รับมาประมาณวันที่ 3-4 ม.ค. ที่ผ่านมา ตนคิดว่าคลิปวิดีโอน่าจะเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญที่ไขคดีนี้ได้

ขณะเดียวกัน "ลุงอี๊ด" เปิดเผยว่า พ่อค้าแม่ค้าหลายคนเห็นคลิปแล้ว แต่ไม่อยากจะให้ข่าว เพราะเกรงว่าจะเสียรูปคดี ส่วนกล้องวงจรปิดของตลาดนั้น จะมีที่หน้าศาลพระพรหม เป็นจุดเดียวกับที่ขายหวย หน้าตู้เอทีเอ็มธนาคารกรุงไทย และ ตู้เอทีเอ็มธนาคารออมสิน รวมถึงหน้าร้านค้าของเจ๊ณีขายไก่สด ตอนนี้ตนไม่ทราบว่า กล้องวงจรปิดหายไปไหนหมด เพราะเหลือเพียงกล้องหน้าร้านเจ๊นีขายไก่ แต่ตนคิดว่ากล้องวงจรปิดนั้น น่าจะหายไปหลังเกิดเหตุหวยหาย

ด้าน นางลาวัลย์ วิมูล ภรรยาของ ร.ต.ท.จรูญ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีคลิปหลักฐานดังกล่าวว่า คลิปวิดีโอดังกล่าว ไม่มีอยู่จริงอย่างแน่นอน ตนไม่ได้ไปก้มเก็บลอตเตอรีตามที่คู่กรณีกล่าวอ้าง ตนคิดว่าเป็นการสร้างหลักฐานขึ้นมาเอง ในวันนั้นตนกับลุงจรูญ แยกกันเดินตลาด และตนจำไม่ได้ว่า ไปแถวบริเวณแผงหวยหรือไม่ แต่ยืนยันว่า ไม่ได้ก้มเก็บอะไรบนพื้น พร้อมยอมรับว่า คนเราต้องมีบ้างที่ทำของตกหล่น แต่วันนั้นตนไม่ได้ก้มเก็บอะไรบนพื้น และถ้าหากคู่กรณีมีคลิปที่ตนก้มเก็บของ ก็ต้องมีคลิปตอนที่คู่กรณีทำลอตเตอรี่ หล่นหายเช่นกัน ตอนนี้ตนเองไม่ได้รู้สึกกลัว หรือวิตกกังวล อยากให้อีกฝ่ายนำคลิปออกมาเผยแพร่ ส่วนตัวคิดว่าทำไมอีกฝ่ายถึงกล้าทำขนาดนี้ เมื่ออีกฝ่ายเอาผิดกับทางลุงจรูญไม่ได้ ก็หันมาเอาผิดกับตนแทน ตนไม่เข้าใจว่าทำได้อย่างไร ส่วนด้านคดี ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ได้มีการสอบเพิ่มเรื่องคลิปแต่อย่างใด

นอกจากนี้ น.ส.หทัยชนก วิมูล หรือ "หญิง" ลูกสาวคนโตของ ร.ต.ท.จรูญ เปิดใจว่า ตนเป็นคนตามหาคลิปวิดีโอที่คู่กรณีบอกว่ามี ตั้งแต่ตอนเกิดเหตุ ตนทราบว่ามีกล้องที่บริเวณข้างศาลพระพรหม ติดกับข้างตลาดเรดซิตี้จำนวน 2 ตัว ซึ่งตัวหนึ่งหันลงมาทางศาลพระพรหม แต่ปรากฎว่ามีเพียงขากล้อง ตนจึงไม่ได้ข้อมูลเรื่องคลิปดังกล่าว

ส่วนฝั่งตู้เอทีเอ็มของธนาคารกรุงไทย และธนาคารออมสิน ตนตรวจสอบแล้วพบว่า กล้องวงจรปิดเก็บภาพได้ระยะใกล้ ประมาณ 1 เมตร และกล้องหันออกไปทางถนนฝั่งริมทางรถไฟ ตนจึงคาดว่า ไม่น่าจะบันทึกภาพบริเวณแผงขายหวยไว้ได้ ขณะเดียวกัน กล้องวงจรปิดได้หายไปตั้งแต่วันที่ 28 พ.ย. ที่ผ่านมา ทางครอบครัวได้พยายามแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้หากล้องวงจรปิดให้เจอ เพราะจะเป็นหลักฐานให้พ่อของตนเหมือนกันว่ากำลังยืนนับธนบัตร 100 บาท จำนวน 7 ใบ เพื่อซื้อลอตเตอรีฉบับดังกล่าว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ยืนยันกับครอบครัวว่า ไม่มีภาพกล้องวงจรปิด แต่พอหลังจากผลตรวจลายนิ้วมือออกมา กลับพบกระแสข่าวว่า มีหลักฐานกล้องวงจรปิดเพิ่มเติม ส่วนที่มีการอ้างว่า ในคลิปได้มีคนถาม "ลอตเตอรี่ใครตก" ตนก็ตั้งข้อสังเกตว่า ทำไมไม่มีคนออกมายืนยันว่าได้ยินเสียงดังกล่าวตั้งแต่ตอนแรก ตอนนี้ไม่อยากปรักปรำใครว่าสร้างหลักฐานหรือไม่ แต่ยอมรับว่าโมโห เพราะตนต้องเสียเวลาการทำงานมาดำเนินการด้านคดี และดูแลพ่อแม่ในเรื่องนี้ ตนเอง ยังยืนยันในความบริสุทธิ์ของพ่อ และสงสารพ่อ อยากให้คดีจบโดยเร็ว เพราะเหมือนคู่กรณีพยายามยื้อด้านคดีอยู่ ตนเองกลัวว่าพ่อจะเป็นอะไรก่อนที่จะได้ใช้เงิน 30 ล้าน

ทางด้าน นายษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชน ทนายความฝ่าย ร.ต.ท.จรูญ เปิดเผยว่า กรณีที่ฝ่าย ครูปรีชา ออกมาให้ข้อมูลว่า มีกล้องวงจรปิด ที่สามารถจับภาพขณะภรรยา ร.ต.ท.จรูญ เก็บลอตเตอรี่ดังกล่าวได้นั้น ส่วนตัวไม่ได้มีความกังวล คิดว่าภาพกล้องวงจรปิดไม่มีอยู่จริง พร้อมท้าว่า หากมีคลิปให้นำออกมาเผยแพร่ได้ทันที หากเห็นภาพชัดว่าเป็นภรรยา ร.ต.ท.จรูญ ก้มเก็บสลากกินแบ่งรัฐบาล ตนพร้อมยอมแพ้ทันที นอกจากนี้ ยังตั้งข้อสังเกตว่า หลายคดีหากมีภาพวงจรปิด เจ้าหน้าที่ตำรวจมักจะนำออกมาเผยแพร่ให้กับสื่อมวลชนได้ทราบอยู่แล้ว จึงอยากถามว่า กรณีนี้พิเศษกว่าคดีอื่นอย่างไร จึงไม่มีการเอาออกมานำเสนอ อีกทั้งตำรวจระดับผู้บังคับการจังหวัดกาญจนบุรี ยังเคยออกมายืนยันว่า จากการตรวจสอบไม่พบว่ามีกล้องวงจรปิด จึงมั่นใจว่า หลักฐานนี้ไม่น่าจะมีจริง ถ้าหากมีคาดว่า คงเป็นภาพคนอื่น ก้มเก็บของบางอย่าง ส่วนตัวคิดว่า ครูปรีชา พยายามจะเบี่ยงเบนประเด็น กรณีที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เผยแพร่ผลการตรวจลายนิ้วมือและดีเอ็นเอในสลากลอตเตอรี่ฉบับดังกล่าว แล้วไม่พบของครูปรีชา และแม่ค้า มีความเกี่ยวข้องกับลอตเตอรี่ นายษิทรา บอกอีกว่า กรณีมีคนให้ข้อมูลว่าเห็นภรรยา ร.ต.ท.จรูญ เก็บหวยได้นั้น ส่วนตัวไม่ได้กังวลใจ เพราะคิดว่าคนที่บอกว่าเห็น ทำไมจึงไม่แสดงตัว ทั้งที่เรื่องผ่านไปหลายเดือนแล้ว ไม่น่าเชื่อว่า จะสามารถจำใบหน้าภรรยา ร.ต.ท.จรูญ ได้ทั้งๆ ที่ไม่เคยเจอกันมาก่อน แล้วรู้ได้อย่างไรว่าภรรยา ร.ต.ท.จรูญ ก้มเก็บลอตเตอรี่ฉบับที่ถูกรางวัล นายษิทรา ยืนยันว่า ตนไม่ให้ความสำคัญกับกรณีนี้เลย เพราะสอบถามภรรยา ร.ต.ท.จรูญแล้ว ว่าไม่เคยไปก้มเก็บอะไรได้ที่หน้าตลาดแน่นอน

ส่วนกรณีที่ นายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความ ที่ออกมาระบุว่า นายษิทรา ไม่ควรนำลูกความเดินสายออกรายการโทรทัศน์เช่นนี้ ส่วนตัวระบุว่า การออกสื่อนั้นมีทั้งคุณและโทษ แล้วแต่ความฉลาดของคนว่าจะเลือกใช้มุมใด อีกทั้งกรณีหวย 30 ล้านนี้ มีคู่กรณีเป็นถึงนายตำรวจใหญ่ หากกรณีนี้ไม่ได้อยู่ในความสนใจของประชาชน อยากถามว่าคดีนี้จะเป็นอย่างไร นายษิทรา ยังบอกอีกว่า กรณีนี้หากมีการตัดสินแล้ว เรื่องราวดังกล่าวจะได้เป็นอุทาหรณ์ให้กับสังคม และผู้กระทำผิดจะได้ไม่กล้าคิดทำอีก ตนจึงคิดว่าการนำลูกความมาออกสื่อ ได้คุณมากกว่าเป็นโทษ ทนายษิทรา ยังได้กล่าวทิ้งท้ายถึงคนที่พูดเรื่องนี้ว่า “คนที่พูดมีกึ๋นไม่พอ”