จากกรณี วันที่ 27 พ.ค. 63 นายวิม สอนสุด นายช่างไฟฟ้าชำนาญงาน ตำแหน่งนายช่างเครื่องส่ง ใช้อาวุธปืน 2 กระบอก ขนาด 9 มม. และ .38 กราดยิง 3 ชีวิต ภายในสถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทยจังหวัดพิษณุโลก (สวท.พิษณุโลก)
ได้แก่ นายสานิตย์ บุตรมางกูล อายุ 60 ปี ผอ.สวท.พิษณุโลก เสียชีวิตด้านข้างสถานี โดยมีทั้งรอยมีดและกระสุนปืน, นายภูมิศรัณญ์ พันธ์ภูมิ อายุ 56 ปี นายช่างไฟฟ้าชำนาญงาน เสียชีวิตในห้องส่ง และนายจิราวุฒิ สุเมธเทพาพันธ์ นายช่างไฟฟ้าอาวุโส เสียชีวิตในห้องโถง
และมีผู้บาดเจ็บ 1 ราย คือนายปรุง จันทร์แดง นายช่างไฟฟ้าชำนาญงาน ตำแหน่งช่างเครื่องส่ง อาการพ้นขีดอันตรายแล้ว ส่วนผู้ต้องหารอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหลังก่อเหตุนั้น
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง "กราดยิง สวท.พิษณุโลก"
- นายช่างโหดเปิดปากฆ่า 3 ศพ เพ้อ “มันหยาม” เมียคนตายฝันสลายเคียงคู่กันวันเกษียณ
- เผยคลิปนายช่างคลั่งถาม “ใครมีปัญหา” ก่อนยิงรัว 3 ศพ คนรอดใช้เทคนิคจากดูข่าว
- บุกบ้านฆาตกรคลั่งยิง 3 ศพ นิสัยแปลกสะสมของพัง ญาติชี้ขาดยาแต่เมตตาไม่ฆ่าหญิง
วันที่ 28 พ.ค. 63 เวลาประมาณ 15.30 น. รถตู้ของหน่วยกู้ภัยพิษณุโลก 3 คัน นำร่างของผู้เสียชีวิตทั้ง 3 รายมาจากโรงพยาบาล ส่งที่วัดคูหาสวรรค์ ซึ่งเป็นสถานที่จัดพิธีสวดพระอภิธรรม บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า
ภรรยาของผู้ตายต่างร้องไห้ด้วยความเสียใจ ส่วนนางวาสนา บุตรมางกูล ภรรยาของ ผอ.สวท.พิษณุโลก ถึงกับเป็นลม ต้องให้คนมาช่วยประคอง หน่วยกู้ภัยพาเข้ามาปฐมพยาบาล
โดยในเวลาประมาณ 16.00 น. ทางครอบครัวของผู้เสียชีวิตทั้ง 3 ก็ได้จัดให้มีพิธีรดน้ำศพ โดยร่างของผู้เสียชีวิตทุกคนใส่ชุดข้าราชการ ซึ่งตั้งศพในเรียงลำดับจากซ้ายไปขวาในศาลา 1 ดังนี้ 1. นายจิราวุฒิ สุเมธเทพาพันธ์ นายช่างไฟฟ้าอาวุโส 2.นายภูมิศรัณญ์ พันธ์ภูมิ นายช่างไฟฟ้าชำนาญงาน 3. นายสานิตย์ บุตรมางกูล ผอ.สวท.พิษณุโลก
สำหรับกำหนดการของพิธีสวดพระอภิธรรมของผู้เสียชีวิตทั้ง 3 ราย เริ่มขึ้นตั้งแต่เวลา 19.00 น. โดยมีสำนักประชาสัมพันธ์เขต 4 เป็นเจ้าภาพ จนถึงวันที่ 30 พ.ค. 63 และมีพิธีฌาปนกิจในวันอาทิตย์ที่ 31 พ.ค. 63 โดยในวันพรุ่งนี้ ครอบครัวของนายจิราวุฒิ จะนำร่างไปประกอบพิธีทางศาสนาที่บ้านเกิด จ.พิจิตร
ทีมข่าวได้ย้อนกลับมาที่บ้านพักของนายวิม สอนสุด นายช่างไฟฟ้าชำนาญงาน ผู้ก่อเหตุ เป็นบ้านไม้เก่า 2 ชั้น ล็อกกุญแจ บริเวณรอบบ้านมีสภาพคล้ายกองขยะและของเก่าจำนวนมากกองสุมอยู่
พบเครื่องแอร์เก่า ตู้ไม้เก่า เก้าอี้เก่าหลายตัว โซฟาเก่า ถุงขยะ ถังน้ำ จักรยาน เศษเหล็ก เศษไม้ แบตเตอรี่รถยนต์ เครื่องซักผ้า ตู้เย็นเก่า พัดลม นางกวัก หุ่นปั้น หมวกกันน็อก ซาเล้ง รถจักรยานยนต์ จอบ เสียม และอุปกรณ์ไฟฟ้าต่าง ๆ เช่น ปลั๊กไฟ เต้าไฟ หลอดไฟ
ส่วนปืนที่ใช้ก่อเหตุ 2 กระบอกนั้น ทีมข่าวได้ข้อมูลว่าเป็นปืนสวัสดิการของเจ้าหน้าที่ที่หน่วยงานมอบไว้ให้ เมื่อประมาณ 10 กว่าปีก่อน โดยนายวิมไม่เคยใช้ปืนยิงขึ้นฟ้า หรือก่อเหตุมาก่อน เจ้าหน้าที่ตำรวจยืนยันว่าปืนทั้ง 2 กระบอก เป็นปืนมีทะเบียน 1 กระบอก ส่วนอีกกระบอกมีทะเบียนที่ซื้อต่อมา
สำหรับนายวิม จากข้อมูลระบุว่าเจ้าตัวอาจจะเล่นไสยศาสตร์หรือไม่ เนื่องจากมีการพกมีดหมอจนมีอาการคลั่ง ประกอบกับมีอาการทางจิตด้วยหรือไม่ เป็นสาเหตุให้คลั่งจนก่อเหตุดังกล่าวขึ้นหรือไม่
นายหาญ รักษาจิตร์ หรือที่รู้จักกันในนาม "เณรแอ จอมขมังเวท" ให้ข้อมูลว่า มีดหมอเป็นเครื่องรางของขลัง หากเอาไปใช้แทงทำร้ายคนหรือฆ่าคน ของจะเข้าตัวจะกลายเป็นคนบ้าคลั่ง ลักษณะมีดหมอเป็นมีดเล่มเล็ก ใบมีดจะลงอักขระเลขยันต์ศาตราวุธ หรืออาวุธของพระพุทธเจ้า
ส่วนเลขยันต์มีดหมอเป็นวิชาเก่าแก่ สืบทอดกันตั้งแต่สมัยโบราณ โดยจะมีพระอาจารย์ที่เก่งกาจด้านวิชาอาคม ลงอักขระเลขยันต์ไว้ ในบ้านเราที่โด่งดังเรื่องมีดหมอก็คือ หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ จ.นครสวรรค์
สำหรับมีดหมอเหมือนเครื่องรางของขลัง เช่น ตะกรุด เบี้ยแก้ เอาไว้ใช้พกติดตัว คนโบราณพกติดตัวตอนออกเดินทาง เพื่อป้องกันภูตผีปีศาจ ราชทูต ผีพราย ผีตายโหง ผีตายห่า เป็นเครื่องราง แต่ไม่ใช่อาวุธ
จากนั้น ทีมข่าวเดินทางกลับมาที่ สภ.เมืองพิษณุโลก พบกับครอบครัวของนายวิม สอนสุด ผู้ต้องหา ภรรยาของนายวิมขอไม่พูดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากยังคงอยู่ในภาวะตกใจและโศกเศร้า จากการสังเกต ภรรยาของนามวิมมีน้ำตาซึม คล้ายจะร้องไห้อยู่ตลอดเวลา
ญาติผู้ต้องหาบอกว่า ปกตินายวิมเป็นคนเรียบร้อย พูดจาดี ไม่เคยพูดคำหยาบให้ครอบครัวได้ยิน เป็นคนดีมากขนาดที่หลานจับปลามายังบอกให้เอาไปปล่อย อีกทั้งนายวิมไม่เคยเล่าถึงความเครียดให้ฟัง ขณะนี้ครอบครัวยังไม่ได้เจอและพูดคุยกับนายวิม และยังไม่ได้ปรึกษากันว่าจะวางหลักทรัพย์ยื่นขอประกันตัวหรือไม่