"อารอง เค้ามูลคดี" รับแอบคิดถึง "แม่ทุม" พร้อมเล่าโมเมนต์ครบรอบวันเเต่งงาน 52 ปี ลั่นส่วนตัวยังรอปาฏิหาริย์ แต่ก็ไม่ทิ้งหลักความจริง

21 พ.ค. 63

หากพูดถึงคู่นักนักแสดงรุ่นเก่า อย่าง "พ่อรอง เค้ามูลดี " กับภรรยา "แม่ทุม ปทุมวดี" คงไม่มีใครที่ไม่รู้จัก แม้ว่าหลายคนจะทราบดีว่าทาง "แม่ทุม ปทุมวดี" ที่ตอนนี้ล้มป่วยด้วยโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง นอนรักษาตัวมานานหลายปี แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่เคยขาดหายในช่วงที่ "แม่ทุม"ป่วยนั้นคือความห่วงใยจาก "พ่อทุม"และครอบครัวที่คอยดูแลกันอย่างใกล้ชิดไม่เคยห่างไกล จนมีภาพโมเมนต์น่ารักๆออกมาให้เหล่าแฟนคลับได้เห็นกันเป็นระยะๆ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
"รอง เค้ามูลคดี" รับคิดถึง "แม่ทุม" เล่าโมเมนต์ครบรอบวันเเต่งงาน 52 ปี 

1590041132872

ล่าสุดทางลูกสาวคนสวย อย่าง "ยุ้ย ปัทมวรรณ" ได้เผยภาพโมเมนต์น่ารักของครอบครัว คือภาพพ่อรองกุมมือแม่ทุมที่นอนป่วยอยู่ในวันครบรอบแต่งงานปีที่ 52 พร้อมเเคปชั่นข้อคิดถึงชีวิตคู่ทั้ง 2 ประมาณว่า " วันนี้ครบรอบแต่งงานปีที่ 52 ของพ่อกับแม่ นอกจากความยินดีแล้ว วันนี้ก็ยังสอนอะไรเรามากมาย ชีวิตคู่ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่การที่ผ่านมาจนถึงวันนี้ด้วยกัน นอกเหนือจากความรักแล้ว เราจะต้องทำอย่างไรบ้างต่างหาก ที่เราได้เรียนรู้มากมาย อย่างน้อยก็คือ การไม่ปล่อยมือกัน"

1590041200228

ขณะเดียวกันวันนี้ทางทีมข่าวบันเทิงอมรินทร์ทีวี ได้มีโอกาสพูดคุยกับทาง "อารอง เค้ามูลดี" และลูกสาวอย่าง"พี่ยุ้ย ปัทมวรรณ" ได้เล่าถึงโมเมนต์ดังกล่าวให้ทีมข่าวฟัง ตลอดจนอัปเดตอาการป่วยของ"แม่ทุม" ด้วย โดยทาง "พี่ยุ้ย ปัทมวรรณ" เล่าว่า วันนี้ถือเป็นวันพิเศษ เพราะถ้าคุณแม่ไม่ได้อยู่โรงพยาบาล วันนั้นคงเป็นวันที่ครอบครัวของเราคงจะพากันไปรับประทานอาหารและบรรยากาศคงเต็มไปด้วยความสุข แต่ความเป็นจริง ณ ตอนนั้นคือทางคุณพ่อ (อารอง) ทำได้มากที่สุดคือการได้จับมือกับคุณแม่ที่นอนป่วยอยู่บนเตียง ซึ่งภาพนั้นมันดูพิเศษที่พอเราเห็นแล้วมันทำให้เราย้อนนึกไปในอดีต

1590041119043_1

ขณะเดียวกัน "อารอง" กล่าวเสริมว่า ส่วนตัวมองว่าวันนั้นเป็นวันที่พิเศษมาก ยอมรับว่าเป็นเวลากว่า1 เดือนที่ตนรอคอยจะได้ไปเยี่ยม"แม่ทุม" เพราะก่อนหน้านั้นก็ตามที่หลายคนทราบว่าสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ไม่สามารถไปเยี่ยมได้ โดยวันครบรอบแต่งงาน 52 ปีนั้น ส่วนตัวยอมรับว่ารู้สึกคิดถึงเขาวันนั้น จนมีความคิดว่าวันนี้เป็นไงก็เป็นกันต้องได้เจอหน้าเขา เพราะรู้สึกว่าเขาเองหากไม่ได้เจอหน้าใครมาเป็นเดือนก็คงจะรู้สึกเหงา หวั่นกลัวว่าเขาจะไม่รู้ว่าข้างนอกมีสถานการณ์โรคระบาด อาจจะทำให้เขารู้สึกน้อยใจว่าทำไมทุกคนถึงทิ้งเขา

ทั้งนี้ "อารอง" เล่าต่อว่า ในวันนั้นเองส่วนตัวก็ได้หอมแก้มและพูดกับ "แม่ทุม" ว่า "พ่อรักแม่นะ ขอให้แม่เองสู้ๆ หมอบอดส่าแม่เก่งมาก แม่ต้องสู้ๆ คุณหมอจะให้แม่กลับบ้านแล้ว แม่อยากไปไหนบอกมาพ่อจะพาแม่ไปทุกที่" ซึ่งการตอบสนองวันนั้นทางเขาเองก็ยิ้มตลอดทั้งวัน

เมื่อถามถึงอาการ "แม่ทุม" ตอนนี้ ทาง "อารอง" บอกว่า จากที่ประเมินด้วยสายตาต้องยอมรับว่าเขาเองก็มีอาการที่ดีกว่าตนด้วยซ้ำ ทั้งค่าความดัน ค่าอ๊อกซิเจน การทำงานของหัวใจ แต่ก็ต้องงเข้าใจว่าโรคที่ "แม่ทุม"เป็นอยู่นั้น (โรค ALS หรือ กล้ามเนื้ออ่อนแรง) ที่คุณหมอระบุว่าเป็นระยะสุดท้ายนั้น ปกติคนที่เป็นระยะดังกล่าว โรคนั้นจะทำลายระบบต่างๆในร่างกายทีละนิด ขณะนี้เขาเองก็รับรู้ได้ว่าร่างกายเขาเป็นอย่างไร จะถึงขั้นให้เขาลุกขึ้นมาได้หรือไม่นั้น ส่วนตัวคงไม่หวัง ทำได้เพียงให้กำลังใจเขา เเละเชื่อว่าสักวันคงมีปาฏิหาริย์เกิดขึ้น แต่เราเองก็ต้องอยู่บนหลักความเป็นจริงว่าโรคดังกล่าวเป็นอย่างไร แม้ว่าเรารู้เต็มอกว่าโรคดังกล่าวเป็นยังไง แต่เราเองก็หวังปาฏิหาริย์ เพราะอะไรก็เกิดขึ้นได้ แม้ว่าเวลานี้ทางการแพทย์บอกว่าหมดหนทางรักษาแล้ว ทำได้แค่ประคองรักษาตามอาการที่แสดง

1590041161579_1

"ยอมรับว่าตอนนี้แฮปปี้ ถ้าเขายังอยู่แบบนี้ ไม่ว่าเขาจะเป็นอย่างไร เราเองก็ต้องดูแลเขาให้ดีที่สุด"

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวบันเทิง เป็นกระแส