ไม่ให้เกียรติลูกค้า! หนุ่มกระบะอ้างยกพวกรุมเจ้าของอู่ ผิดคำพูดซ้ำขู่ชะแลงตี แฉนัดไม่เป็นนัด (คลิป)

จากกรณีคลิปเหตุการณ์ที่เจ้าของอู่ซ่อมรถ อายุ 49 ปี ในพื้นที่หมู่ 9 ต.วังโตนต อ.นายายอาม จ.จันทบุรี ถูกกลุ่มวัยรุ่น ประมาณ 20 คน บุกเข้ามารุมทำร้ายนายธนวัต ชูริบัติ เจ้าของอู่ซ่อมรถ

โดยคลิปวิดีโอจากกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกพฤติกรรมของกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวได้ โดยใช้เหล็ก มีด ค้อน และไม้ กรูเข้าไปรุมทำร้ายเจ้าของอู่ซ่อมรถเอาไว้ได้ เหตุเกิดช่วงเวลา 20.30 น. วันที่ 5 พ.ค.63 ที่ผ่านมา

ส่วนนายธนวัติ ผู้ได้รับคนเจ็บตอนนี้รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล โดยได้รับบาดเจ็บจากการถูกฟันด้วยของมีคม ถูกตีด้วยเหล็ก  ค้อน และไม้ ตามร่างกายหลายแห่ง อาการสาหัส เบ้าตา ใบหน้า และศรีษะ บวมช้ำ จากถูกรุมชกต่อย อาการล่าสุดยังพูดคุยไม่ได้ ลืมตาไม่ได้ แต่มีสติฟังรู้เรื่องทุกอย่าง เพียงแค่สื่อสารโต้ตอบไม่ได้
เหตุ

ล่าสุดวันที่ 7 พ.ค.63 ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ลงพื้นที่ไปยังจุดเกิดเหตุ เป็นร้านไดนาโมและซ่อมเครื่องยนต์ ซึ่งตั้งอยู่ริมถนนสุขุมวิท ต.วังโตนด อ.นายายอาม จ.จันทบุรี ลักษณะเป็นห้องแถวชั้นเดียว 3 คูหา พบรถกระบะสีดำ ทะเบียน ก 1433 จันทบุรี ป้ายแดง ของคู่กรณีที่เข้ามาซ่อมเพลาล้อรถ ตั้งแต่วันที่ 3 พ.ค.63 ที่ผ่านมา

สอบถามนายเจตนิพัทธ์ ทัศประเสริฐ อายุ 20 ปี หลานชายเจ้าของร้าน กล่าวว่า ขณะนั้นตนขับรถกระบะ คันสีขาว 4 ประตูมาจอดหน้าร้าน เป็นจังหวะเดียวกับที่เกิดเรื่อง แต่รถของตนกลับพุ่งชนรถคู่กรณีตามที่ปรากฏในคลิปดังกล่าว ระหว่างนั้นกลุ่มวัยรุ่นที่กำลังรุมทำร้ายอาของตนก็วิ่งมาที่รถของตน

ทั้งนี้ตนทราบว่าวันที่ 3 พ.ค.63 ที่ผ่านมา คู่กรณีนำรถมาให้อาของตนซ่อม แต่งานหน้าร้านก็มีรถมาซ่อมรถหลายคัน จึงยังไม่ได้เริ่มทำ เพราะร้านก็หยุดวันอาทิตย์ จนกระทั่งวันจันทร์ที่ 4 พ.ค.63 ได้ลงมือซ่อมเพลาล้อซึ่งเสร็จไป 1 ข้าง แต่อีกข้างทำไม่ได้ ต้อง ไปให้ร้านกลึงนำน็อตออกให้ ทางเจ้าของรถก็ถามว่าจะเสร็จไหม ลักษณะคล้ายจะเร่งให้เสร็จในวันเดียว ช่วงบ่าย 3 โมงเย็น

กระทั่งวันที่ 5 พ.ค.63 เจ้าของรถก็มาอีกอีก มาเร่งตอนที่กำลังซ่อม แต่ร้านอะไหล่ที่ขายปิด ทางร้านได้เชื่อมดึงน็อตออกให้ ซึ่งทางเจ้าของรถแจ้งว่ารอได้ และขอให้เสร็จวันที่ 6 พ.ค.63 เวลา 12.00 น. เข้าใจว่าเจ้าของรถต้องการด่วนไปวิ่งส่งทุเรียน จึงขอนำล้อข้างที่ยังไม่เสร็จไปทำเองที่โรงกลึง และนำกลับมาให้ร้านจนมีปากเสียงกันรอบแรกประมาณ 02.00 น.

หลังจากนั้นอาของตนก็ได้ดึงคอเสื้อ 1 ใน 2 คนแรกที่มารับรถ ทำให้อีกหลายคนพุ่งเข้ามาทำร้ายอา จากนั้น 20.25 น. เขาก็พาพวกมารุมทำร้ายอา ตอนนั้นตนจอดรถกระบะสีขาวอยู่หน้าร้าน เพื่อกันไม่ให้เจ้าของรถขับรถออกไป แต่พออาถูกรุมทำร้ายก็ตกใจ ทำให้จากจะใส่เกียร์ถอยหลัง กลายเป็นเดินหน้าแทน รถของตนจึงพุ่งชนรถกระบะของคู่กรณีตามที่ปรากฏในคลิปดังกล่าว

ตนยืนยันได้ว่าไม่ได้ตั้งใจชน เพื่อจะห้ามเหตุการณ์ดังกล่าว แต่ตนตกใจจริง ๆ ทำให้วัยรุ่นละมือจากการทำร้ายอา วิ่งมาดูรถของตนที่พุ่งชนและโมโห จึงเป็นแค่เรื่องบังเอิญ จากนั้นพอตั้งหลักได้ ก็ขับรถหันหัวไปที่ปั๊มน้ำมันห่างจากร้าน 200 เมตร เพราะไปขอความช่วยเหลือและโทรศัทพ์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ส่วนค่าซ่อมรถตามบิลที่เรียกเก็บประมาณ 1,520 บาท แยกเป็นค่าน็อตตัวละ 60 บาท จำนวน 12 ตัว เป็นเงิน 720 บาท และค่าแรง 800 บาท ซึ่งเรื่องเงินเจ้าของรถไม่ได้มีปัญหาในการจ่ายอยู่แล้ว แต่มีปัญหาเรื่องข้อตกลงกันเท่านั้น

จากนั้นทีมข่าวอมรินทร์ทีวี จึงเดินทางไปยัง สภ.นายายอาม ท้องที่เกิดเหตุ เพื่อสอบถามความคืบหน้า พบกับนายเอกพจน์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 32 ปี
เจ้าของรถคันที่นำมาซ่อมไว้ 

นายเอกพจน์ เปิดใจกับทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ว่าก่อนที่จะปรากฏเป็นคลิปเหตุการณ์ที่เข้าไปทำร้ายเจ้าของอู่นั้น ตนต้องการรีบใช้รถจริง แต่ก็เข้าใจว่าเจ้าของอู่ต้องใช้เวลา แต่ก็ผ่านมาหลายวันแล้ว รถก็ยังไม่เสร็จเสียที ตนจึงต้องนำเพลาล้อข้างซ้ายที่น็อตติดคาอยู่ไปให้โรงกลึงอีกแห่งซ้อมแทนการรอ และหวังให้เจ้าของอู่เร่งซ่อมให้เสร็จ เพราะต้องนำรถกระบะคันนี้ไปวิ่งทุเรียนจากสวนมาส่งให้ล้ง

ทั้งนี้ตนยืนยันว่าไม่ได้เร่งงานเกินเหตุ แต่ร้านอาจซ่อมช้าเกินไป ตนก็อุตส่าห์ช่วยโดยการนำเพลาไปให้โรงกลึงซ่อมให้แล้ว และให้น้องอีกคนนำเงินมาจ่ายค่าซ่อม 2,000 บาท เพราะคิดว่าจะแล้วเสร็จทันตามกำหนด แต่สุดท้ายก็ไม่เสร็จ และเจ้าของอู่ยังพูดจาขู่หาเรื่องจะใช้ชะแลงตีก่อน เพราะคงจะเหนื่อย ตนก็เลยตะลุมบอลกัน ทั้งไม้ มีด เหล็ก และค้อน แต่ยืนยันไม่เคยทำใครก่อน อู่ใช้เวลานานเกินไป

หากถามว่าเสียใจไหมก็เสียใจ ถามว่าจะขอโทษหรือไม่ ตนจะไปขอโทษคนเจ็บด้วยตัวเอง โดยมีค่าทำขวัญในใจแล้ว ขอไม่เปิดเผยตัวเลข ส่วนที่กระแสสังคมออนไลน์มองว่าพวกตนทำรุนแรงเกินเหตุไปก็ยอมรับ แต่อย่าคิดว่าพวกตนมาหาเรื่องก่อน เพราะซ่อมรถไม่เสร็จ มันมีที่มาที่ไป อยากให้สังคมได้เห็นคลิปตั้งแต่ต้น แต่อู่อ้างว่าเมมโมรี่ของกล้องวงจรปิดมีไม่เพียงพอที่จะบันทึกไว้ทั้งหมด เพราะสังคมจะได้เห็นว่าใครกระชากคอเสื้อใครก่อน

อย่างไรก็ตามตอนนี้เดือดร้อนมาก รถไม่มีใช้ เพราะคันที่นำมาซ่อมก็ยังไม่เสร็จ และยังจอดอยู่ที่อู่ ส่วนอีกคันหลานชายของเจ้าของอู่ก็ขับตั้งใจขับพุ่งมาชนเต็มแรงจนท้ายยุบ ยืนยันว่าหลานเจ้าของอู่ตั้งใจชน ไม่ใช่ตกใจใส่เกียร์ผิดตามที่นายเจตนิพัทธ์ กล่าวอ้างเลย และตำรวจอายัดรถไว้จนกว่าคดีจะแล้วเสร็จ ทำให้ตอนนี้ไม่มีรถส่งทุเรียนจากสวนมาล้ง จากนี้คงต้องเช่ารถวิ่งส่งทุเรียนเที่ยวละ 2,000 บาทแทนจนกว่าคดีจะแล้วเสร็จ

นอกจากนี้นายเอกพจน์ ยืนยันว่าไม่ได้คิดหลบหนี ภายหลังจึงมามอบตัวกับตำรวจในคืนวันนั้นเลย ประมาณ 22.00 น. เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา ส่วนน้อง ๆ ประมาณเกือบ 20 คน ก็มามอบตัวหมดแล้ว ตอนนี้โดนข้อหาทำร้ายร่างกาย บุกรุกยามค่ำคืน