ปชป. ตั้งสอบผู้สมัครฉาวจ้ำจี้กับพระ ถ้าผิดจริงต้องขับออกจากพรรค

11 เม.ย. 67

ปชป.ตั้ง คกก.สอบข้อเท็จจริงภายใน 3 วัน ปม คลิปฉาว อดีตผู้สมัคร สส.หญิง โผล่โซเชียล ย้ำไม่นิ่งนอนใจหลังทราบข่าวยังติดต่อเจ้าตัวไม่ได้ ชี้ ผิดข้อบังคับพรรคประพฤติผิดจริยธรรม โทษขับออก! 

วันที่ 11 เม.ย. ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงข่าวต่อกรณีปรากฏภาพข่าวเป็นอดีตผู้สมัคร สส. ของพรรคประชาธิปัตย์มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับพระภิกษุ ซึ่งระบุว่า ทางพรรคประชาธิปัตย์ได้รับทราบข้อเท็จจริงตั้งแต่เมื่อวานนี้ ซึ่งทางพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้นิ่งนอนใจ และได้ติดตามเก็บข้อมูลในทันที ส่วนตนมีการเก็บข้อมูลในฐานะที่เป็นกรรมการบริหารพรรคและได้ทำเรื่องรายงานให้กับนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรครับทราบ เพราะเป็นเรื่องที่สำคัญที่บุคคลซึ่งเป็นสมาชิกพรรคจะต้องปฏิบัติตนอยู่ในกรอบของจริยธรรมคุณธรรมศีลธรรมและวางตนเป็นที่เชื่อถือศรัทธาของพี่น้องประชาชน และที่สำคัญต้องเป็นแบบอย่างที่ดีในเรื่องการเป็นสถาบันครอบครัว

ซึ่งสาระสำคัญที่ระบุไว้ชัด ในข้อบังคับข้อที่ 26 เมื่อหัวหน้าพรรคได้ทราบเรื่อง ได้มีบัญชาและมีคำสั่งในทันทีให้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อสอบข้อเท็จจริง คณะกรรมการประกอบไปด้วยหนึ่งคือตน รวมถึงนายธีรชาติ ปรางค์วิรุฬรักษ์ อดีตส.ส. จังหวัดชุมพร นายชนินทร์ เลี้ยงกาญจนกุล อดีต สส. บัญชีรายชื่อ


จากการตรวจสอบพบว่า บุคคลดังกล่าว ได้เป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์จนถึงปัจจุบัน โดยมีการสมัครสมาชิก เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2566 นอกจากนี้ยังมีการตรวจสอบยังเป็นอดีตผู้สมัคร สส. ของพรรค แต่หลังเสร็จสิ้นการเลือกตั้งรอบที่ผ่านมาบุคคลดังกล่าวไม่ได้มีการร่วมดำเนินการทางการเมืองกับพรรคอย่างใด นอกจากนี้ยังมีกานตรวจสอบลึกลงไปอีกเพื่อให้เห็นความชัดเจนว่าปัจจุบันมีการรับตำแหน่งในพรรคหรือไม่ ปรากฏว่าบุคคลดังกล่าวไม่มีตำแหน่งใดๆ ในพรรค ซึ่งได้มีการรวบรวมข้อเท็จจริงรวมถึงวันนี้จะมีการสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติมอีกเล็กน้อยเพื่อที่จะสอบถามบุคคลที่เกี่ยวข้องอีก ให้เสร็จสิ้นภายใน 3 วัน รวมถึงจะมีการตรวจสอบเชิงลึกโดยจะมีการติดต่อสอบถามถึงบุคคลที่อ้างว่าเป็นสามีของคนดังกล่าวอีกด้วย หลังจากนั้นจะมีการรายงานต่อคณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อพิจารณาต่อไป

ซึ่งเมื่อเข้าสู่การพิจารณาการของกรรมการบริหารพรรคในส่วนของโทษ มีการกำหนดไว้ ว่า หากมีสมาชิกพรรคฝ่าฝืนข้อบังคับพรรคและมีการประพฤติตนที่ขัดต่อหลักจริยธรรมหลักคุณธรรมและศีลธรรม และการเป็นแบบอย่างที่ดีในสถาบันครอบครัว เรื่องดังกล่าวเหล่านี้ถึงขั้นที่จะต้องให้พ้นจากความเป็นมาสมาชิกพรรค และในฐานะเราเป็นพรรคการเมือง คือความรับผิดชอบในฐานะเป็นสถาบันทางการเมืองเมื่อมีสมาชิกภาคกระทำการที่ไม่ถูกต้องต้องมีการคัดกรองบุคคลต่างๆ

นายราเมศ ยังเปิดเผยว่า นายสัมพันธ์ ตั้งเบญจผล อดีตผู้สมัครจังหวัดสุโขทัยเป็นผู้ชักชวนเข้ามาเป็นสมาชิกพรรคและลงสมัครรับเลือกตั้ง และในขณะนั้นบุคคลดังกล่าวเป็นผู้มีคุณสมบัติครบถ้วนครบถ้วน

สำหรับระยะเวลาในการตรวจสอบ 3 วันเนื่องจากต้องสอบถามบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมดรวมถึงบุคคลที่อ้างว่าเป็นสามีซึ่งเบื้องต้นทราบว่าเป็นนักธุรกิจ ไม่ได้เป็นนักการเมือง รวมถึงเมื่อวานนี้หลังเกิดเรื่องตนได้ติดต่อไปที่เจ้าตัว 3 ครั้งแต่ยังไม่สามารถติดต่อได้ และเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาได้มีการติดต่ออีกครั้งแต่ก็ยังไม่สามารถติดต่อได้เช่นเดิม

นายเมศ ระบุว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน แต่ยืนยันว่าหากมีการฝ่าฝืน จริยธรรมและ ข้อบังคับก็สามารถขับออกได้ อย่างไรก็ตาม ย้ำว่าพรรคให้ความสำคัญกับการตรวจสอบคุณสมบัติผู้สมัคร แต่ยอมรับว่าความเป็นจริงอาจไม่ทราบข้อเท็จจริงทั้งหมด โดยเฉพาะเรื่องส่วนตัว แต่หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่พรรคจะต้องรับผิดชอบในฐานะสถาบันทางการเมืองเมื่อสมาชิกพรรคมีความผิดต้องรับ โดยการพูดความจริงและหากลไกป้องกัน และเมื่อมีเหตุการณ์เกิดขึ้นแล้วก็ต้องมีมาตรการที่ชัดเจน เด็ดขาดและนายเฉลิมชัยในฐานะหัวหน้าพรรคก็ได้ย้ำให้ดำเนินการโดยเร็ว ซึ่งปกติจะต้องใช้เวลาถึง 15 วัน

ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะมีความเข้มงวดในการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ที่จะมาลงสมัครรับเลือกตั้งในนามพรรคประชาธิปัตย์ที่จะมีการเลือกตั้งท้องถิ่นในเร็วเร็วนี้อย่างไรนายราเมศ ระบุว่า จะมีคณะกรรมการสรรหาและตรวจสอบคุณสมบัติ ซึ่งพรรคให้ความสำคัญกับเรื่องนี้อยู่แล้ว แต่ก็ยอมรับว่าบางครั้งก็ยากที่จะรับรู้เรื่องส่วนตัวทั้งหมด

พร้อมกันนี้ นายราเมศ ยังเน้นย้ำพรรคประชาธิปัตย์ให้ความสำคันกับเรื่องนี้โดยการ พูดความจริงให้สังคมได้รับรับทราบและจริงจังกับกระบวนการตรวจสอบข้อเท็จจริง เพราะเราเป็นสถาบันการเมืองที่อาสามารับใช้ประชาชน

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม