กะเหรี่ยงคาเรนนี ยึดค่ายทหารเมียนมา ที่โมเบียสำเร็จ

9 เม.ย. 67

 

กะเหรี่ยงคาเรนนี ยึดค่ายทหารเมียนมา ที่โมเบียสำเร็จ ด้านผู้พลัดถิ่นในเมืองแม่แสะเตรียมอพยพย้ายมาอยู่ติดชายแดนไทย ฝั่งตรงข้ามแม่ฮ่องสอน 

วันที่ 9 เม.ย. 67 แหล่งข่าวผู้นำระดับสูงของกองกำลังติดอาวุธ กลุ่ม คาเรนนี KAเปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 8 เม.ย. 67 กองกำลังKNDF และPD Fสามารถยึดค่ายทหารเมียนมา สังกัดกองพันเคลื่อนที่เร็วที่ 422 เมืองโมเบียได้สำเร็จ หลังจากมีความพยายามเข้าโจมตี เพื่อยึดค่ายดังกล่าวมาตั้งแต่วันที่ 3 เม.ย. ที่ผ่านมา 

การโจมตีเพื่อยึดฐานที่มั่นทหารเมียนมาค่ายดังกล่าวต้องได้รับการตอบโต้อย่างหนักจากกองทัพอากาศเมียนมาที่ส่งเครื่องบินขับไล่มาทิ้งระเบิดใส่ฝ่ายต่อต้าน แต่ฝ่ายต่อต้านก็สามารถยึดค่ายทหารเมียนมาค่ายดังกล่าวได้สำเร็จ 

จากแผนปฏิบัติการ 1111 ของกองทัพคาเรนนี ได้สู้รบกับทหารเมียนมาที่ในเมืองลอยก่อว์ และเมืองโมเบียอย่างหนักหน่วง โดยกองทัพอากาศเมียนมาได้ส่งเครื่องบินขับไล่และเฮลิคอปเตอร์บินมาทิ้งระเบิดโจมตีในตัวเมืองอย่างหนัก โดยเฉพาะอาคารศาสนสถาน และบ้านเรือนของประชาชนได้รับความเสียหายอย่างหนัก แต่การสู้รบระหว่างฝ่ายต่อต้านกับทหารรัฐบาลเมียนมายังคงมีอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ในเมืองลอยก่อว์ฝ่ายต่อต้านสามารถควบคุมพื้นที่ได้ 3 ใน 4 ของเมือง ขณะที่ทหารเมียนมาอาศัยอยู่ในเรือนจำกลางเมืองลอยก่อว์ และเอานักโทษเป็นตัวประกัน ทำให้ฝ่ายต่อต้านใช้ยุทธวิธีปิดล้อม และซุ่มยิงอย่างต่อเนื่องเช่นกัน 

ด้านสำนักข่าวกันทราวาดีของกะเหรี่ยงคาเรนนี รายงานข่าวว่า ค่ายผู้พลัดถิ่นที่อาศัยอยู่บริเวณชายแดนไทย-กะเหรี่ยง จะถูกย้ายในฤดูร้อนนี้ พวกเขาต้องการที่พักพิงเพื่อไปอยู่ในที่แห่งใหม่ เนื่องจากการอยู่อาศัยในพื้นที่ปัจจุบันเป็นเรื่องยากและการคมนาคมก็ลำบากมาก เจ้าหน้าที่ค่ายผู้ลี้ภัย กล่าวว่า เมื่อมีผู้ป่วยหนักจะไม่สามารถนำตัวส่งโรงพยาบาลได้ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างต่อเนื่อง 

เหตุผลที่เราย้ายค่าย เพราะว่าฝนจะแบกอาหารลำบาก และสุขภาพ เมื่อพูดถึงเรื่องการศึกษาเราต้องเผชิญกับความล่าช้าที่ยากลำบากมากนั่นเป็นเหตุผลที่เราย้าย เนื่องจากเราไม่สามารถส่งต่อผู้ป่วยไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลได้ทันเวลา ทำให้มีผู้เสียชีวิตจากการไม่ได้รับการรักษาทันท่วงที 

ในค่ายนั้นคนไข้ที่มีภาวะฉุกเฉินด้านสุขภาพถูกส่งตัวไปโรงพยาบาลล่วงหน้า มีผู้ป่วยที่ไม่สามารถนำส่งโรงพยาบาลได้ 5 ราย และเสียชีวิต 2 รายเสียชีวิตในวันเดียว เนื่องจากความยากลำบากในการเดินทางไปยังค่ายผู้ลี้ภัยที่เขาอาศัยอยู่ในปัจจุบัน ผู้บริจาคจึงไม่สามารถมาได้ และผู้พลัดถิ่นก็ประสบปัญหาในการเคลื่อนย้ายอาหารด้วยตนเองเช่นกัน ประชาชนประมาณ 1,300 คน จะต้องอพยพย้ายถิ่นฐานและยังมีความต้องการเชื้อเพลิงสำหรับรถยนต์ที่สามารถช่วยเหลือเด็กในการเคลื่อนย้ายได้ 

ผู้คนที่อาศัยอยู่ในค่ายผู้ลี้ภัยนั้น คือเมืองโบลาเคอิ ตำบลหมู่บ้านใหม่ ผู้ที่หนีสงครามส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในเมืองแม่แสะ และเริ่มหลบหนีในเดือน เม.ย. รัฐกะเรนนีและรัฐฉาน-คาเรนนี ติดกับพรมแดนเมืองโมเบีย สภาบริหารชั่วคราวแห่งรัฐกะเรนนี (IEC) กล่าวว่า จำนวนผู้พลัดถิ่นที่หนีออกจากบ้าน เนื่องจากการสู้รบมีจำนวนถึง 350,000ราย และมีค่ายผู้พลัดถิ่นIDP มากกว่า 200 แห่ง 

สำนักงานเพื่อการประสานงานกิจการด้านมนุษยธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNOCHA) ได้ประกาศเมื่อวันที่ 5 เม.ย. ว่าจำนวนผู้ที่จะกลายเป็นคนไร้บ้าน เนื่องจากความขัดแย้งทางทหาร หลังการรัฐประหารในเมียนมาจะสูงถึง 2.5 ล้านคนภายในปี 67

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม