ป้า ถูกหลานขู่ยิงให้ตาย หลังได้รับพัสดุเป็นยาไอซ์แล้วแจ้งตำรวจให้มาเอาไป

6 เม.ย. 67

ป้าหนีตาย เปิดกล่องพัสดุจ่าหน้าถึงหลานชาย  พบยาไอซ์ 1 ถุง หนักกว่า 5 กรัม   แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มารับยาไป  วันรุ่งขึ้นหลานมาถามหากล่องพัสดุ จึงแจ้งไปว่าตำรวจมาเอาไปแล้ว  หลานชายเจ้าของยา จึงขู่บังคับให้เอามาคืนหากไม่เอามาคืนจะยิงให้ตาย!

วันนี้ (6 เม.ย. 67) เวลา 15.00 น.  นางบุญมา ดวงสุธา อายุ 58 ปี เดินทางมาร้องขอความช่วยเหลือกับ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ  ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด   กรณีหลานชายของตัวเองได้ส่งพัสดุมาที่บ้าน โดยภายในกล่องพัสดุพบเป็นยาเสพติดประเภท 1 (ยาไอซ์) จำนวนกว่า 5 กรัม ตนเป็นคนเปิดพัสดุจึงได้นำยาทั้งหมดส่งมอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี 

วันต่อมาหลานชายโทรมาถามถึงพัสดุที่ส่งมา ตนจึงบอกว่าให้กับทางตำรวจไปแล้ว หลานชายไม่พอใจจึงข่มขู่ว่าถ้าไม่นำยามาคืนจะตามเข้าไปยิงทิ้งถึงที่บ้าน

นางบุญมา ดวงสุธา เล่าว่า เมื่อวันที่ 25 มี.ค. เวลาประมาณ 09.00 น. ที่ผ่านมาได้มีกล่องพัสดุส่งมาที่บ้านตรงข้าม ซึ่งอดีตเคยเป็นบ้านของหลานชายคนโต ก่อนจะขายให้กับทางเพื่อนบ้านไป เจ้าของบ้านคนปัจจุบันเห็นพัสดุเป็นนามสกุลเรา จึงได้เรียกให้ไปรับเอาพัสดุไป บนกล่องพัสดุที่ส่งมาเป็นชื่อของ นายเกียรติชัย (หลานชายคนเล็ก) โดยชื่อผู้ส่ง -ผู้รับ เป็นชื่อเดียวกันคือ นายเกียรติชัย และตนไม่ได้อ่านชื่อให้ดีก็นึกว่าเป็นของหลานชายคนโต จึงแกะดูเผื่อเป็นเอกสารหรืออะไรสำคัญจะได้ถ่ายรูปส่งไปให้หลานชายคนโตดูผ่านทาง line เพราะหลานชายคนโตมักจะให้ทำแบบนี้อยู่บ่อยครั้ง เช่นถ่ายรูปเอกสารต่าง ๆ ที่ส่งมายังบ้านเก่า เพื่อส่งให้เค้าดู

แต่ปรากฎว่าของภายในกล่องพัสดุเป็น ยาไอซ์ ซึ่งตนเองก็ไม่เคยรู้จักหรือเห็น ยาไอซ์ มาก่อนตนจึงถ่ายรูปส่งไปให้ลูกชายตนเองดู จึงได้รับคำตอบว่าของที่ส่งมาคือยาเสพติด (ยาไอซ์) ลูกชายจึงบอกให้ตนอยู่เฉย ๆ ไม่ต้องทำอะไร จะโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปตรวจสอบ ก่อนทางตำรวจจะพาทางตัวป้า ไปให้ปากคำที่ สภ.ไทรน้อย และปล่อยกลับมาโดยที่บอกกับป้าว่าไม่ต้องแจ้งความ เดี๋ยวทางตำรวจจัดการเอง ให้รอรับโทรศัพท์จากทางตำรวจเพียงอย่างเดียว

วันรุ่งขึ้นหลานชายคนเล็กโทรมาตามพัสดุ ตนจึงได้บอกว่าส่งให้ทางตำรวจไปแล้ว หลานชายรู้สึกไม่พอใจจึงได้ข่มขู่ ก่อนจะเข้ามาตามหาที่บ้านแต่ไม่เจอตัวป้า จึงได้ฝากคนระแวกบ้านให้คอยดูป้า ถ้ากลับเข้ามาเมื่อไหร่ให้แจ้งจะเข้ามาจัดการ คนระแวกบ้านจึงได้นำเรื่องมาบอกกับป้า และทางพี่ชายของป้าเองคือพ่อของ นายเกียรติชัย (หลานคนเล็ก) ก็ได้โทรมาเตือนว่าลูกชายตนมา ขอให้อย่ายุ่งกับเรื่องนี้มันจะเอาปืนเข้ามาจัดการกับป้าเลย

จึงทำให้ป้าเองไม่กล้ากลับเข้าบ้านเพราะเกรงว่าจะถูกทำร้าย โทรหาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็ได้คำตอบเพียงว่ารออยู่เฉย ๆ ถึงจะถูกข่มขู่แต่ก็ไปทำอะไรไม่ได้ เพราะไม่ใช่เหตุซึ่งหน้า เอาไว้รอให้โดนทำร้ายก่อนค่อยโทรกลับมาแจ้งใหม่ นี่ก็ผ่านมา 10 กว่าวันแล้ว ที่ไม่กล้าเข้าบ้าน ขาดรายได้จากการทำงาน ป้าเป็นลูกจ้างวันละ 300 ไม่ทำงานก็ไม่มีเงิน ร้านก๋วยเตี๋ยวที่ทำงานเป็นลูกจ้างเขาอยู่ก็เดือดร้อนไปด้วย ขายไม่ได้เพราะที่ร้านขายกับนายจ้างอยู่สองคน ตนไปทำงานไม่ได้นายจ้างแก่แล้วก็ทำคนเดียวไม่ไหว กลัวจะทำไม่ทันจึงต้องปิดร้านก๋วยเตี๋ยวไปด้วย ไม่รู้จะต้องทำวิธีไหนหมดหนทาง ลูกสาวจึงติดต่อมาทางเพจสายไหมต้องรอดให้ เพื่อขอความช่วยเหลือ วันนี้จึงได้โบกแท๊กซี่เดินทางจาก ไทรน้อย นนทบุรี มาขอความช่วยเหลือกับทางเพจ

ด้าน นายเอกภพ  เหลืองประเสริฐ ภายหลังรับแจ้ง ได้ประสานไปยัง พ.ต.อ.เมษนนท์  นาขวัญ ผกก.สภ.ไทรน้อย  เพื่อขอให้ช่วยเร่งดำเนินการ นำตัว นายเกียรติชัย มาสอบสวนและดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็วตามนโยบายรัฐบาล และขอให้ประสานเจ้าหน้าที่มาคุ้มครองดูแลความปลอดภัยของ ป้าบุญมา ในระหว่างที่ยังติดตามตัวนายเกียรติชัย มาดำเนินคดีไม่ได้ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยด้วย

จากข้อมูล ผู้สื่อข่าวพบว่า นายเกียรติชัย เคยต้องคดียาเสพติดมาแล้วเมื่อปี พ.ศ. 2558 ก่อนจะพ้นโทษออกมาได้ไม่นาน ก็หวนมาเลือกเดินทางเดิมอีก ทางด้าน ผกก.สภ.ไทรน้อย ได้รับเรื่องไว้และจะสั่งชุดสืบสวนลงพื้นที่ในเย็นวันนี้เพื่อไปนำตัว นายเกียรติชัย มาดำเนินคดีให้เสร็จสิ้น

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส