รวบถึงบ้าน ผัวเมียเจ้าหนี้โหด เก็บดอกรายวัน กู้ 1 หมื่น จ่าย 6 หมื่น ต้นยังเท่าเดิม พร้อมปล่อยคลิปข่มขู่-ประจานลูกหนี้ลงโซเชียล
วันที่ 4 เม.ย. 67 เจ้าหน้าที่ตำรวจกองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 5 พบหลักฐานสำคัญ คือคลิปวีดิโอ ความยาวร่วม 2 นาที เป็นภาพในขณะที่นายเปรมศักดิ์ อายุ 30 ปีและ น.ส.ณิชาพร อายุ 37 ปี สองสามีภรรยา ผู้ต้องหาคดีปล่อยเงินกู้นอกระบบกำลังพูดข่มขู่ และต่อว่าลูกหนี้รายหนึ่ง โดยมีการนำคลิปโพสต์ลงโซเชียล
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้นำกำลังลงพื้นที่ บ้านเลขที่115/1 หมู่ที่ 1 ต.ปากแพรก อ.ดอนสัก จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นบ้านพักอาศัยของผู้ต้องหา เพื่อเข้าติดตามและสอบสวนผู้ต้องหา พร้อมตรวจยึดหลักฐานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการปล่อยเงินกู้นอกระบบ ซึ่งได้ตรวจยึดเอกสารสัญญากู้ยืมเงินหลายฉบับ พร้อมรายละเอียดการกู้ยืมเงิน จำนวน 31 ฉบับ, สำเนาบัตรประชาชนของลูกหนี้ จำนวน 13 ฉบับ, สมุดจดบันทึกมีรายชื่อลูกหนี้พร้อมจำนวนเงินกู้ จำนวน 2 เล่ม, สัญญากู้ยืมเงิน ที่ยังไม่ได้ใช้งานจำนวนหนึ่ง, สมุดบัญชีธนาคาร 2 เล่ม รวมถึงแม็กกาซีนปืนดัดแปลงและโทรศัพท์มือถือจึงดำเนินการสืบสวนสอบสวนเพิ่มเติม
จากการสอบสวนพบว่า นายเปรมศักดิ์ และน.ส.ณิชาพร สองสามีภรรยาให้การรับสารภาพว่า คลิปที่ปรากฎเป็นคลิปที่ถ่ายไว้เองที่เกิดจากความโกรธซึ่งหน้า เนื่องจากลูกหนี้ที่เห็นในคลิป พยายามหลบหนีไม่ยอมจ่ายเงิน เมื่อเจอตัวจึงเกิดความโมโห และต่อว่าตามที่เป็นคลิป ตนยอมรับว่าปล่อยเงินกู้จริง
โดยทั้งคู่จะคิดอัตราดอกเบี้ยผ่อนชำระแบบดอกลอย ร้อยละ 6 บาท ต่อวัน จนกว่าจะมีเงินต้นที่กู้ยืมมาชำระคืนทั้งหมด และหากวันไหนไม่มีเงินมาชำระค่าดอกเบี้ยในแต่ละวันได้ก็จะคิดดอกเบี้ยแบบทบต้นทบดอก ถือว่าเป็นดอกเบี้ยที่โหดมากและเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด
พล.ต.ต.ภูมิพัฒน์ ภัทรศรีวงษ์ชัย ผบก.สอท.5 กล่าวว่า การจับกุมในครั้งนี้เป็นการจับกุมตามนโยบายกวาดล้างเงินกู้นอกระบบของรัฐบาล ซึ่งมีผู้เสียหายที่เป็นลูกหนี้รายหนึ่งของ น.ส.ณิชาพร ได้กู้ยืมเงิน จำนวน 10,000 บาท และต้องจ่ายดอกเบี้ยให้ น.ส.ณิชาพร วันละ 600 บาท หรืออัตราดอกเบี้ยร้อยละ 6 ต่อวัน จนกว่าจะสามารถมีเงินต้นจำนวน 10,000 บาทไปคืนเจ้าหนี้
ถ้าวันไหนไม่มีเงินมาชำระค่าดอกเบี้ย จะคิดดอกเบี้ยแบบทบต้นทบดอก ทำให้ปัจจุบันผู้เสียหายรายดังกล่าวจ่ายดอกเบี้ยให้กับ น.ส.ณิชาพร ไปแล้วกว่า 60,000 บาท จึงรวบรวมพยานหลักฐานในการออกหมายจับ และเข้าตรวจค้นจับกุม
พล.ต.ต.ภูมิพัฒน์ กล่าวอีกว่า ผู้ปล่อยกู้รายนี้มีพฤติกรรมปล่อยกู้ด้วยอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่าที่กฎหมายกำหนด ร้อยละ 6 ต่อวันให้กับลูกหนี้ประมาณ 30 ราย และมีพฤติกรรมการข่มขู่ลูกหนี้ อีกทั้งการตรวจค้นยังพบแม็กกาซีนปืนดัดแปลง แต่ไม่พบตัวปืน ซึ่งจะได้ขยายผลตามหาอาวุธปืนเป็นอันตรายต่อประชาชนทั่วไป
หลังจากนี้จะได้นำตัวทั้งคู่ส่งพนักงานสอบสวน สภ.ดอนสักดำเนินคดีในข้อหา "เรียกเก็บอัตราดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด,มีเครื่องกระสุนในครอบครองโดยผิดกฎหมาย" ทั้งนี้หากขยายผลพบว่ามีการกระทำผิดอื่นๆก็จะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
