พบแล้วร่าง น้องต้า หลังพลัดหลงป่า สภาพนอนหงายเสียชีวิตในลำห้วย แม่ติดใจหลงป่าทำไมฟันถึงหัก เชื่อลูกถูกทำร้าย
วันที่ 1 เมษายน 67 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าจากกรณีที่วันนี้ 31 มี.ค.67 เวลา08.00 น. นายสมจิตร จุลเจริญ นายอำเภองาว มอบหมายให้ปลัดอำเภอ ฝ่ายความมั่นคง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ต.บ้านแหงหลวงเหนือ บ้านโป่งร่วม และกู้ภัย ช่วยกันค้นหาคนหลงป่า ชื่อนายภานุพงษ์ ถามล หรือ ต้า อายุ 24 ปี ชาวตำบลบ้านโป่ง อำเภองาว จังหวัดลำปาง
ซึ่งได้เข้าป่าแม่ทางกับเพื่อนสนิทด้วยกันสองคน ตั้งแต่วันที่ 27 มีนาคมที่ผ่านมา เพื่อนชายที่เข้าป่าด้วยกัน กลับออกจากป่าแจ้งญาติ นายต้า ว่าได้เข้าไปหาเก็บของป่า แล้วได้เดินพลัดหลงกัน
จนทางเจ้าหน้าที่ช่วยกันออกตามหาพบ รถ จยย.ของนายต้า จอดอยู่ทางขึ้นเขา บริเวณป่าแม่ทาง ลึกเข้าไปในป่าเขตรอยต่อ ต.บ้านแหงหลวงเหนือ โดยเวลา 11.30 น. ทีมค้นหาได้พบร่างสภาพนอนหงายเสียชีวิตอยู่ลำห้วย สภาพขึ้นอืด ใส่กางเกงขาสั้น ไม่ใส่เสื้อ จึงได้ประสาน พนง.สอบสวน และแพทย์เข้าตรวจสอบจุดที่พบศพ
ในเบื้องต้นพบว่าบริเวณคางลักษณะคล้ายถูกของแข็ง ต้องนำร่างออกจากจุดที่พบศพอย่างลำบาก ต้องห่อมัดศพวางบนเปลสนาม มัดติดกันไว้ แล้วใช้เชือกผูกติดกับลำไม้ไผ่ ช่วยกันชักลากขึ้นจากลำห้วย ก่อนที่จะมัดติดท้ายรถจ ยย.ของกู้ภัยงาว ลากออกจากป่า ซึ่งเป็นเส้นทางใช้ได้เฉพาะรถจ ยย.เท่านั้น จนออกมาถึงเส้นทางที่พอจะใช้รถยนต์ได้นำร่างส่ง รพ.งาว เพื่อที่จะส่งต่อ รพ.ลำปาง ตรวจชันสูตรพลิกศพหาร่องรอยหรือบาดแผลตามร่างกายอีกครั้ง เพื่อสรุปหาสาเหตุของการเสียชีวิต
ในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยังไม่ได้ตั้งประเด็นของการเสียชีวิต ได้เรียกเพื่อนชายที่เข้าป่าด้วยกันสอบเค้นอีกครั้ง และรอผลการชันสูตรพลิกศพจากแพทย์เพื่อจะได้สรุปหาสาเหตุของการเสียชีวิต
ล่าสุดวันนี้ ( 1 เมษายน 2567 ) แพทย์ รพ.งาวได้ส่งศพ ผู้ตายส่งตรวจพิสูตรหาสาเหตุของการเสียชีวิตที่ รพ.ศูนย์ลำปาง โดยแม่ของผู้ตาย เปิดเผยว่า วันที่ 27 มีนาคม ช่วงเวลาประมาณ 07.00 น.ลูกชายได้ขี่ จยย.ออกจากบ้านไปกับเพื่ิอน เท่าที่ทราบไปด้วยกันเกือบสิบคนเพื่อไปหาของป่า แม่พยายามโทรศัพท์ติดต่อ เนื่องจากลูกชายต้องไปสอบสัมภาษณ์งานบริษัทแห่งหนึ่ง ที่นิคมอุตสาหกรรมลำพูน แต่ลูกไม่รับสาย ยอมรับว่าลูกชายไม่เคยเข้าไปหาของป่ามาก่อน ส่วนที่พบศพใส่กางเกงขาสั้นเพียงตัวเดียวนั้น ก็ยังติดใจอยู่ เนื่องจากตอนออกจากบ้านใส่กางเกงขายาว และยังติดใจของการเสียชีวิต พบว่าฟันหัก ถ้าเปรียบเทียบสภาพคนที่หลงป่า ขาดน้ำอากาศร้อน ต้องเหนื่อยอ่อนล้า ไม่ถึงขนาดต้องฟันหัก ซึ่งทราบจากคนที่เข้าไปซูมดูภาพใบหน้า ส่วนตนเองไม่กล้าดูหน้าลูกชาย รับไม่ได้ ในใจคิดว่าลูกอาจจะถูกทำร้าย แต่ก็ต้องรอผลชันสูตรพลิกศพจากหมออีกครั้ง.
.jpg)
