เจอร่างสาวที่มาขอให้หลวงพ่อสวดส่ง ก่อนเดินลงน้ำหายตัวไปแล้ว

30 มี.ค. 67

เจอร่างแล้ว สาวศรีสะเกษที่มาขอให้หลวงพ่อสวดส่ง ก่อนเดินลงน้ำหายตัวไป

ผู้สื่อข่าวรายงาน วันที่ 29 มีนาคม 2567  นักประดาน้ำกู้ภัยรัศมีมณีรัตน์  ได้รับแจ้งมีคนสูญหายภายในน้ำ เป็นคลองข้างวัดศรีประชาราม ตำบลบ้านเก่า อำเภอเมืองชลบุรี จังหวัดชลบุรี หลังได้รับจากจากหลวงพ่อที่จำวัดอยู่บอกว่า มีหญิงสาวเข้ามาภายในวัดประมาณ ตี 1 จะขอเข้าไปภายในอุโบสถ หลวงพ่อก็บอกไม่ได้ถ้าจะเข้าไปต้องขออนุญาติเจ้าอาวาสก่อน

จากนั้นหญิงสาวพูดตัดพ้อว่าตนเองนั้นพร้อมที่จะจากโลกนี้ไปแล้ว ได้มีการบริจาคข้าวของไว้กับทางด้านหลวงพ่อ

จนช่วงเช้าพระจะออกไปบิณฑบาตบอกให้สาวคนนี้รออยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่อย่าเพิ่งเดินออกไปไหน พอพระกลับมาจากบิณฑบาตก็พบว่าสาวคนดังกล่าวได้หายไปแล้วแต่มีคนเห็นว่าเดินหลงน้ำไป

คืบหน้าล่าสุดวันที่ 30 มีนาคม 2567 มีชาวบ้านที่สัญจรผ่านไปมาไปพบศพ นางสาว วรรณวิมล พิมพา อายุ 30 ปี คนจังหวัดศรีสะเกษ ร่างน้องลอยอยู่กลางคลอง ห่างจากจุดที่นักประดาน้ำค้นหาร่างประมาณ 200-300 เมตร ตอนนี้กู้ภัยได้นำศพน้องขึ้นมาจากจุดเดิมวัดศรีประชาราม นำร่างขึ้นมาแล้วไม่พบร่องรอยการถูกทำร้ายร่างกายแต่อย่างใด ส่วนสาเหตุที่น้องเลือกที่จะเดินลงไปน้ำเบื้องต้นคาดกว่าหน้าจะมีจากปัญหาความเครียดส่วนตัว

พระปรีชา ปฏิภาโน พระลูกวัดได้เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่าโยมที่เสียชีวิตได้มาเคาะประตูกุฏิเมื่อเวลาราว ๆ ตี1-ตี2 ก็ไม่ได้สนใจอะไรเพราะทีแรกคิดว่าเป็นวิญญาณมาขอส่วนบุญก็เลยไม่กล้าเปิดออกไปดูจนกระทั่งเมื่อเวลาตีสามกว่ามีพระกุฎิข้างข้างเรียกว่ามีโยมมาหา อยู่ข้างล่างกุฎิจากนั้นจึงเดินออกมาดูก็พบหญิงสาวเป็นคนสวยหน้าตาดี จึงได้สอบถามเรื่องราวที่ไปที่มาโยมก็เลยเล่าให้ฟังว่า ได้พบทางสว่างบรรลุทางธรรมแล้วจะมาละสังขารจากนั้นจึงได้ถวายกระเป๋ากับของมีค่าทั้งหมดให้กับพระ

เมื่อเห็นพูดคุยอย่างนี้จึงได้สอนธรรมะและให้นั่งสมาธิอยู่ที่ข้างล่างกุฎิจากนั้นถึงเวลาตีห้าพระเองก็จะไปบิณฑบาตจึงได้มาบอกโยมสาวว่าให้ไปรอใต้ต้นไม้ใหญ่แล้วอย่าไปไหน เดี๋ยวโทรให้ตำรวจมารับแล้วเอาไปส่งให้ จากนั้นก็จะเดินไปเปิดประตูศาลาเพื่อที่จะให้เข้าไปนั่งหรือพักผ่อนรอทางหญิงสาวก็ไม่เข้าไป จากนั้นก็ได้ถามทางอาตมาว่าสามารถติดต่อคนบนฟ้าได้ไหม เพราะตอนนี้มองเห็นทางธรรมแล้วอาตมาก็เลยตอบไปว่าติดต่อใครไม่ได้หรอกคนบนฟ้า อาตมาไม่มีวิชา จากนั้นจึงได้มาส่งบริเวณแถวต้นไม้ใหญ่ที่มีศาลาและศาลที่อยู่หลังวัดและก็บอกโยมว่าอย่าเดินไปไหน และอย่าเดินไปไนน้ำ ให้รอ เดี๋ยวมีคนมา

จากนั้นก็ได้ไปห่มผ้าจะไปบิณฑบาตพอกลับมาก็ไม่เจอแล้วก็พยายามเดินเดินหาก็ไม่เจอพบเพียงแต่ดอกไม้และรองเท้าที่อยู่ในน้ำจึงรีบแจ้งตำรวจให้มาตรวจสอบเพราะทีแรกก็ไม่ได้คิดว่าเค้าจะเดินลงไปในน้ำไม่คิดว่าจะเป็นแบบนี้

ทางด้านนายโชคทวี ชาลี อายุ 46 ปี เป็นพี่ชายของผู้เสียชีวิตได้เดินทางมาที่เกิดเหตุและได้เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า น้องสาวมีอาชีพทำงานเป็นพีอาร์และไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่งเค้าจะทำงานและย้ายไปเรื่อยส่วนตัวก็ไม่ได้พูดคุยอะไรกันมากนักจะมีก็ถามไถ่เรื่องความเป็นอยู่และการทำงานเท่านั้นส่วนลึกลึกน้องสาวก็ไม่ได้เล่าอะไรให้ฟังว่ามีความเครียดอะไรหรือมีปัญหาอะไรส่วนตัวไหม ตนก็ไม่เคยถามแต่ ถ้ามีอะไรน้องสาวส่วนใหญ่โทรไประบายให้กับแม่ฟังคนเดียวเท่านั้น ตนจึงไม่รู้ถึงสาเหตุแต่ทุกครั้งที่คุยกันน้องก็จะพูดทำนองนี้เรื่องการทำบุญทำความดีและปล่อยวางอย่าไปยึดติดเค้าจะสอนตนแบบนี้ประจำ

ต่อมานายพนมรุ้ง สุภนานัย อายุ 31 ปี ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทของผู้เสียชีวิตได้เดินทางมาที่เกิดเหตุและได้โชว์หลักฐานในการแชทที่ผู้เสียชีวิตได้ส่งหาก่อนจะก่อเหตุเดินลงน้ำโดยได้เปิดหลักฐานแชทให้ผู้สื่อข่าวดูว่า ผู้ตายบอกว่าได้เดินทางมารับสังขารที่วัดศรีประชาราม และบอกตนว่าให้ทำความดีเพราะความดีจะติดตัวเราไปหลังความตายจะได้ดีจากนี้และมีข้อความก่อนส่งท้ายว่าเดินทางมาเองไม่มีใครบังคับและมีสติดีทีแรกตนก็ไม่คิดว่าเค้าจะทำจริงเมื่ออ่านในแชทจนกระทั่งมารู้ข่าวเห็นในเพจและไลฟ์สดที่ทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยมีการลงงมและค้นหาตนจึงได้เดินทางมาดูไม่คิดว่าเพื่อนจะทำแบบนี้จริงๆ

ทางญาติที่เดินทางมาดูต่างโศกเศร้าเสียใจกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นโดยไม่คิดว่าน้องสาวจะกล้าทำแบบนี้

ต่อมาทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรพานทองได้ให้กู้ภัยดำเนินการนำร่างของผู้เสียชีวิตไปชันสูตรพลิกศพที่โรงพยาบาลตำรวจเพื่อตรวจสอบอย่างละเอียดให้แน่ชัดถึงการเสียชีวิตในครั้งนี้และจะได้ให้ญาติผู้เสียชีวิตดำเนินการนำร่างของผู้เสียชีวิตไปทำพิธีทางศาสนาต่อไป

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส