นักโทษชายคลั่ง ปีนตึก 5 ชั้นโรงพยาบาลน่านหลบหนี

21 มี.ค. 67

วุ่นทั้งคืน ตามจับนักโทษชาย ปีนตึก 5 ชั้น โรงพยาบาลหลบหนี สารภาพไม่ได้บ้า แต่คลุ้มคลั่งเพราะถูกแฟนบอกเลิกและเอาสมบัติไปกับชายคนใหม่       

 

เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2567 เวลา 02.50 น.มีรายงานจากศูนย์วิทยุนครน่าน 191 ภูธรจังหวัดน่าน ว่ามีผู้ต้องขังมารักษาตัวและหลบหนีออกจากโรงพยาบาลน่าน ตำบลในเวียง อำเภอเมือง จังหวัดน่าน ชื่อนักโทษชายกิตติพจน์ วงค์ตุ้ย อายุ 38 ปี ผู้ต้องขังหลบหนีพร้อมโซ่ตรวนและใส่กางเกงผู้ป่วยโรงพยาบาลน่าน

ซึ่งถูกส่งมาจากเรือนจำจังหวัดน่าน เข้ามารักษาเนื่องจากมีอาการคลุ้มคลั่งและพักรักษาที่แผนกจิตเวช โดยเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จัดเวรยามเฝ้าเพียงประตูด้านนอก เนื่องจากเป็นแผนกจิตเวชไม่สามารถไปเฝ้าด้านในได้ ทั้งผู้ต้องขังยังถูกตีโซ่ตรวนรวมทั้งโรงพยาบาลยังมีตะแกรงเหล็กติดประตูหน้าต่างอีกด้วย

หลังรับแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ ได้เข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุบริเวณชั้น 5 จากการตรวจสอบพบว่า นช.กิตติพจน์ ได้งัดโครงเหล็กดัด แล้วปีนหลบหนีลงมาจากชั้น 5 ไป โดยปีนไต่ลงมา มีญาติผู้ป่วยเห็นแต่คิดว่าตาฝาดจึงไม่ได้แจ้งเจ้าหน้าที่

จากการตรวจสอบกล้อง CCTV ของโรงพยาบาล พบว่า นช.กิตติพจน์ สวมใส่กางเกงสีม่วงของผู้ป่วยโรงพยาบาลหลบหนีพร้อมโซ่ตรวน ข้ามสะพานนครพัฒนา แต่กล้องบริเวณอีกฝั่งของสะพานไม่พบว่าข้ามไปฝั่งอำเภอภูเพียง เจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จึงระดมกันค้นหาตามแม่น้ำน่าน ซึ่งคาดว่าผู้ต้องขังกระโดษสะพานหลบหนี

จากนั้นเวลา 08.30 น.มีการเผยแพร่เรื่องราวดังกล่าวบนเพจเฟซบุ๊ก ทำให้มีการแจ้งเบาะแสว่าเมื่อเวลา 09.00 น.มีคนพบเจอนช.กิตติพจน์ เข้ามาในพื้นที่ของบ้านปัวชัย ตำบลฝายแก้ว มาถามทางไปกรมทหารพรานที่ 32 ฐานแสงเพ็ญ และมาขอให้ถอดโซ่ตรวน ชาวบ้านก็สงสัยจึงถามว่าหลบหนีมาจากไหน นช.กิตติพจน์อ้างว่าหลบหนีมาจากชั้น 5 โรงพยาบาลน่าน ไม่ได้ป่วยเป็นจิตเวช แต่ถูกจับมารักษาและหมอจะฉีดยาเลยหนีมาจากโรงพยาบาล แต่ชาวบ้านไม่เชื่อจึงรีบแจ้งข้อมูลเจ้าหน้าที่ นช.เห็นท่าไม่ดีจึงเดินหนีไปทางทุ่งนา

หลังได้รับข้อมูลเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ จึงสนธิกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสภูธรเมืองน่าน ระดมค้นหาในพื้นที่ โดยตั้งด่านตรวจน่านสะกัดโซนพื้นที่ดังกล่าว และระดมกำลังติดตามค้นหา จนไปพบ นช.กิตติพจน์ กำลังนั่งพักเหนื่อย บริเวณใต้ต้นมะขามกลางทุ่งนา สวมเสื้อสีดำ กางเกงขาสั้นสีดำ รองเท้าผ้าใบสีชมพู ส่วนโซ่ตรวนที่ติดไว้ไม่มี เมื่อนช.กิตติพจน์ เห็นเจ้าหน้าที่จึงวิ่งหลบหนี เจ้าหน้าที่จึงวิ่งไล่จับ จนไปจับได้บริเวณสวนป่าด้านหลังโรงเรียนบ้านทุ่งน้อย ตำบลฝายแก้ว อำเภอภูเพียง จังหวัดน่าน

จากการซักถาม นช.กิตติพจน์ ให้การว่าเมื่อ 3 วันก่อน แฟนตนได้มาขอเยี่ยมที่เรือนจำ จังหวัดน่าน และได้มาแจ้งตนว่าขอเลิกกันเพราะเจอผู้ชายใหม่แล้ว โดยแฟนได้ขอทรัพย์สินไปทั้งหมด ตนจึงเกิดความเครียดและคลุ้มคลั่งอยู่ในเรือนจำ จนเจ้าหน้าที่ต้องส่งมารักษาที่โรงพยาบาล พอสบโอกาสจึงทำการงัดลูกกรงและปีนด้านหลังตึกลงมาจากชั้น 5 แล้วข้ามถนน ตั้งใจว่าจะไปหาพ่อที่เป็นทหารพราน ที่อยู่ฐานแสงเพ็ญ แต่จังหวะที่กำลังเดินบนสะพานมีรถยนต์ขับมาพอดี จึงตกใจกระโดดสะพานไป

จากนั้นกางเกงที่ใส่มาหลุดหาย ตนจึงว่ายน้ำมาเรื่อยๆจนมาขึ้นฝั่งและเจอชาวบ้าน เขาเลยให้เสื้อผ้ามาใส่ จากนั้นตนจึงไปถามทางและขอให้ชาวบ้านช่วยถอดโซ่ตรวน แต่ไม่มีใครช่วย ตนจึงเดินลัดกลางทุ่งนาเพื่อหาทางไปหาพ่อ พอดีผ่านกระท่อมกลางทุ่งนาจึงขอยืมฆ้อน เพื่อมาปลดโซ่ตรวน แล้วไปนั่งพักและนั่งงัดโซ่ตรวนอยู่ใต้ต้นมะขาม

พองัดโซ่ตรวนเสร็จ ก็เป็นจังหวะที่เจ้าหน้าที่ติดตามมาทันพอดี ตนตกใจจึงวิ่งหนี จนเจ้าหน้าที่วิ่งไล่ตามมาจนจับกุมตัวได้ ตนไม่ได้เป็นบ้า แต่แค่เครียดที่ถูกแฟนทิ้ง แถมจะเอาทรัพย์สินตนทั้งหมดไปหาแฟนใหม่

จากนั้นเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์ จึงทำการควบคุมตัวนำไปกักขังไว้ที่เรือนจำจังหวัดน่าน พร้อมแจ้งข้อหาเพิ่ม คือหลบหนีสถานที่คุมขัง

สำหรับ นช.กิตติพจน์ หรือ ป๊อบวงศ์ตุ้ย อายุ 37 ปี เป็นผู้ต้องหาในคดี ครอบครองยาบ้าและเสพยาบ้า.

advertisement

advertisement

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส