อีกแล้ว! เด้ง ผอ.รร.ฉาว งุบงิบงบหลวง ชอบแชตโชว์ไอ้จ้อนกลุ่มลับ

19 มี.ค. 67

 

อีกแล้ว! เด้ง ผอ.รร.ฉาว งุบงิบงบหลวง แถมแชตโชว์ไอ้จ้อนกลุ่มลับ อยู่โรงเรียนเหมือนบ้าน นุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียว โนสนโนแคร์สายตาครูนักเรียน 

จากกรณี คณะกรรมการโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น ยื่นหนังสือร้องเรียน ขอให้ตรวจสอบ ผอ.โรงเรียน เนื่องจากอ้างว่ามีพฤติกรรมเบิกงบประมาณของโรงเรียนไปใช้จ่ายส่วนตัว และชอบวิดีโอคอลสยิวในกลุ่มลับ 

ต่อมาวันที่ 19 มี.ค. 67 ที่ จ.ขอนแก่น นาย ชาญกฤต น้ำใจดี ผอ.สำนักงานพื้นที่การประถมศึกษาขอนแก่นเขต 4 ได้เข้าพบ และหารือกับคณะครูโรงเรียนดังกล่าว องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และชาวบ้าน เพื่อรับทราบ เรื่องการร้องเรียนถึงการบริหารงานที่ไม่โปร่งใสของ ผอ.โรงเรียน รวมทั้งเรื่องแชตโชว์อวัยวะเพศในกลุ่มลับ จนทำให้มีการส่งข้อความเข้ามายังแอดมินเพจโรงเรียน จนต้องมีการลงพื้นที่มาตรวจสอบ พร้อมทำความเข้าใจกับทางบุคลากรของโรงเรียนและชาวบ้าน 

นายชาญกฤต กล่าวว่า สำนักงานเขตฯได้รับเรื่องร้องเรียนเมื่อวันที่ 13 มี.ค. ที่ผ่านมาโดยมีตัวแทนกรรมการสถานศึกษาโรงเรียนดังกล่าวยื่นเรื่อง หลังจากที่ได้รับเรื่องร้องเรียนจากนิติกร นำเรื่องร้องเรียนไปสรุป พร้อมตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสืบข้อเท็จจริง โดยวันนี้มีหนังสือสั่งการที่มีคำสั่งให้ ผอ.โรงเรียนได้เข้าไปช่วยราชการที่สำนักงานพื้นที่การประถมศึกษาขอนแก่นเขต 4 แล้ว ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นจะใช้ระยะเวลา 15 วัน ในการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยจะไม่ให้ทางโรงเรียนได้รับผลกระทบจากการที่มีเรื่องร้องเรียน 

นายชาญกฤต กล่าวต่อว่า หลังจากสรุปผลการตรวจสอบครบ 15 วัน จะไม่ให้ ผอ.โรงเรียนกลับมาปฎิบัติงานที่เดิมอีก แต่จะได้ให้ไปเป็น ผอ.โรงเรียนแห่งอื่นแทน ซึ่งจะเป็นโรงเรียนในสังกัดสำนักงานพื้นที่การประถมศึกษาขอนแก่นเขต 4 เท่านั้น เนื่องจากตำแหน่งผอ.เป็นตำแหน่งผู้บริหาร จึงจะต้องมีการย้ายสลับกับตำแหน่งเดียวกัน ซึ่ง ผอ.คนใหม่ของโรงเรียนดังกล่าว จะต้องบริหารงานให้โรงเรียนเกิดความสงบสุข ดูแลบุตรหลานของผู้ปกครองที่ส่งลูกเข้ามาเรียนได้ เมื่อได้ข้อสรุปจะส่งเรื่องไปยังสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ได้มีคำสั่งทำการย้ายในกรณีพิเศษ เพื่อประโยชน์ของทางราชการต่อไป ซึ่งการโยกย้าย ผอ.ตนเองสามารถใช้ มาตรา 53 ในการโยกย้ายได้ทันที เพราะมีอำนาจแต่จะต้องคำนึงทั้งสองฝ่ายจะต้องได้รับความยุติธรรม โดยจะไม่สามารถให้ใครชี้นำบุคคลที่จะมาเป็นผอ.คนใหม่ได้ 

ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปที่โรงเรียนดังกล่าว พบกับนายเจษฎา ตันติบัญชาชัย นายกเทศมนตรีตำบลเขื่อนอุบลรัตน์ ลงพื้นที่มาให้ขวัญกำลังใจครูผู้สอนในโรงเรียนที่เป็นผู้ที่ถูกกระทำ และรู้ถึงพฤติกรรมของ ผอ.โรงเรียน และได้ร้องเรียนเข้ามาที่เทศบาลตำบลเขื่อนอุบลรัตน์ว่า เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นในพื้นที่ จนทำให้ครูและผู้ปกครองเกิดความเป็นห่วงลูกหลาน เพราะต้องพบเจอหน้า ผอ.ที่มาโรงเรียนทุกวัน 

พร้อมทั้งพาผู้สื่อข่าวดูห้องทำงานของ ผอ.โรงเรียน ซึ่งปิดล็อกกลอนเอาไว้ โดยครูในโรงเรียน เปิดเผยว่า ผอ.ใช้เป็นห้องพักอาศัยหลับนอนอยู่กินภายในโรงเรียน ตั้งแต่มาดำรงตำแหน่ง และมีรองเท้าวางอยู่หน้าประตูห้อง ผอ. 3 คู่ 

โดยครูยืนยันว่า เป็นรองเท้าของ ผอ. ซึ่งในห้องทำงาน ผอ.นั้น ครูในโรงเรียนบอกว่า ผอ.ได้ทำการติดแอร์เพิ่ม และมีการดื่มเหล้าทุกวัน จะมีครูบางส่วนที่เป็นเสมือนบริวารคอยซื้อเหล้าให้ดื่มกินกันในนี้ด้วย ด้านล่างชั้น 1 เป็นห้องน้ำในห้องเรียนชั้นระดับอนุบาล ผอ.จะมาใช้ห้องน้ำนี้เป็นประจำ และคลิปที่มีการเผยแพร่ในสื่อนั้น ก็เป็นห้องน้ำห้องนี้ บางครั้งเวลาที่ ผอ.มาอาบน้ำ เดินลงมาจากชั้น 2 ห้องทำงานนุ่งผ้าเช็ดตัวผืนเดียว บางครั้งนุ่งกางเกงขาสั้นเพียงตัวเดียวเข้าห้องน้ำตอนเช้าเพื่ออาบน้ำแต่งตัวเตรียมทำงาน 

นอกจากนี้ยังมีห้องเรียนที่ชั้น 1 ของอาคารเรียนเ ป็นอาคารติดกันกับอาคารห้องทำงาน ผอ.โรงเรียน คุณครูผู้สอน บอกว่า ผอ.ทำเป็นห้องพักของลูกสาว ซึ่งมาพักอาศัยอยู่กับแฟน แต่พอหลังจากมีข่าว ผอ.ได้ขนย้ายข้าวของทั้งหมดออกไปแล้ว จะเหลือรองเท้า 3 คู่ และยาสีฟันอยู่ในห้องน้ำ ส่วนห้องทั้งหมดทำการล็อกกุแจเอาไว้ ไม่สามารถเปิดเข้าไปดูได้ 

นายเจษฎา ให้สัมภาษณ์ว่า กรณีที่เกิดขึ้นนั้น มีผู้ปกครองและครูในโรงเรียนร้องเรียนมาหลายคน เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นนานแล้ว ที่ผ่านมาตนได้ทำการตรวจสอบทั้งหมด พบว่าข้อมูลเอกสารหลักฐานที่มีการยื่นข้อร้องเรียนไปที่เขตนั้นเป็นเรื่องจริงทั้งหมด และจากการตรวจสอบทั้งหมดนั้น ในฐานะที่ตนดูแลพื้นที่นี้อยู่รับไม่ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างมาก 

นอกจากนี้ยังได้เช็กประวัติไปยังโรงเรียนเก่าที่ ผอ.เคยดำรงตำแหน่ง 2 แห่ง ต่างมีพฤติกรรมเช่นเดียวกันนี้ กระทั่งมาที่ อ.อุบลรัตน์ ก็เกิดเรื่องในลักษณะเช่นเดิมขึ้น และเรื่องดังกล่าวนั้นมองว่าการดำเนินการตรวจสอบของเขตพื้นที่การศึกษาล่าช้าอย่างมาก ทั้งที่มีเรื่องร้องเรียนไปตั้งนานแล้ว ตอนนี้ทางเขตพื้นที่การศึกษาจะต้องย้าย ผอ.คนนี้ออกจากพื้นที่ไป และห้ามกลับเข้าพื้นที่อย่างเด็ดขาด เพราะตน รวมทั้งผู้ปกครองและคณะครูในโรงเรียนต่างมองว่าควรคำนึงถึงขวัญและกำลังใจของผู้ที่ทำงานอยู่ร่วมกับ ผอ.คนนี้ และทำการตรวจสอบดำเนินการเอาผิดตามขั้นตอน แต่เรื่องการย้ายออกนอกพื้นที่นั้น ถือเป็นเรื่องที่ควรทำตอนนี้มากที่สุด และควรทำทันที ไม่เช่นนั้นถือว่าเป็นการละเลย 

ด้านครูในโรงเรียน เล่าพฤติกรรมของ ผอ.ว่า เรื่องคลิปนั้นก่อนหน้านี้ฝ่ายหญิงทักเพจของโรงเรียนมาว่าเราจะยอมให้โรงเรียนมี ผอ.แบบนี้หรือที่จะมาอยู่ในสังคมแบบนี้ มันได้เหรอ ก่อนที่จะมีการพูดคุยกัน โดยบอกว่าเป็นเยาวชนและมีคลิปอนาจารซึ่งส่งมาทีหลายคลิป สอบถาม ผอ.แล้วว่าจะแจ้งความไหม แต่ ผอ.บอกไม่ต้องทำอะไรและก็มีคลิปส่งมาเรื่อยๆ รวมแล้วประมาณ 5 คลิป 

ผอ.ไปเข้ากลุ่มเซ็กส์โฟนแล้วสำเร็จความใคร่ แต่ไม่ยอมจ่ายเงิน ซึ่งมี 2 ครั้งที่ใช้บริการ แต่ส่งมา 5 คลิป และมีการลบออกไป เหลือบางส่วนตอนนี้ครูทุกคนรู้สึกไม่ปลอดภัย เราทนมา 1 ปี เหมือนทนมา 10 ปี ไม่มีกระจิตกระใจจะทำงานหลังจากคณะกรรมการไปร้องเรียนที่เขต พอเขตลงพื้นที่มา ทาง ผอ.ได้บอกครูที่จะให้ข้อมูลกับเขตให้พูดตามที่ ผอ.บอก แถมยังมาข่มขู่ครูในโรงเรียนอีกว่าใครอยากย้ายไปทำงานที่เขตให้บอก จะเซ็นต์ให้ตอนนี้ จึงอยู่ด้วยความหวาดกลัวเวลาจะเข้าโรงเรียนต้องโทรนัดเดินเข้าพร้อมกัน ตอนนี้สุดจะทน 

นอกจากนี้ยังมีพฤติกรรมอื่นๆ ที่สร้างความเป็นห่วงให้กับครูผู้ปกครองกลัวว่าจะเกิดเหตุการณ์เหมือนที่มีในข่าวเป็นโรคจิตคลั่งทำร้ายเด็กทำร้ายครู เรื่องต่างๆ นี้เราได้แจ้งร้องเรียนไปตามขั้นตอน โดยคำนึงที่เขตก่อน แต่เมื่อเขตได้รับข้อมูลผิดๆ ไปจากครูที่ ผอ.สั่งให้พูดตาม เพื่อให้ข้อมูลกับทางคณะกรรมการเขตที่ลงมาได้นำข้อมูลดังกล่าวไปดำเนินการตามขั้นตอน ทำให้ครูทุกคนต้องหาที่พึ่งคือ อำเภอและนอกจากนี้ยังมีพฤติกรรมอื่นๆ ทั้งเรื่องงบประมาณโรงเรียน เงินสหกรณ์เงินที่ไม่โปร่งใส และเรื่องที่มองว่าเป็นเรื่องส่วนตัวของ ผอ. นั้นมันเกิดขึ้นในโรงเรียน ซึ่งเรื่องส่วนตัวไม่ควรเกิดขึ้นในโรงเรียน

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส