ทีมทนายความ ดาหน้าโต้ทุกข้อครหา ย้ำ “บิ๊กโจ๊ก” บริสุทธิ์ แฉใหญ่ไล่เส้นเงินเว็บพนัน BNK

19 มี.ค. 67

ทีมทนายความ โต้ทุกข้อครหา ย้ำ บิ๊กโจ๊ก บริสุทธิ์ แฉใหญ่ไล่เส้นเงินเว็บพนัน BNK โยงตำรวจหลายคนเปิดบัญชีรับอื้อ ยัน บิ๊กโจ๊ก ควักเงินตัวเองทำบุญ ไม่จริงซื้อตัวเครื่องบินให้ ป.ป.ช. 

วันที่ 19 มี.ค. 67 ที่โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ สุขุมวิท 22 นายณัฐวิชช์ เนติจารุโรจน์ และนายวราชันย์ เชื้อบ้านเกาะ คณะที่ปรึกษากฎหมาย พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ร่วมกันแถลงข่าว กรณีที่มีการออกหมายเรียก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ พร้อมพวก ใน คดีเว็บพนัน BNK Master 

นายณัฐวิชช์ กล่าวว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ถูกออกหมายเรียกใน คดีเว็บพนัน BNK Master คดีที่ 391/66 ของ สน.เตาปูน ถูกกล่าวหาทำนองว่ามีส่วนพัวพันเกี่ยวกับ เว็บพนัน BNK Master โดยจากการตรวจสอบพบว่า ไม่มีเส้นเงินอะไรวิ่งเข้าถึง หรือไปหา พล.ต.อ.สุรเชษฐ์เลย แต่มีความพยายามจะโยงให้ถึง 

คดีเว็บพนัน BNK Master คดีที่ 391/66 ที่มี น.ส.พิมพ์วิไล ผู้บริหารเว็บพนัน BNK Master ตนตั้งข้อสังเกตว่า พบเส้นทางการเงินวิ่งไปหาหลายคน แต่ทำไมออกหมายจับเพียงไม่กี่คน ถามว่าพนักงานสอบสวนมีพฤติกรรมปกปิดข้อมูลต่อผู้บังคับบัญชาหรือไม่ และไม่มีการออกหมายจับคนอื่น โดยเฉพาะเส้นทางการเงินที่วิ่งไปหาบุคคลต่างๆ และนายตำรวจคนอื่นๆ เกือบ 30 ราย ตั้งแต่ยศ “พล.ต.ต.-ด.ต.” โดยล้วนมาจากเส้นทางการเงินชุดเดียวกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์

นายณัฐวิชช์ กล่าวว่า หากพนักงานสอบสวนชุดนี้ยังคงทำงานในคดีนี้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์เกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะคิดว่าไม่น่าทำตามขั้นตอนกฎหมายที่ถูกต้องเท่าไหร่ และคำร้องออกหมายจับครั้งนี้ ทำในช่วงที่หัวหน้าพนักงานสอบสวนตัวจริงไม่ได้อยู่ในประเทศ แต่กลับมีความพยายามออกหมายจับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ให้ได้ หรือมีหมายเรียกให้รับทราบข้อกล่าวหาให้ได้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์จึงไม่ได้รับความเป็นธรรมในเรื่องนี้ 

อีกทั้งพนักงานสอบสวนชุดนี้ไม่มีอำนาจสืบสวนแล้ว เพราะ ป.ป.ช.เขารับเรื่องของคดีดังกล่าวไว้แล้ว พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ยินดีเขาสู่กระบวนกายุติธรรม หากดำเนินการโดยชอบ แต่ถ้าบิดเบี้ยวก็มีสิทธิ์โต้แย้งกระบวนการนี้ และหากมีการกระทบสิทธิ์ก็จะดำเนินการทุกช่องทาง 

นายณัฐวิชช์ กล่าวว่า เรายืนยันมาตลอดว่า การที่พนักงานสอบสวนไปตั้ง คดีเว็บพนัน BNK Master เป็นอีกคดีหนึ่ง และพยายามจะยื่นคำร้องขอออกหมายจับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์นั้น มันเป็นเรื่องที่มีปรากฏอยู่ในคดีของ สน.ทุ่งมหาเมฆแล้วใน คดีเว็บพนันมินนี่ คดีที่ 724 /66 และ ป.ป.ช.ได้มีมติรับไว้ไต่สวนเมื่อวันที่ 4 มี.ค. 67 เมื่อ ป.ป.ช.รับคดีไว้แล้ว อำนาจการสอบสวนจะไปอยู่ที่ ป.ป.ช. ทางพนักงานสอบสวนจะไม่มีอำนาจสอบสวนต่อแล้ว เพราะคณะพนักงานสอบสวนใน คดีเว็บพนันมินนี่ คดีที่ 724 /66 และคดีเว็บพนัน BNK Master คดีที่ 391/66 ของ สน.เตาปูน ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคณะเดียวกัน 

ส่วนที่มีความพยายามกล่าวหาว่าเป็นคดีฟอกเงิน ตามกฎหมายก็เป็นอำนาจของ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เพราะมีเงินเกี่ยวโยงมากถึง 300 ล้านบาท ตนตั้งขอสังเกตว่าทำไมพยายามดึงเรื่องคดีเว็บพนัน BNK Masterไว้ ไม่ส่งไป ป.ป.ช.ด้วยเหตุว่าเป็นคดีเกี่ยวกันเกี่ยวเนื่องกัน และไม่ส่งไปที่ ดีเอสไอทั้งที่เงินกระทำความผิดจำนวน 300 ล้านบาท ถามว่ามีอะไรผิดปกติหรือไม่ 

ขณะที่นายวราชันย์ กล่าวว่า คดีเว็บพนัน BNK คดี 391/66 คนที่รับเงินส่วนใหญ่ล้วนเป็นเจ้าพนักงานทั้งสิ้น ถามว่าเป็นการใช้วิถีอินทรีย์เลือกเหยื่อหรือไม่ 

ทั้งนี้นายวราชันย์ ยังกล่าวชี้แจง เรื่องใบอนุโมทนาบัตร วัดศาลาปูนวรวิหารของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ จำนวน 200,000 บาทว่า สืบเนื่องมาจากเจ้าหน้าที่ชุดตรวจค้นจับกุมที่ขอออกหมายจับ พ.ต.ท.คริษฐ์ และได้ตรวจยึดเอกสารต่างๆ ภายในรถ ซึ่ง 1 ในนั้น มีการตรวจยึดใบอนุโมทนาบัตร ที่ปรากฏรายชื่อของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ซึ่งใบอนุโมทนาบัตรฉบับนี้ ก่อนหน้านี้ไม่เคยปรากฏจากที่ใดมาก่อน เพราะ พ.ต.ท.คริษฐ์ เป็นผู้เก็บรักษาไว้ ตั้งแต่วันที่ 29 ต.ค. 65 จนถึงวันที่เจ้าหน้าที่ชุดตรวจค้นจับกุมได้ตรวจยึดไว้ ถามว่า ใบอนุโมทนาบัตรฉบับนี้ ปรากฏออกมาตามสื่อมวลชนได้อย่างไรนี่คือประเด็นปัญหา ที่ต้องไปค้นหาคำตอบ 

เพราะต่อมามีข่าวว่า ใบอนุโมทนาบัตรฉบับดังกล่าว ถูกโยงไปกับรายการโอนเงินทำบุญของวัดศาลาปูนวรวิหาร อ้างว่าเป็นการทำบุญโดยใช้บัญชีม้าที่มียอดเงินตรงกัน ซึ่ง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ไม่ได้นอนใจ สั่งการให้ผู้ใกล้ชิดตรวจสอบ ปรากฏว่าบัญชีที่มีการโอนเงินในยอดที่ตรงกับใบอนุโมทนาบัตรดังกล่าวจำนวน 200,000 บาทไปทำบุญที่ วัดศาลาปูนวรวิหารนั้นเป็นบัญชีที่ พ.ต.ท.คริษฐ์ ใช้อยู่ และมีเพียงรายการเดียวที่มีการโอนเข้าไปในยอดเงินจำนวน 200,000 บาท 

ในส่วนนี้ พ.ต.ท.คริษฐ์ ให้ข้อมูลว่า รายการโอนเงินดังกล่าวผ่านบัญชีที่ พ.ต.ท.คริษฐ์ ใช้นั้นเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 9 ก.ย. 65 เหตุที่โอนเงินในวันดังกล่าวเป็น เพราะมีผู้มีจิตศรัทธาชื่อ น.ส.หลุ่ย (ขอสงวนนามสกุล) ได้มอบเงินสดส่วนตัวให้กับ พ.ต.ท.คริษฐ์ เพื่อนำไปใช้ในการร่วมทำบุญทอดกฐินพระราชทานที่ วัดศาลาปูนวรวิหาร จากนั้น น.ส.หลุ่ย ได้มอบหมายให้กับเลขาฯชื่อจุ๊บแจงส่งรายชื่อ และข้อมูลส่วนตัวของ น.ส.หลุ่ย ให้กับพ.ต.ท.คริษฐ์ ผ่านการคุยทางไลน์ เพื่อให้ พ.ต.ท.คริษฐ์ นำรายชื่อของ น.ส.หลุ่ย ไปยื่นกับวัด เพื่อออกใบอนุโมทนาบัตรในชื่อของ น.ส.หลุ่ย ในฐานะที่เป็นเจ้าของเงินและผู้ร่วมบริจาคเงินร่วมทำบุญตัวจริง ในวันดังกล่าว พ.ต.ท.คริษฐ์ เมื่อได้รับเงินแล้วจึงได้ทำการโอนเงินไปให้กับพระอาจารย์ วัดศาลาปูนวรวิหาร เพื่อร่วมทำบุญตามความประสงค์ของ น.ส.หลุ่ย

จากนั้น พ.ต.ท.คริษฐ์ ได้คัดลอกข้อความที่ น.ส.จุ๊บแจงส่งมาเป็นข้อมูลของ น.ส.หลุ่ย นำไปส่งต่อให้กับพระอาจารย์ที่ วัดศาลาปูนวรวิหารผ่านทางไลน์นี้ นอกจากนั้น พ.ต.ท.คริษฐ์ ได้ส่งรายการโอนเงินที่ได้โอนเงินผ่านระบบไอแบงค์กิ้งไปให้กับพระอาจารย์ วัดศาลาปูนวรวิหารผ่านไลน์ด้วย ดังนั้นคนที่ร่วมทำบุญที่แท้จริงคือ น.ส.หลุ่ย ไม่เกี่ยวกับใบอนุโมทนาบัตรของ พล.ต.อ.สุรเชษฐแต่อย่างใด 

ในส่วนของใบอนุโมทนาบัตรของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์นั้น ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจยึดไว้ กลับปรากฏว่า ใบอนุโมทนาบัตรฉบับดังกล่าวลงวันที่ 29 ต.ค. 65 ซึ่งเป็นวันทอดกฐินพระราชทานที่ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เดินทางไปด้วยตัวเอง เพื่อร่วมทำบุญในวันดังกล่าว โดยในวันทำบุญดังกล่าว พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ได้มอบเงินสดส่วนตัวรวมไปกับเงินที่รวบรวมมาทำบุญให้กับ วัดศาลาปูนวรวิหาร และวัดศาลาปูนวรวิหารได้ออกใบใบอนุโมทนาบัตรให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ในวันดังกล่าว แต่ใบอนุโมทนาบัตรถูกเชื่อมโยงให้มีความเกี่ยวพันกับการเชื่อมโยงบัญชีธนาคารที่อ้างว่าเป็นบัญชีม้า จึงไม่เป็นความจริง รายละเอียดเหล่านี้ทางทนายความกำลังพิจารณาว่าจะดำเนินการทางกฎหมายกับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด รวมถึงผู้ที่ปล่อยข้อมูลในสำนวนคดีสอบสวน ผู้เผยแพร่ข้อมูลใบอนุโมทนาบัตร ที่อ้างถึงบัญชีม้า เพราะฉะนั้นแล้วใบอนุโมทนาบัตรที่เป็นประเด็นปัญหานี้ ทางทีมทนายความได้รับการยืนยันอย่างแน่ชัดแล้วว่า ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับบัญชีม้า หรือบัญชีผู้อื่นแต่อย่างใด 

นายณัฐวิชช์ กล่าวว่า เรื่องนี้น่าสนใจว่า มีความพยายามโยงว่าเป็นความผิด มาตรา 112 ไม่มีความเป็นธรรมกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ที่บริจาคด้วยเงินของท่านเอง และนำใบอนุโมทนาบัตรฉบับนี้ไปลดหย่อนภาษี ซึ่งสิทธิในการลดหย่อนภาษีได้เพียง 100,000 บาทเท่านั้น หากว่าพล.ต.อ.สุรเชษฐ์จะแสวงหาผลประโยชน์ในเรื่องนี้ เพื่อนำไปลดหย่อนภาษี ก็ไม่มีความจำเป็นเลย เพราะนอกจากวัดนี้แล้ว พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ยังทำบุญอีกหลายวัด เยอะมาก และได้รับใบอนุโมทนาบัตรมากกว่าจำนวนที่เยอะ ดังนั้นที่กล่าวหาว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ เอาเงินจากเว็บพนันไปทำบุญในกฐินพระราชทานแล้วให้ออกใบอนุโมทนาบัตรในชื่อของตัวเอง เพื่อไปลดหย่อนภาษีนั้น เป็นความเท็จทั้งสิ้น ซึ่งต้องขอความเป็นธรรมให้กับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ในประเด็นนี้ด้วย 

นายวราชันย์ กล่าวอีกว่า สำหรับที่มีการกล่าวหาว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ใช้เงินจากบัญชีม้าหรือบัญชีที่เกี่ยวพันกับเว็บพนันออนไลน์ ซื้อตั๋วเครื่องบินให้กับเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. เพื่อผูกโยงให้ดูเสมือนว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์มีความใกล้ชิดสนิทสนมกับสำนักงาน ป.ป.ช.นั้น 

ข้อเท็จจริงปรากฏว่า การซื้อตั๋วเครื่องบินเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 11 มี.ค. 65 เป็นการซื้อตั๋วเครื่องบินของ พ.ต.ท.คริษฐ์ กับครอบครัวรวม 3 คน จำนวน 13,100 บาท เดินทางไปกลับ กทม.และหาดใหญ่ การซื้อตั๋วเครื่องบินดังกล่าวซื้อผ่านเอเจนซี่ที่เป็นตัวแทนจำหน่ายตั๋วเครื่องบิน มีการสนทนาในไลน์กับเอเจนซี่ทั้งหมด และปรากฏว่าหลังจากพ.ต.ท.คริษฐ์ ถูกจับกุมได้มีการยึดโทรศัพท์ไป แล้วก็กลับปรากฏว่ามีข่าวนี้ออกมาโจมตีและเชื่อมโยงไปถึง พล.ต.อ.สุรเชษฐ ทั้งที่ความจริงแล้วรายการซื้อตั๋วเครื่องบินดังกล่าวเป็นของ พ.ต.ท.คริษฐ์ และครอบครัว ไม่ได้เกี่ยวข้องกับ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์หรือเจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ช.แต่อย่างใด ถือเป็นการสร้างความไม่ชอบธรรมให้ป.ป.ช.ที่จะไต่สวนในคดีหรือไม่ และลดทอนความน่าเชื่อถือของพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ด้วยหรือไม่

 

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส