นายกฯ ขอบคุณทุกหน่วยงานที่ลดดอกเบี้ย เร่งแก้หนี้ ขรก. อึ้ง! ยอดทะลุ 3 ล้านล้านบาท

16 มี.ค. 67

นายกฯ ขอบคุณทุกหน่วยงานที่ลดดอกเบี้ย เร่งแก้หนี้ข้าราชการก่อนลุกลาม พบลูกหนี้รวม 2.8 ล้านคน ยอดทะลุ 3 ล้านล้านบาท ย้ำการลดดอกเบี้ย เป็นส่วนหนึ่งของการลดรายจ่าย ยืนยันรัฐบาลจะช่วยดูแลอย่างเต็มที่ เพื่อช่วยเหลือประชาชน

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานแถลงความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาหนี้สินเงินกู้แก่บุคลากรของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานของรัฐ โดยมีผู้บริหารและผู้แทนหน่วยงานของรัฐ 11 หน่วยงาน ประกอบด้วย ปลัดกระทรวงกลาโหม ผู้แทนผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้แทนผู้บัญชาการทหารบก ผู้แทนผู้บัญชาการทหารเรือ ผู้แทนผู้บัญชาการการทหารอากาศ ผู้แทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน (ประธานกรรมการสมาคมสถาบันการเงินของรัฐ) กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) (ประธานสมาคมธนาคารไทย) ร่วมแถลงข่าว นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญดังนี้

img_20240315110915000000

พลตํารวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะรองประธานกรรมการคณะกรรมการกำกับการแก้ไขหนี้สินของประชาชนรายย่อย กล่าวรายงานความคืบหน้าภารกิจ การแก้ไขปัญหาหนี้สินข้าราชการและบุคลากรของรัฐว่า ตามที่นายกรัฐมนตรี แถลงขอความร่วมมือทุกภาคส่วนร่วมกันแก้หนี้ทั้งระบบ ซึ่งขณะนี้มีจำนวนหนี้รวมสูงกว่า 16 ล้านล้านบาท และสถานการณ์หนี้เสียในทุกประเภทสินเชื่อกำลังทวีความรุนแรงกำลังส่งผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจ และคุณภาพชีวิตของประชาชนจำนวนมากในขณะนี้ โดยภาพรวมว่า “หนี้สินทั้งนอกระบบ และ ในระบบ ในภาพใหญ่” ซึ่งแยกเป็นประเภทหนี้ต่าง ๆ ทั้งบ้าน เช่าซื้อรถยนต์ บัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อเพื่อการพาณิชย์ สินเชื่อเกษตร หนี้ OD และหนี้อื่น ๆ ล้วนมีความซับซ้อน มีความไม่สมดุล และเป็นที่สังเกตได้ว่ามีความไม่เป็นธรรมในเชิงโครงสร้าง จำเป็นต้องขอรับการสนับสนุนอำนาจในการแก้ไขจากฝ่ายบริหารในด้านการจัดการของหน่วยงานนโยบายและหน่วยงานกำกับ ฝ่ายนิติบัญญัติเพื่อแก้ไขกฎหมายที่จำเป็น และฝ่ายตุลาการเพื่อนำมาซึ่งกระบวนการไกล่เกลี่ยและการบังคับคดีที่เหมาะสม

img_80352_2024031512140500000

พลตํารวจเอก กิตติ์รัฐ กล่าวต่อไปว่า ในขณะที่การแก้ไขปัญหาหนี้สินในภาพรวมกำลังดำเนินอยู่ด้วยความยากลำบาก คณะกรรมการกำกับการแก้ไขปัญหาหนี้สินของภาคประชาชน ต้องขอขอบคุณนายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี ที่มีข้อสั่งการชัดเจนในการแก้ไขปัญหาหนี้สินของข้าราชการและบุคลากรภาครัฐ ทั้งนี้ การแก้ไขปัญหา “หนี้เงินกู้สวัสดิการ ของบุคลากรภาครัฐ” นับเป็นยอดหนี้ที่มีขนาดใหญ่ และมีความสำคัญ แต่ส่วนใหญ่ไม่ปรากฏในรายงานยอดหนี้ของศูนย์ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จากจำนวนบุคลากรภาครัฐจำนวน 3.1 ล้านคน ที่ยังไม่รวมสมาชิกในครอบครัว เป็นลูกหนี้เงินกู้ของสหกรณ์ออมทรัพย์ต่าง ๆ 1,378 แห่ง จำนวนลูกหนี้รวม 2.8 ล้านคน และมีธนาคารที่ให้สินเชื่อในลักษณะสวัสดิการร่วมด้วย อีกอย่างน้อย 3 แห่ง คิดเป็นมูลหนี้รวมกว่า 3.0 ล้านล้านบาท ในขณะที่ลูกหนี้จำนวนหนึ่งยังคงชำระหนี้แก่สหกรณ์ออมทรัพย์และธนาคารอยู่ แต่ปรากฏว่ามีบุคลากรภาครัฐจำนวนมากและมากขึ้นที่มีรายได้สุทธิหลังหักชำระหนี้ และเงินค่างวดรายเดือนแล้ว มีรายได้ไม่เพียงพอต่อการดำรงชีพ และบุคลากรของรัฐจำนวนมากขึ้น ๆ ที่กำลังถูกฟ้องร้องดำเนินคดี จนกลายเป็นปัญหาที่รุนแรงต่อเนื่อง จำเป็นต้องได้รับการแก้ไขโดยเร่งด่วน

นายกรัฐมนตรีกล่าวมอบนโยบายตอนหนึ่งว่า “ปัญหาหนี้สินของข้าราชการ และบุคลากรภาครัฐ” ถูกกำหนดให้เป็นหนึ่งในนโยบายสำคัญของรัฐบาล เนื่องจากหนี้สินของข้าราชการครู ตำรวจ ทหาร ตลอดจนพนักงานรัฐวิสาหกิจ และบุคลากรภาครัฐ ซึ่งเป็นลูกจ้างของรัฐบาล เป็นหน้าที่ตลอดจนความรับผิดชอบโดยตรงของรัฐบาลที่จะต้องดูแลสวัสดิภาพของลูกจ้าง ถ้าลูกจ้างของภาครัฐเผชิญความยากลำบากในการแก้ปัญหาหนี้สินก็จะกระทบต่อความสามารถที่จะดูแล และให้บริการต่อประชาชนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

img_20240315110940000000

นายกฯ กล่าวว่า ข้าราชการเป็นภาคส่วนที่สำคัญในการขับเคลื่อนประเทศให้เดินไปข้างหน้า ถ้าหากมีหนี้สินจำนวนมาก หารายได้มาไม่เพียงพอ ชักหน้าไม่ถึงหลัง จะทำให้กลายเป็นสารตั้งต้นของความหายนะของประเทศ ทำให้บุคคลเหล่านี้หันไปพึ่งยาเสพติดเพื่อความสุขทางใจ และอาจจะประพฤติผิดกฎหมายเพื่อให้ได้เงินมา สิ่งที่ผู้บริหารได้รายงานในวันนี้ ไม่ว่าจะเป็นการแก้ไขกฎหมายไม่ให้ออกจากราชการ ให้ข้าราชการมีเงินใช้หลังหักหนี้แล้วเพียงพอต่อการดำรงชีพและดูแลครอบครัว รวมถึงการจัดทำสินเชื่อพิเศษ และการลดดอกเบี้ย ตนเองเข้าใจว่าหลาย ๆ หน่วยงานมีความตั้งใจดี ต้องขอขอบคุณอย่างใจจริง และเชื่อว่าข้าราชการจำนวนมากต้องรับรู้และขอบคุณในความประสงค์ดีของทุก ๆ ท่าน ที่ได้เห็นใจและใส่ใจต่อปัญหาหนี้สินของข้าราชการเป็นพิเศษ ซึ่งหลาย ๆ หน่วยงานทำงานก็ต้องการกำไร มี KPI เป็นตัวชี้วัด แต่ก็ยอมขาดทุนเพื่อให้ข้าราชการกลุ่มที่เป็นหนี้มีเงินเดือนคงเหลือมากขึ้น

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ยังให้สัมภาษณ์ว่า ตามที่ทุกคนได้รับทราบในการแถลงความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาหนี้เงินกู้บุคลากรของส่วนราชการรัฐวิสาหกิจ ที่ทางผู้บัญชาการเหล่าทัพ และผู้บริหารระดับสูงของรัฐบาล ได้พูดถึงเรื่องลดเบี้ย ถ้าลดดอกเบี้ย ส่วนหนึ่งเป็นการลดรายจ่าย อย่างที่ได้กล่าว ถ้าแบงก์ชาติไม่ลดดอกเบี้ย แต่หน่วยงานภาครัฐมีจิตใต้สำนึกที่ดีที่มีการลดดอกเบี้ย ตนเองก็ขอขอบคุณเพราะว่าการทำงานเช่นนี้ต้องทำด้วยใจ ตนเองเชื่อว่าผู้บัญชาการเหล่าทัพ เจ้าหน้าที่ระดับสูงเห็นความลำบากของพี่น้องประชาชน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องภาระหนี้สิน รวมถึงค่าใช้จ่ายอื่นๆ อย่างที่แถลงในที่ประชุม ถือเป็นสารตั้งต้นของความหายนะของประเทศ ถึงอย่างงั้นก็ต้องดำเนินการช่วยกันไปก่อน

img_20240315111005000000

นายกฯ กล่าวว่า เราตระหนักดีถึงความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนตรงส่วนนี้ ยืนยันว่าจะช่วยดูแลให้อย่างเต็มที่เท่าที่สามารถทำได้ ทั้งนี้ ได้มีการบอกในที่ประชุมว่า ถ้าเกิดสามารถช่วยกันได้เพิ่มขึ้นอีก สามารถที่จะขยายวงเงินได้อีก ถ้าสามารถทำได้ ก็ให้แจ้งบอกอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ให้ด้วยว่า ควรให้เร่งเอาสหกรณ์เข้ามาอยู่ในโปรแกรมโดยเร็ว ยังมีอีกหลายเรื่องหลายอย่างที่สามารถทำให้ได้อีก ในขณะช่วงเวลาที่เราเริ่มทำกันมาในระยะเวลา 2 เดือน ก็ได้ผลเป็นส่วนหนึ่งแล้ว ประธานที่ปรึกษาของนายกฯ (นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง) ก็มีความสนใจในเรื่องดังกล่าวเป็นอย่างมาก ได้มีการลงไปพูดคุยกับหน่วยงานหลายหน่วยงานและพยายามทำให้ทุกคนทะเยอทะยานมากขึ้นอีกในการที่จะช่วยเหลือ ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จ ดูได้จากแววตาของผู้บริหาร ผู้บัญชาการเหล่าทัพ เข้าใจและเห็นใจถึงความลำบากของพี่น้องประชาชน

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ทุบโต๊ะข่าว เป็นกระแส