ทนายกอร์น บุกกองปราบขอความเป็นธรรม ยันไม่ได้ตบออยศรี

14 มี.ค. 67

ทนายกอร์น บุกกองปราบขอความเป็นธรรม ยืนยันไม่ได้ตบออยศรี จี้สอบคลิปหลุดได้ยังไง จนทำให้เสียชื่อเสียง ทำตกงาน ลูกถูกเพื่อนล้อ

 

เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ วันที่ 14 มี.ค.67 ที่ ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พหลโยธิน จตุจักร กทม. ทนายกอร์น ที่ ถูกระบุว่า เป็นคู่กรณีในคลิปที่หญิงสาวเจ้าของเพจชื่อดัง เหตุเกิดที่กองบังคับการปราบปรามเมื่อ 14 ธันวาคม 66 ขอชี้แจงข้อเท็จจริง

ทนายกอร์น กล่าวว่า ตนยอมรับเป็นบุคคลในคลิปดังกล่าว แต่ถ้าดูจากในคลิปแล้วจะเห็นว่าไม่ได้มีการเข้าไปทำร้ายไม่มีการใช้กำลัง ในจังหวะที่มีการชุลมุนเกิดขึ้นนั้นตนนั่งพูดคุยกันอยู่ ตนได้ยกมือชี้นิ้วไปที่หน้าคู่กรณี แต่คู่กรณีมาปัดมือตนออกไป ในขณะนั้นอีกฝั่งเขายืนอยู่ ถ้าตนนั่งอยู่ก็จะเสียเปรียบ จึงได้ลุกขึ้นยืนพูดกันเพื่อตั้งหลักแค่นั้น

วันที่เกิดเหตุ คือ 14 ธันวาคม 2566 ตนได้นัดกับทนายวิน พาลูกความไปให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน กก.5 กองบังคับการปราบปราม เพิ่มเติม วันนั้นคุณออยได้ตามคุณวินมาด้วย แล้วก็ไปเจอกันที่กองปราบปราม ตนไม่ได้มีการนัดหมายหรือจะเคลียร์อะไรกันกับเขาเลย ก่อนเกิดเหตุได้มีการพูดคุยในเรื่องอื่นๆ ที่เกิดขึ้น ที่เขาโพสต์และกล่าวหาตนว่ามีการแย่งงาน

สาเหตุที่ตนกับออย แตกคอกัน มาจากเรื่องการพาดหัวข่าวของ สื่อมวลชน  ระบุว่า “เพจหัวเผือกทนายกอร์นและทนายวิน พาผู้เสียหายมาร้องทุกข์กล่าวโทษ” แทนที่จะพาดหัวข่าวเป็น “ออยศรีและผองเผือก พาผู้เสียหายมาร้องทุกข์กล่าวโทษ”มากกว่า เขามากล่าวหาตนว่าเป็นคนสั่งให้นักข่าวพาดหัวแบบนั้นทำให้เพจของเขาเสียหาย

ต่อมาวันที่ 5 ธันวาฯ เขาก็มาโพสต์ในเพจเขา ว่าได้ขอทุนกับหน่วยงานหนึ่งจำนวน 2.7 ล้านบาท การที่นักข่าวพาดหัวข่าวแบบนั้นทำให้เพจออยศรีเสียหาย

ส่วนกรณีที่ถูกระบุว่าตนไปแย่งลูกความผู้เสียหายมาจากเพจของเขานั้น เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนเรื่องอ้วนผอมทัวร์ ประมาณเดือนกันยายนปีที่แล้ว เป็นผู้เสียหายจากจังหวัดสุรินทร์ ปรึกษาเรื่องอื่น จากนั้นเขาแจ้งว่าน้องสาวเขาถูกสำนักข่าวหนึ่ง ใช้ภาพสลิปการโอนเงินไปลงว่าเป็นมิจฉาชีพ ตนได้ให้คำปรึกษามาถ้าทำงานผ่านเพจก็ราคาเท่านี้ เขาบอกว่างบประมาณไม่พอ ขอร้องให้ตนช่วยตนก็บอกว่าช่วยไม่ได้ เขาขอเสนอว่าให้ตนช่วยคนเดียว แต่ขอลดราคาตนก็เลยรับปากช่วยเขาไป แต่ไม่ได้แจ้งทางเพจของคู่กรณี

แต่ตนก็ขอร้องเขาว่าอย่าไปบอกกับทางเพจนั้น เพราะเดี๋ยวจะเกิดปัญหากัน อันนี้เป็นการช่วยเหลือของตน แต่เมื่อเกิดปัญหาปุ๊บเขากลับคำทันที หาว่าตนแอบอ้างรับงานคนเดียว

เมื่อสอบถามดูแล้วเขาไม่ประสงค์ที่จะจ้างตนต่อ ตนก็โอนเงินค่าทนายความคืนทุกบาททุกสตางค์ แม้จะทำงานไปแล้วจนพนักงานสอบสวนออกหมายเรียกผู้ต้องหาแล้วก็ตาม ตนคืนเงินให้หมด ไม่เก็บไว้เลย

เรื่องนั้นก็จบไป แต่ก็เป็นที่มาของการต่อว่าต่อขานตามในคลิป เป็นจังหวะที่ชี้นิ้วแล้วเขาปัดมือตน ตนไม่รู้ว่าจะมีความรุนแรงอะไรเกิดขึ้น ก็เลยยืนขึ้นตั้งหลักเท่านั้น หลังจากนั้นก็มีการห้ามกัน ทนายวินแยกก็จบไม่มีอะไรกันต่อ ซึ่งหลังจากนั้นผ่านมา 3 เดือนก็ไม่มีการแจ้งความ ไม่มีหมายเรียกใดๆ มาจากตำรวจท้องที่ สน.พหลโยธิน จนถึงวันนี้ตนก็ไม่ได้รับหมายอะไรเลย

ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวในคลิปนั้นเกิดขึ้นเมื่อสามเดือนก่อน แต่จู่ๆมาเมื่อ 2-3 วันนี้ คลิปนี้ก็มาเผยแพร่ในสื่อสังคมออนไลน์ ทำให้ครอบครัวของตนได้รับผลกระทบ ลูกก็ถูกเพื่อนๆล้อ หลายๆงานลูกความก็แจ้งขอยกเลิกตนไม่ให้ทำคดี เพราะในคลิปคนจะเห็นหน้าชัดเจนว่าเป็นตน กล่าวหาว่าตนใช้ความรุนแรงกับผู้หญิง

ตนไม่ทราบว่าคลิปนี้มีการหลุดออกไปได้ยังไง เนื่องจากเป็นภาพจากกล้องวงจรปิดในการรักษาความปลอดภัยของสถานที่ราชการแห่งนี้ แต่ทำไมถึงได้มีการหลุดไปเผยแพร่ ตนจึงต้องมาเรียกร้องขอความเป็นธรรม อยากจะฝากถึง ผบ.ตร. ผบช.ก. และ ผบก.ป. ขอความเป็นธรรมในเรื่องนี้ให้ช่วยตรวจสอบว่าตำรวจท่านใด ได้นำคลิปนี้ให้คุณออยไปได้อย่างไร ทำให้ส่งผลกระทบต่อชีวิตครอบครัวตนเป็นอย่างมาก.

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส