เศรษฐินีและเลขาสาวถูกยิงดับในบ้าน พบทั้งคู่สนิทสนมเกินเพื่อน

11 มี.ค. 67

เศรษฐินีและเลขาสาวถูกยิงดับ พบปืนที่ใช้ก่อเหตุเป็นของเลขาที่สนิทสนมเกินเพื่อน เชื่อมโยงจดหมายในที่เกิดเหตุ กล้องวงจรปิดไม่พบบุคคลที่ 3

 

จากเหตุการณ์ ช่วงเช้าวันที่ 10 มีนาคม 67 ลูกชายและลูกสะใภ้ของนางภัทร (นามสมมุติ) รู้สึกผิดสังเกตที่ติดต่อแม่ไม่ได้หลายวัน  จนเดินทางจากกรุงเทพมหานคร มาหาแม่ที่หัวหิน แต่พบบ้านปิดล็อกแต่แอร์ยังทำงานอยู่ จึงตัดสินใจปีนเข้าไปทางหลังบ้าน และได้กลิ่นเหม็นโชยรุนแรง จึงแจ้งตำรวจเข้าตรวจสอบ

กระทั่งพบร่างนางภัทร(นามสมมติ) อายุ 64 ปี เศรษฐินีเจ้าของธุรกิจหล่อพระ สังฆภัณฑ์ ทำโต๊ะมุก ผ้าม่านในอำเภอหัวหิน ถูกยิงเข้าที่บริเวณหน้าอกเสียชีวิต ใกล้กันยังพบร่างของ นางสุ เลขา อายุ 46 ปี ถูกยิงด้วยอาวุธปืนกล็อก19 ขนาด 9 มม.กระสุนเข้าที่ศีรษะ เสียชีวิตอยู่ในห้องกระจก ในบ้านพักที่เป็นตึกแถว 3 ชั้นริมถนนคันคลองชลประทาน เขตเทศบาลเมืองหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

ต่อมาตำรวจตรวจสอบบที่เกิดเหตุพบจดหมายสารภาพของนางสุ โดยระบุทุกอย่างเป็นอุบัติเหตุ เอาปืนมาเล่นโชว์กัน แล้วปืนเกิดลั่นใส่พี่ภัทร ตกใจจนทำอะไรไม่ถูก ส่วนอีกฉบับเป็นพินัยกรรมยกทรัพย์สินให้ลูกสาวทั้งสองคน ซึ่งสอดคล้องกับการตั้งประเด็นการก่อเหตุของตำรวจ เรื่อง อุบัติเหตุปืนลั่นและมีการฆ่าตัวตาย

ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ (วันที่ 11 มี.ค. 67) พ.ต.อ.กัมปนาท ณ วิชัย ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรหัวหิน เปิดเผยถึงความคืบหน้าในคดีนี้ว่ารอผลชันสูตรพลิกศพจากนิติเวช โรงพยาบาลหัวหิน ซึ่งจะทำให้ทราบว่าทั้งสองคนเสียชีวิตเพราะอะไร ส่วนอาวุธปืนส่งไปตรวจสอบกับทางตำรวจพิสูจน์หลักฐานเปรียบเทียบดีเอ็นเอ แต่จากการตรวจสอบของตำรวจเบื้องต้น พบว่าปืนดังกล่าวเป็นของนางสุ ซื้อมาเมื่อประมาณ 5 ปีก่อน มีใบอนุญาต ในที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืน 1 ปลอก ส่งไปตรวจสอบว่าเป็นปลอกกระสุนปืนจากปืนกระบอกเดียวกันหรือไม่ ตอนนี้ยังไม่ได้ตัดประเด็นใดทิ้ง

จากความเห็นของแพทย์เบื้องต้น ทราบว่าคุณภัทร เสียชีวิตก่อน นางสุ เสียชีวิตภายหลัง แต่ห่างกันกี่วัน รอผลพิสูจน์ที่ชัดเจนก่อน ในส่วนของข้อความในจดหมายที่นางสุ ระบุว่าเอาปืนออกมาเล่นกัน ในเรื่องนี้ต้องตรวจสอบดูว่าเป็นเหตุการณ์ปืนลั่น หรือมีเจตนายิง ส่วนข้อความในจดหมายที่เขียน ที่มีการระบุวันที่1 เดือนสอง น่าจะเป็นการลงเดือนผิด เนื่องจากความตกใจ ดูแล้วน่าจะเป็นวันที่ 1 มีนาคม 67 ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งให้ผู้เกี่ยวข้องนำเอกสารที่มีลายมือของนางสุ มาตรวจสอบเปรียบเทียบ แต่เบื้องต้นตรวจสอบคร่าวๆมีความใกล้เคียงกัน

ภายกลังเกิดเหตุได้มีการนำข้อมูลในกล้องวงจรปิดที่อยู่รอบบ้านมาตรวจสอบ โดยตรวจสอบภาพตั้งแต่ก่อนวันที่ 1 มีนาคมที่ไม่สามารถติดต่อนางภัทรได้ เบื้องต้นยังมีรถ หรือบุคคลต้องสงสัยมาในเขตบ้านหรือใกล้เคียง ตรวจสอบในบ้านไม่มีร่องรอยงัดแงะ หรือมีทรัพย์สินสูญหาย คาดว่าขณะเกิดเหตุน่าจะมีแค่นางภัทร และนางสุ ยังไม่มีพยานหลักฐานว่ามีบุคคลที่สามเข้ามาเกี่ยวข้อง

ได้คุยเบื้องต้นกับทางเพื่อนของนางสุ ทราบว่า นางภัทร และนางสุ มีลักษณะการคบหาที่เป็นเพื่อนผู้หญิงด้วยกันที่มีการดูแลกันพิเศษเกินเพื่อน มูลเหตุจริงๆน่าเป็นเรื่องของความรัก ความหึงหวง แต่ทั้งสองจะมีปัญหาอะไรกันหรือไม่นั้นยังไม่ทราบ จากวันที่นางภัทร เสียชีวิต จนถึงวันที่พบร่าง ยังไม่พบว่ามีการเข้า-ออกบ้าน อาจจะมีโอกาสเตรียมการไว้ก่อน เพราะก่อนหน้านี้ นางสุ มีการโพสต์เฟซบุ๊กตัดพ้อ หมดใจ ลักษณะของจดหมายและพินัยกรรมก็จะเชื่อมโยงกันลักษณะของชีวิตที่ไม่สมหวัง

คดีนี้พยานหลักฐานค่อนข้างสมบูรณ์ เหลือเพียงแค่รอผลชันสูตรพลิกศพจากแพทย์ รอผลตรวจดีเอ็นเออาวุธปืน และปลอกกระสุน ตอนนี้ทยอยเชิญญาติ และผู้เกี่ยวข้องมาสอบคำ ประเด็นของบุคคลที่3 ก็ไม่ตัดทิ้งต้องเคลลี้ยร์ให้ครบทุกประเด็น.

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส