ฉาวไม่หยุด เปิดอีกคลิปแก๊งเยาวชน รุมทำร้ายเด็กหญิง ม. 2 เจ็บหนัก

10 มี.ค. 67

ฉาวไม่หยุด เปิดอีกคลิปแก๊งเยาวชน รุมทำร้ายเด็กหญิง ม.2 เจ็บหนัก พบเคยทำร้ายเพื่อนต่างสถาบันมาแล้ว ชอบถ่ายคลิปอวดโซเชียลประกาศศักดา

 

วันนี้ 10 มี.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามที่ปรากฏเป็นข่าวเมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2567 ด.ญ.บี (นามสมมุติ) อายุ 14 ปี นักเรียน ม.2 โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งใน อ.กันตัง จ.ตรัง ได้ถูกเพื่อนร่วมห้อง และรุ่นพี่ โรงเรียนเดียวกัน และเพื่อนต่างโรงเรียนเพศหญิงรวม 5 คน รุมทำร้าย ทั้งทุบตี เตะต่อย รองเท้าฟาด ถีบหน้า จนได้รับบาดเจ็บมีบาดแผลเลือดไหล และช้ำหลายจุด ทั้งด่าแม่ กระชากผม ตบตี รองเท้าฟาดหัว ใช้เท้าถีบหน้าไม่ยั้งแถมผลักเกือบตกสะพาน อีกสารพัด แถมบังคับให้กราบขอโทษ จนบาดเจ็บหนักล้มฟุบไปกับพื้นปูน อย่างน่าหดหู่ แถมขณะก่อเหตุยังหัวเราะเยาะเย้ย พูดคุยสนุกสนาน พร้อมถ่ายคลิปขู่ประจาน ห้ามบอกพ่อแม่ จนได้รับบาดเจ็บ พร้อมแชร์ส่งต่อว่อนโลกโซเซียล บริเวณสะพานปูน ท่าเทียบเรือกันตัง ซึ่งอยู่บริเวณด้านนอกโรงเรียน

กระทั่งต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้แจ้งข้อกล่าวหา น.ส.อริสรา (สงวนนามสกุล) อายุ 18 ปี ซึ่งไม่ได้เรียนอยู่โรงเรียนที่ผู้เสียหายเรียนอยู่ และตกผู้ต้องหาที่ 1 ในความผิดฐานร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่น , หมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา , และความผิดเกี่ยวกับเสรีภาพ ส่วนผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ซึ่งเป็นเยาวชน อายุ 14-15 ปี และยังเป็นนักเรียน ซึ่งต้องสอบสวนร่วมกับสหวิชาชีพที่สำนักงานอัยการนัดหมายพบสอบสวน

ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้รับคลิปวิดีโอความยาวเกือบ 2 นาที ซึ่งมีการส่งต่อกันในโลกออนไลน์ ปรากฏให้เห็นภาพของเด็กเยาวชน อายุ 14 ปี -15 ปี และ น.ส.อริสรา อายุ 18 ปี ที่ก่อเหตุรุมทำร้ายน้องบี อายุ 14 ปี ในเหตุการณ์ล่าสุด เคยลงมือก่อเหตุรุมทำร้ายนักเรียนต่างโรงเรียนมาแล้วในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ที่บริเวณบนถนนด้านนอกโรงเรียน ด้วยการกระชากเสื้อแล้วตบ กระชากผม แล้วตบตีอย่างไม่ยั้ง เมื่อล้มลงก็จับหัวโขกกับพื้นถนน พร้อมมีการสั่งสอน โดยมีเพื่อนในแก๊งรุมตบร่วมลงมือ 3 คน คือเยาวชน 2 คน และอายุ 18 ปี ที่ก่อเหตุกับน้องบี วัย 14 ปี และมีเพื่อนอีกคนถ่ายคลิปเพื่อนำไปโพสต์ในโซเชียล และเสมือนประกาศให้รู้ถึงศักดาของแก๊งตน แต่เหตุการณ์นี้นักเรียนซึ่งเป็นผู้เสียหาย ยังไม่ไปแจ้งความดำเนินคดี เบื้องต้นคาดว่าน่าจะเกิดจากความหวาดกลัวกลุ่มผู้ก่อเหตุ.

 

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส