พบพิรุธเอกสารสิทธิ์ ส.ป.ก.เขาใหญ่ ลบลิขวิดแก้ปลูกมันปลูกข้าวโพด

7 มี.ค. 67

ที่ปรึกษารัฐมนตรีเกษตรฯ ลงพื้นที่พิสูจน์จุดพิพาทเขาใหญ่ พบพิรุธเอกสารสิทธิ์ ลบลิขวิดแก้ปลูกมันปลูกข้าวโพด ใครคือนายทุนหนุนหลัง

 

ความคืบหน้าข้อพิพาทกรณีการออกเอกสาร​สิทธิ์​ ที่ดินส.ป.ก.​ 4-01 ต.หมูสี​ อ.ปากช่อง​ จ.นครราชสีมา​ ระหว่าง ส.ป.ก.-อุทยานฯเขาใหญ่ 

วันนี้นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีเกษตรฯ ระบุว่า วันนี้ได้รับมอบหมายจาก ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ หลังจากเมื่อ 2 อาทิตย์ที่แล้วให้ตนมาดำเนินการ ในเรื่องการร้องเรียนการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ส.ป.ก.นครราชสีมา ตามที่ตกเป็นข่าว

วันนี้ก็ได้ลงพื้นที่ก็มีทั้งหมด 2 หน่วยงานทั้ง ปปป.และ ป.ป.ท.ที่ได้มาร่วมลงพื้นที่กัน เพื่อตรวจสอบอย่างเข้มข้นและเข้มแข็งว่ามีนายทุนหนุนหลังชาวบ้านหรือไม่ วันนี้จึงต้องมาลงดูพื้นที่จริงว่าสภาพพื้นที่เป็นอย่างไร การจัดสรรพื้นที่ดังกล่าวมีทั้งหมด 59 แปลง

ด้านนางเพียงตะวัน ตัวแทนชาวบ้านที่ลงพื้นที่วันนี้บอกว่า เคยทำมาหากินบนพื้นที่นี้มาก่อน ปลูกมัน ปลูกข้าวโพดอยู่กับพ่อกับแม่ตั้งแต่เกิด แล้วก็ทำกินมาเรื่อยๆ ก่อนจะมีเจ้าหน้าที่ ที่ชาวบ้านเรียกว่า "ป่าไม้"เข้ามาปลูกต้นเสียด และไล่ชาวบ้านออกไป

กระทั่งกันยายน 2566 เจ้าหน้าที่ได้มีการรังวัดออกเอกสารสิทธิ์และเรียกให้ไปเซ็นเอกสาร 

ด้านนายธนดล ที่ปรึกษารัฐมนตรีเกษตรฯ ได้นำบันทึกการนำรังวัดที่ดินของนางเพียงตะวันมาให้สื่อดู โดยพบว่าในเอกสารจุดที่ต้องระบุสภาพการทำประโยชน์ในที่ดิน ตอนแรกเขียนคำว่า "ไม่ได้ทำประโยชน์"และมีรอยลิขวิดลบ แล้วก็เขียนใหม่ บอกว่าเป็นที่ไร่ ปลูกมัน แต่ ณ ปัจจุบันแต่สภาพเป็นป่าไปแล้ว

เจ้าหน้าที่นำตรวจสอบที่ดินอีกจุดของนายธนวัฒน์ จากการตรวจสอบเอกสารนำการรังวัด ปรากฏว่ามีการลงรายละเอียดว่าไม่ได้เข้าทำกิน แต่ว่ามีรอยลิขวิด ลบแล้วมาเปลี่ยนว่าเป็น ปลูกมัน

เจ้าหน้าที่ได้ถามนายธนวัฒน์ว่า ก่อนเซ็นเอกสารมีการถามก่อนไหม เจ้าตัวระบุว่า ไม่เห็นเจ้าหน้าที่ถาม เอกสารไม่มีรายละเอียดเจ้าหน้าที่ให้เซ็นแล้วไปกรอกรายละเอียดทีหลัง 

ด้านนายภวภัทร สีหาคม ที่ปรึกษา ผู้ใหญ่บ้าน บ.เหวปลากั้ง หมู่ที่ 10 ระบุว่าผู้ใหญ่บ้านไม่เคยเห็นและไม่เคยคุยกับชาวบ้าน 2 คนนี้มาก่อน จะอ้างว่าเอาเอกสารสิทธิ์ไปให้ผู้ใหญ่บ้านได้อย่างไร เพราะเรื่องดังกล่าวผู้ใหญ่บ้านเป็นคนคัดค้านด้วยซ้ำร่วมกับอุทยานฯ ก่อนจะเจอหมุดส.ป.ก.30 นิรนาม 5 หมุดแบบปริศนาอยู่แปลงถัดไป ซึ่งอยู่บนถนนตรวจการณ์เส้นเดียวกัน ทางอุทยานจึงทำหนังสือขอชี้แจง ขอเพิกถอน ขอคัดค้าน ผู้ใหญ่บ้านยืนยันว่าไม่เคยเจอหมุดปริศนาดังกล่าว

ด้านนายธนดล ระบุว่าเรื่องการเอกสารสิทธิ์ที่ชาวบ้าน 2 คน ระบุนั้น ทำไม่ได้แน่นอน เพราะการที่จะเซ็นเอกสารของราชการจะต้องมีการกรอกข้อมูลไว้อยู่แล้ วไม่ใช่มาเติมข้อมูลภายหลัง และการเซ็นนั้นก็ต้องมีพยานรู้เห็นและเซ็นพร้อมกันทุกคน ซึ่งเรื่องนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง

ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นได้มีการตรวจสอบ และมีการย้ายเจ้าหน้าที่สรรพากรในพื้นที่ไปปฎิบัติหน้าที่ในส่วนกลางแล้ว 6 รายและมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงขึ้นมาว่าถูกต้องตามกฎระเบียบหรือไม่ ตอนนี้กำลังจะยกระดับการสอบสวนหาข้อเท็จจริง เป็นเอาผิดวินัยร้ายแรง

การลงพื้นที่ครั้งนี้ ยืนยันว่า ร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า ไม่ได้เอื้อประโยชน์ให้ใคร และจะจัดการเรื่องนี้อย่างจริงจัง เพื่อจับนายทุนตัวจริง ซึ่งตนมีข้อมูลทางลับแล้วว่านายทุนคือใคร ชาวบ้านก็ต้องให้ข้อมูลข้อเท็จจริงกับเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ใช่ไปปกป้องใคร ร้อยเอกธรรมนัสสั่งการให้เอาจริงเอาจัง ถ้าไปเจอพื้นที่ใดที่เป็นพื้นที่ส.ป.ก.และมีรีสอร์ทจะรื้อให้หมด.

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส