“Wafood” นำทีมเชฟไทย ศึกษาสุดยอดวัตถุดิบ ถ่ายทอดสู่เมนูสุดพิเศษ

6 มี.ค. 67

“Wafood” นำทีมเชฟไทย ศึกษาสุดยอดวัตถุดิบ ถ่ายทอดสู่เมนูสุดพิเศษ

"Wafood" แบรนด์ที่นำเสนอคุณค่าที่แท้จริงของวัตถุดิบคุณภาพจากประเทศญี่ปุ่น จัดกิจกรรม “Wafood JAPAN Discovery 2024” พาเชฟชั้นนำของไทย ได้แก่ เชฟเอียน พงษ์ธวัช เฉลิมกิตติชัย ไอรอนเชฟ เจ้าของร้านอาหารในไทย สิงคโปร์ และสหรัฐอเมริกา, เชฟศรัณย์ ใจเพชร Executive Chef โรงแรมไฮแอท เพลซ กรุงเทพ สุขุมวิท, เชฟเจ นพรุจ อุดกันทา Executive Sous Chef โรงแรมโซฟิเทล กรุงเทพ สุขุมวิท, เชฟธีราภรณ์ บริกัปปกุล เชฟประสบการณ์ร้านมิชลินสตาร์ปัจจุบันหัวครัวประจำร้าน Akanee และเชฟกัลญา งามขำ Menu development chef in Thailand and Japan และอาจารย์สอนเทคนิคทำอาหารที่แคนาดา บินลัดฟ้าเยี่ยมชมพื้นที่การผลิตที่จังหวัดคาโกชิม่า และหมู่เกาะโกะโต จังหวัดนางาซากิ ณ ประเทศญี่ปุ่o ถ่ายทอดประสบการณ์ผ่านวัตถุดิบสุดพรีเมียม รังสรรค์เป็นเมนูอาหารไทยสุดพิเศษ ตามคอนเซ็ปต์ของแบรนด์ "Wafood"

“Wafood” นำทีมเชฟไทย ศึกษาสุดยอดวัตถุดิบ ถ่ายทอดสู่เมนูสุดพิเศษ

นาย ยูสุเกะ โซโนะดะ ผู้บริหารบริษัท โซโนะริกุ (ประเทศไทย) จำกัด เจ้าของแบรนด์ Wafood เผยว่า กิจกรรม “Wafood JAPAN Discovery 2024” เป็นกิจกรรมเพื่อให้เชฟไทยได้สัมผัสเรื่องราวของวัตถุดิบญี่ปุ่นอย่างแท้จริง นำเรื่องราวของวัตถุดิบมาหลอมรวมกับแรงบันดาลใจของเชฟแนวหน้าของไทย เพื่อรังสรรค์เป็นเมนูอาหารไทยสุดพิเศษเสิร์ฟให้กับผู้มาร่วมงาน

“Wafood” นำทีมเชฟไทย ศึกษาสุดยอดวัตถุดิบ ถ่ายทอดสู่เมนูสุดพิเศษ

เชฟเอียน พงษ์ธวัช เฉลิมกิตติชัย (Chef Ian Kittichai)  กล่าวว่า “วัตถุดิบจากที่ญี่ปุ่นเป็นวัตถุดิบพรีเมียม มีภาครัฐคอยดูแลตตั้งแต่เริ่มต้นวิธีการผลิตไปจนถึงการส่งออก สำหรับเชฟ การจะทำอาหารให้ดี เราต้องได้วัตถุดิบที่ดีก่อน สำหรับเมนูที่ผมเลือก ได้แก่ ยำเนื้อวากิวย่าง (Grilled Wagyu Beef Salad) ซึ่งเข้ากับวัฒนธรรมของคนไทย โดยเนื้อคาโกชิม่าวากิวเป็นเนื้อระดับพรีเมียมต้นตำรับ กินคู่กับน้ำยำรสชาติดี ก็ยิ่งทำให้อาหารได้อรรถรสยิ่งขึ้น รวมถึงขนมหวานอีก 2 เมนู ได้แก่ เค้กชาเขียวหน้านิ่ม (Soft Green Tea Cake) เสิร์ฟคู่กับมัจฉะคุณภาพ และ พุดดิ้งชาโฮจิใส่น้ำกะทิ (Hojicha Pudding with Coconut Milk) ซึ่งยื่งกิน สารในชาจะยิ่งช่วยกระตุ้นต่อมน้ำลายในปาก ทำให้เรามีความรู้สึกอยากกินมากขึ้น”

“Wafood” นำทีมเชฟไทย ศึกษาสุดยอดวัตถุดิบ ถ่ายทอดสู่เมนูสุดพิเศษ

เชฟศรัณย์ ใจเพชร (Chef Sarun Jaipetch) เผยว่า “การได้ไปเรียนรู้วัตถุดิบถึงแหล่งกำเนิด ยิ่งทำให้เราเข้าใจว่าทำไมวัตถุดิบจากประเทศญี่ปุ่นถึงดี สำหรับเมนูวันนี้ ได้แก่ สเต็กเนื้อวากิวกับซอสมัสมัน (Wagyu Steak with Massaman Sauce) โดยใช้เนื้อคาโกชิม่าวากิวส่วนหัวไหล่ ซึ่งนุ่มเป็นพิเศษ ไม่มีเส้นเอ็น มีไขมันแทรกมาตามเส้นเนื้อ รังสรรค์ภายใต้คอนเซ็ปต์ฟิวชัน ใช้ซอสมัสมั่นดั้งเดิม ฟิวชันโดยใช้มูสของถั่วอัลมอนด์และวอลนัท”

“Wafood” นำทีมเชฟไทย ศึกษาสุดยอดวัตถุดิบ ถ่ายทอดสู่เมนูสุดพิเศษ

เชฟเจ นพรุจ อุดกันทา (Chef Jay Nopparut Audkanta) เผยว่า “คนญี่ปุ่นมีความมุ่งมั่นตั้งใจและใส่ใจในรายละเอียดเกี่ยวกับวัตถุดิบ เช่น การรีดเลือดออกจากปลา เพื่อทำให้ปลามีความสด ไม่คาว สำหรับเมนูที่เลือกทำ ได้แก่ ก้อยปลาคัมปาจิ (Kanpachi Fish Tartare) โดยเลือกปลามาจากสหกรณ์ประมงทารุมิซึ คาโกชิม่า ซึ่งเป็นปลาที่คนญี่ปุ่นต่างลงความเห็นว่าเป็นแหล่งปลาคัมปาจิที่มีรสชาติดีที่สุด เป็นอันดับหนึ่ง ด้วยวิธีการเลี้ยงด้วยน้ำที่เย็น สะอาด และให้อาหารที่ดี เลยทำให้เนื้อปลามีรสชาติดี  เป็นเมนูที่นำความเป็นญี่ปุ่นมาผสมกับความเป็นไทยแบบง่าย ๆ ”

“Wafood” นำทีมเชฟไทย ศึกษาสุดยอดวัตถุดิบ ถ่ายทอดสู่เมนูสุดพิเศษ

เชฟธีราภรณ์ บริกัปปกุล เผยว่า  “เลือกทำเมนู ข้าวซอยเนื้อเส้นมันหวาน (Khao Soi with Sweet Potatoe Noodles) ซึ่งมันหวานเป็นวัตถุดิบพรีเมียมจากประเทศญี่ปุ่น และ กะหรี่ปั๊บไส้มันหวาน (Sweet Potato Curry Puff) ของว่างง่าย ๆ กินคู่กับชา”

 “Wafood” นำทีมเชฟไทย ศึกษาสุดยอดวัตถุดิบ ถ่ายทอดสู่เมนูสุดพิเศษ

เชฟกัลญา งามขำ กล่าวว่า “เมนู คือ รอสตินี่ลูกพลับอังโปะกับชีส (Goat Cheese Persimmon Crostini) นำขนมปังมาทากับชีสและโปะด้วยลูกพลับอังโปะ (Anpo Persimmon) ทำให้ได้รสชาติที่จุ๊ยซี่ ส่วนอีกเมนู คือ สลัดมะเขือเทศรวมกับคังโกะโระโมจิ (Mixed Tomato with Kankoro Mochi Salad) รสสัมผัสคล้ายแป้งโมจิ เหมาะสำหรับคนที่ไม่กินเนื้อสัตว์”

“Wafood” นำทีมเชฟไทย ศึกษาสุดยอดวัตถุดิบ ถ่ายทอดสู่เมนูสุดพิเศษ

advertisement

advertisement

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส