ชายชาวสวิสฯปฏิเสธความช่วยเหลือจากอดีตภรรยา หลังศาลอนุญาตให้ประกันตัวด้วยวงเงิน 50,000 บาท ขอนอนคุก
ความคืบหน้ากรณีนักท่องเที่ยวชายสัญชาติสวิตเซอร์แลนด์ อายุ 60 ปี ซึ่งมาพำนักอยู่ในจังหวัดตรัง โดยถือวีซ่าเป็นแบบพำนักบั้นปลายใช้ชีวิตหลังเกษียณ ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส และขัดขืนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ โดยไม่ยินยอมพิมพ์ลายนิ้วมือและลงชื่อในเอกสาร หลังได้ก่อเหตุชกต่อยทำร้ายร่างกายหญิงชาวไทยอายุ 53 ปี กลางห้างดัง ในจ.ตรัง ทำให้ได้รับบาดเจ็บสาหัส บริเวณใบหน้าขณะที่กำลังเดินซื้อสินค้าภายในห้างสรรพสินค้าเหตุเกิดช่วงเย็นวันที่ 5 มีนาคม 2567
ล่าสุดเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวไปขออำนาจศาลจังหวัดตรังฝากขังผลัดแรก เป็นเวลา 12 วัน
ทั้งนี้ได้รับการเปิดเผยจากตำรวจท่องเที่ยว ซึ่งติดตามไปที่ศาลจังหวัดตรังว่าในระหว่างการไต่สวนพิจารณาฝากขังนั้น ศาลจังหวัดตรังได้อนุญาตให้ผู้ต้องหาใช้ล่ามพิเศษเป็นชาวเยอรมัน และศาลอนุญาตให้ผู้ต้องหาสามารถประกันตัวได้ โดยกำหนดวงเงินประกันจำนวน 50,000 บาท ซึ่งต่อมาภรรยาของผู้ต้องหาได้เดินทางไปที่ศาลจังหวัดตรังด้วย โดยยืนยันว่าเลิกความสัมพันธ์ฉันท์สามีภรรยากับผู้ต้องหามานานแล้ว พร้อมยื่นหลักทรัพย์วงเงิน 50,000 บาท เพื่อช่วยเหลืออดีตสามีในการขอประกันตัว แต่ผู้ต้องหาซึ่งเป็นอดีตสามีปฏิเสธรับความช่วยเหลือ โดยยืนยันไม่ต้องติดต่อสถานทูตหรือติดต่อญาติ และขอเข้าเรือนจำเท่านั้น ในที่สุดจึงไม่ได้รับการประกันตัวแต่อย่างใด
ส่วนทางด้านนายกฤตพงศ์ ลูกชายของหญิงผู้บาดเจ็บและญาติ ยืนยันจะดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเด็ดขาด กังวลเรื่องของคดีว่าจะไปถึงไหนอย่างไร และมองว่าข้อหาทำร้ายร่างกายเป็นเหตุให้ได้รับบาดเจ็บสาหัสนั้นเบาเกินไป เพราะพฤติกรรมของผู้ต้องหากระทำรุนแรงเข้าข่ายพยายามฆ่าได้ เพราะมีการใช้เข่ากดบริเวณลำคอทำให้หายใจไม่ออก และรัวกำปั้นชกต่อยบริเวณใบหน้าไม่ยั้งไม่ต่ำกว่า 20 หมัด ทำให้แมได้รับบาดเจ็บสาหัสบริเวณใบหน้า อยากให้ตำรวจแจ้งข้อหาให้หนักขึ้น เป็นพยายามฆ่า เพื่อจะได้ไม่ออกมาก่อเหตุกับคนอื่นอีก ขณะที่แม่ แพทย์ระบุว่ายังคงต้องรักษาตัวต่อไปอีกนานไม่ต่ำกว่า 4-6 สัปดาห์
