แฉ! เดวิดติดหรู เปิดแอร์เย็นฉ่ำ อยากให้อากาศเหมือนตอนอยู่สวิตเซอร์แลนด์

4 มี.ค. 67

 

อดีตนายหน้าแฉ! เดวิดติดหรู เปิดแอร์อุณหภูมิต่ำ เย็นฉ่ำบอกอยากให้อากาศเหมือนตอนอยู่สวิตเซอร์แลนด์ รถติดโลโก้ตำรวจ ช่วงโควิดไม่ยอมล็อคดาวน์ 

จากกรณีนาย เดวิด ชาวสวิตเซอร์แลนด์ ทำร้ายร่างกายหมอปาย ที่จ.ภูเก็ต ก่อนที่ต่อมาจะโดนขุดวีรกรรมต่างๆมากมาย ตามที่เคยเสนอข่าวไปแล้วนั้น 

วันที่ 4 มี.ค. 67 น.ส.คริส นามสมมติ อายุ 45 ปี อดีตนายหน้าที่เคยพา นายเดวิด มาเช่าวิลล่าที่เกิดเหตุ เล่าว่า เมื่อประมาณ 2 ปีก่อนนายเดวิด ต้องย้ายออกจากวิลล่าหลังเก่า เนื่องจากหมดสัญญา ตนก็เลยแนะนำให้ นายเดวิดมาดูที่วิลล่าหลังปัจจุบัน แต่พาไปประมาณ 4-5 ครั้ง เขาก็ยังไม่ตอบรับ จนกระทั่งมาทราบว่าภายหลังเขาได้ติดต่อกับเจ้าของโดยตรงที่เป็นคู่สามีภรรยาชาวฝรั่งเศส เพื่อเช่าวิลล่า 

จากที่ตนเคยสัมผัสกับ นายเดวิด เขามักจะเลือกเช่าวิลล่าที่หรูหรา สามารถเป็นหน้าเป็นตาอัพเกรดให้ตัวเองได้ อย่างสาเหตุหนึ่งที่เขาเลือกเช่าที่นี่ เพราะอยู่ใกล้กับโรงแรมชื่อดัง ที่บุคคลสำคัญของประเทศมาพักประจำ 

นายเดวิดเคยบอกว่าเขาจะต้อนรับแขกผู้ใหญ่ที่เป็นคนมีอิทธิพลในจังหวัดบ่อยๆ แล้วต้องมีการจ้างเชฟมาทำอาหารให้ที่บ้าน ต้องเปิดแอร์อุณภูมิต่ำ เพื่อให้อากาศภายในบ้านเหมือนกับอากาศที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เนื่องจากตัวของนายเดวิดขี้ร้อน แต่เวลาที่แอร์พัง ต้องให้ช่างเข้าไปซ่อม บางทีต้องรออะไหล่หลายวัน ถ้าช่างเข้าไปหลายๆ ครั้งเขาเองก็จะไม่พอใจ หาว่าเป็นการบุกรุก และชอบใช้คำพูดหยาบคายเหมือนที่ใช้กับกรณีของแพทย์หญิง แล้วที่สำคัญคือชอบอวดอ้างว่ารูัจักกับนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ รู้จักผู้ว่าฯ ผู้พิพากษา เป็นต้น 

ส่วนเรื่องบันไดปูนที่เกิดเหตุ มีมาตั้งแต่เจ้าของคนก่อนแล้ว เพราะวันที่ตนพานายเดวิดไปดูช่วงแรก ก็เห็นว่ามีบันไดนี้ติดตั้งอยู่ แต่ตอนนั้นมีพุ่มไม้บัง ส่วนบันไดไม้ที่อยู่ใกล้ๆ กันนั้น เจ้าของวิลล่าเพิ่งสร้างขึ้นมาทีหลัง แต่ก็ได้แจ้งให้ทางโครงการทราบแล้ว ซึ่งตอนนั้นโครงการไม่ได้แจ้งกลับมาว่าจุดนั้นเป็นการรุกล้ำพื้นที่ที่สาธารณะ ทำให้ปัจจุบันกลายเป็นหนึ่งในจุดที่ต้องรื้อตามคำสั่งของเทศบาลฯ 

สำหรับเจ้าของวิลล่าตัวจริงนั้น หลังจากเกิดเรื่องตนก็ได้มีการแจ้งข่าวและไทม์ไลน์ต่างๆ ให้กับเจ้าของวิลล่าทราบตลอด ซึ่งเขาก็รับรับทราบและเกิดความไม่สบายใจกับพฤติกรรมของนายเดวิด เนื่องจากต้องยอมรับว่า ตอนตัดสินใจให้นายเดวิดเช่าก็ไม่ได้มีการสืบพฤติกรรมย้อนหลัง เห็นเพียงแค่ว่ามีกำลังในการเช่าตามข้อตกลง โปรไฟล์ดี ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่ถ้าถามว่าจะดำเนินการยังไงต่อนั้น ตรงนี้ทางเจ้าของยังไม่ได้แจ้งให้ตนทราบ 

นอกจากนี้ น.ส.คริส ยังเล่าอีกว่านายเดวิด เคยพูดจาโอ้อวดกับสามีของตนที่เป็นชาวต่างชาติว่าเขามีอาวุธปืน และประเด็นนี้คนที่เคยเข้าไปทำงานอยู่ในบ้านพักของ นายเดวิด ก็ยืนยันว่านายเดวิดมีปืน 3 กระบอก และเมื่อช่วงปีใหม่ที่ผ่านมานายเดวิด ก็เคยเล่าให้สามีของตนฟังอีกว่า วิลล่าใกล้ๆ มีการจัดงานฉลองเสียงดัง เขาก็เลยเดินถือปืนไปขู่ เพราะรบกวนเวลานอนของเขา 

และในช่วงที่มีสถานการณ์โควิด-19 มีการล็อคดาวน์พื้นที่ โดยเฉพาะในพื้นที่ จ.ภูเก็ต ไม่สามารถข้ามเขตกันได้ แต่นายเดวิด บอกว่าเขามีสัญลักษณ์ตำรวจติดที่หน้ารถหรูและมีใบอนุญาตการเดินทางในช่วงล็อคดาวน์ จึงสามารถเดินทางไปไหนมาไหนก็ได้ แต่ตนก็ไม่แน่ใจว่าเอาของพวกนั้นมาจากไหน ถ้าจะมองว่าเป็นของลูกชาย ตนก็มองว่าไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะลูกชายของเขาไม่ได้ยศสูงพอที่จะใช้อำนาจขนาดนั้น 

น.ส.คริส ยังบอกอีกว่า ก่อนที่ นายเดวิด จะมาเช่าวิลล่าหลังนี้อยู่ ตนเคยเป็นนายหน้าหาวิลล่าแห่งหนึ่งให้เช่า ซึ่งตอนนั้นเป็นวิลล่าที่หรูมากของ จ.ภูเก็ต ค่าเช่าเดือนละ 4 แสนบาท ค่าน้ำ-ค่าไฟอีก 4-5 หมื่นต่อเดือน และรวมค่าอื่นๆแล้วก็ประมาณเกือบ 1 ล้านบาทต่อเดือน เช่าอยู่ประมาณ 2 ปี ซึ่งตอนนั้นตนไม่ได้เอะใจว่าเขาจะเอาเงินมาจากไหน เพราะคิดว่าเขาเป็นชาวต่างชาติที่มีฐานะมาอยู่แล้ว เนื่องจากเข้าใจว่าช้างทั้ง 14 เชือกในปางช้างเป็นของเขาทั้งหมด ก็ยอมรับว่าตกใจเหมือนกันที่มารู้ภายหลังว่าในนั้นมีเพียงแค่ 1 เชือกที่เป็นของเขา ส่วนที่เหลือเป็นการเช่ามา 

ยอมรับว่าตอนที่เห็นข่าวนายเดวิดกับภรรยามีท่าทีคล้ายกับร้องไห้ พร้อมยกมือไหว้ขอโทษแพทย์หญิงต่อหน้าสื่อฯ ก็รู้สึกหัวเราะในใจ เพราะมันช่างแตกต่างกับพฤติกรรมของทั้งคู่ที่ตนเคยเจอมาโดยตรง มันดูออกว่าเป็นการแสดง เพื่อให้รอดไปวันๆ ไม่ได้มาจากก้นบึ้งของหัวใจจริงๆ และตนก็เชื่อว่าหลายๆ คนที่เจ็บปวดจากการกระทำของเขาก็คิดเหมือนที่ตนคิด

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส