หนุ่มคลั่งยาเผาบ้านตัวเอง หลอนอุ้มพระหนีลงทุ่งนา อ้างพ่อบอกให้เผา

2 มี.ค. 67

“ไอ้หนุ่ย” คลั่งยาเผาบ้านตัวเองวอด หลอนอุ้มพระพุทธรูปหนีลงทุ่งนาแต่ไม่รอด อ้างพ่อบอกให้เผา

วันที่ 1 มีนาคม 2567 เวลา 20.00 น. พ.ต.ท.รัชพล โมรารัตน์ สว.สอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุมีชายคุ้มคลั่งยาเผาบ้านตัวเอง ที่ บ้านดงเหล่าต้อง ต.สามพร้าว จ.อุดรธานี ขณะที่เพลิงกำลังลุกไหม้อย่างหนัก เพื่อนบ้านกำลังช่วยกันนำน้ำสกัดเพลิง ไม่ให้ลุกลามไปบ้านที่อยู่ติดกัน ส่วนคนก่อเหตุได้อุ้มพระพุทธรูปวิ่งหลบหนีลงทุ่งนา ท้ายหมู่บ้าน จึงออกไปตรวจสอบพร้อมด้วย ร.ต.อ.ชยณัฐ ทัดเทียม รอง สวป.สภ.เมืองอุดรธานี ปฏิบัติหน้าที่ หน.ตชต.สามพร้าว พร้อมกับประสานรถดับเพลิง อบต.สามพร้าว และทต.หนองบัว นำรถดับเพลิง 4 คัน และอาสากู้ภัยมูลนิธิอุดรสว่างเมธาธรรมสถาน สนับสนุนไฟส่องสว่าง

ที่เกิดเหตุพบชาวบ้านกำลังช่วยกันสกัดเพลิงไม่ให้ลุกลามบ้านข้างเคียง  เจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้ ฉีดน้ำดับไฟที่โหมไหม้บ้านที่เกิดเหตุอย่างรุนแรงจนวอดทั้งหลัง โดยใช้เวลาประมาณ 40 นาที เพลิงจึงสงบ มูลค่าความเสียหายประมาณ 3 แสนบาท ส่วนคนก่อแหตุไม่ใช่คนอื่น แต่เป็นลูกชายคนโตเจ้าของบ้าน ที่มีอาการคุ้มคลั่งยา หลังก่อเหตุเผาบ้านตัวเอง โดยมีชาวบ้านเห็นนั่งร้องไห้ที่หน้าบ้าน และเข้าไปอุ้มพระพุทธรูปวิ่งหลบหนีลงทุ่งนาท้ายหมู่บ้าน ทราบชื่อคือ นายเฉลิม นามอาสา หรือหนุ่ย อายุ 44 ปี ลูกชายคนโตเจ้าของบ้าน ตำรวจจึงไปตามชาวบ้านบอก เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย

สอบถามนายวัฒนา คำจันทร์สี อายุ 53 ปี เพื่อนบ้านและเป็นญาติผู้ก่อเหตุ เล่าว่า ช่วงเกิดเหตุตนกับภรรยาทำกับข้าวอยู่หลังบ้าน ซึ่งอยู่ติดกันกับบ้านต้นเพลิง ตนเห็นไฟลุกขึ้นภายในห้องโถง จึงเอาสายยางไปฉีดน้ำสกัดเพลิง เพื่อไม่ให้ลุกลามมาบ้านตนเอง แต่เพลิงได้ลุกไหม้อย่างหนัก และเห็นว่าคงเอาไม่อยู่ จึงแจ้งผู้ใหญ่บ้าน

นายวัฒนา กล่าวว่า ตนไม่ทราบว่าใครเป็นคนทำ แต่ช่วงไฟลุกไหม้ เห็นแต่ลูกชายเจ้าของบ้าน ซึ่งเป็นญาติกัน วิ่งออกมานั่งร้องไห้อยู่บริเวณหน้าบ้านตัวเอง แล้ววิ่งหลบหนีลงทุ่งนาไป ขณะนี้ตำรวจกำลังติดตามจับกุมตัว ส่วนพ่อของเขาก็มั่นใจว่าลูกชายเป็นคนเผา ส่วนลูกชายเจ้าของบ้านบอกตนว่า พ่อให้ตนเผาบ้าน ก่อนวิ่งลงไปทุ่งาท้ายหมู่บ้าน

สอบสวนนายถา นามอาสา พ่อผู้ก่อเหตุและเป็นเจ้าของบ้าน ให้การว่า ครอบครัวตนมีอาชีพทำนา ส่วนคนที่เผาบ้านตนเองคือลูกชายคนโต ตนก็ไม่รู้สาเหตุที่แน่ชัด หรือเขาอาจจะคิดถึงเมียที่อยู่ จ.นครพนม โดยลูกชายติดเสพยาบ้าหนัก และอยู่บ้านหลังนี้ตามลำพัง ส่วนตนและภรรยาได้ไปอยู่ที่กระท่อมนาท้ายหมู่บ้าน ลูกชายมีอาการคุ้มคลั่งมา 2 วันแล้ว เวลามีอาการคุ้มคลั่งเขาจะทุบทำลายสิ่งของในบ้านพังเสียหาย

เช้าวันนี้ตนมาบ้านพบว่า ลูกชายทุบโทรทัศน์จนพังเสียหาย ตนเลยบอกลูกชายไปว่า ทำไมไม่ทุบหัวตัวเอง คาดว่าคงทำให้เขาโกรธ และเสพยาจนคุ้มคลั่ง จึงก่อเหตุดังกล่าว เมื่อก่อนลูกชายขยันทำมาหากินช่วยครอบครัว แต่เมื่อเกือบ 20 ปี ที่ผ่านมา ลูกชายพบรักกับแม่ม่ายลูกติด ชาว จ.นครพนม และไปรับจ้างกรีดยางพาราที่บ้านภรรยา และติดยาบ้านจนสติไม่ค่อยดี แล้วมีอาการคุ้มคลั่ง ลูกสะใภ้จึงเหมารถเอาลูกชายมาส่งที่บ้าน เมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา เพราะทนพฤติกรรมเมายาคลุ่มคลั่งไม่ไหว เมื่อกลับมาบ้านเขาไม่ยอมทำงานช่วยครอบครัว

”ตนเช่าที่นาปลูกข้าวเหนียวและข้าวเจ้า จำนวน 11 ไร่ ปีนี้ได้ข้าวเปลือก 50 กว่ากระสอบ มาเก็บไว้ที่บ้าน เพื่อกินและขาย แต่ก็ถูกไฟไหม้วอดทั้งหมด ไม่คิดว่าเขาจะกล้าทำถึงเพียงนี้ ตนคิดว่าเขาจะติดยาตอนไปรับจ้างกรีดยางที่ จ.นครพนม เคยจะพาเขาไปบำบัดรักษา แต่ลูกชายก็ไม่ยอมไป และต่อว่าด่าตนต่าง ๆ นา ๆ ลูกชายเคยคลุ่มคลั่งยาอาละวาดไปทุบป้อมยามตำรวจ ต.สามพร้าว จนพังเสียหาย ตำรวจก็เอาตัวไปโรงพัก ไม่กี่วันก็ปล่อยตัวออกมา ก่อนมาก่อเหตุเผาบ้านตัวเองในวันนี้ อยากให้ตำรวจจับตัวไปบำบัดรักษา และดำเนินคดีตามกฎหมาย”

ต่อมาตำรวจได้ติดตามจับกุมตัว นายเฉลิม นามอาสา หรือหนุ่ย ผู้ก่อเหตุได้ที่ประตูระบายน้ำห้วยหลวงบ้านสามพร้าว ที่อยู่ห่างจากบ้านที่เกิดเหตุประมาณ 3-4 กิโลเมตร พร้อมกับพระพุทธรูปแขนหัก และตุงจรเข้งานบุญพระเวสสันดร โดยนายหนุ่ยไม่มีการขัดขืนการจับกุมแต่อย่างใด ตำรวจจึงควบคุมตัวมาสอบสวนที่โรงพัก

นายหนุ่ย ให้การว่า ที่ทำไปเพราะตนน้อยใจพ่อบ่นให้ตนว่า ไม่ยอมช่วยทำนา แต่ตนก็ทำนาปลูกข้าวช่วยพ่อจนแล้วเสร็จ เช้าวันนี้ตนนอนอยู่พ่อเดินเข้าไปในบ้าน และเห็นบ้านรกรุงรัง จึงบ่นให้ตนว่า รกแบบนี้ทำไมไม่จุดไฟเผาเลย ตนจึงได้ใช้ไฟแชคจุดเผามุ้งในห้องนอน แล้วตนก็หอบเอาถาดพระพุทธรูป และกระเป่า 1 ใบ ออกมา ไฟลุกแรงขึ้นไหม้ห้องนอน และไหม้หัวตนจนรู้สึกร้อน จึงวิ่งออกมา ตนอยากขอโทษพ่ออยากให้พ่อสบาย และยอมรับว่าวันนี้ตนเสพยาที่เหลือไม่ถึง 1 เม็ด

เบื้องต้นตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหา นายหนุ่ยว่า “วางเพลิงเผาทรัพย์ และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย” ควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส