ปศุสัตว์ภูเก็ต ตรวจปางช้างของชาวต่างชาติที่เตะหมอ พบมี 14 เชือก

1 มี.ค. 67

เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ภูเก็ต ตรวจปางช้าง ชาวต่างชาติที่เตะหมอ พบมี 14 เชือก โดยเจ้าหน้าที่จะสแกนไมโครชิฟดูว่าทั้งหมดถูกต้องและตรงตามที่ยื่นขอไว้หรือไม่

จากกรณีที่แพทย์หญิงโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในภูเก็ต ร้องเรียนและแจ้งความดำเนินคดีชายชาวต่างชาติทำร้ายร่างกาย โดยเตะเข้าที่หลังจนจุก ขณะที่นั่งชมพระจันทร์ในคืนวันมาฆบูชา ที่ริมชายหาดสาธารณะอ่าวยามู ต.ป่าคลอก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต และถูกชายชาวต่างชาติพร้อมภรรยาคนไทยพูดจาดูหมิ่นเหยียดหยาม แต่ชายชาวต่างชาติปฏิเสธ โดยอ้างว่าสะดุดไปโดนแพทย์หญิง จนกลายเป็นกระแสดังอยู่ในขณะนี้ จากการตรวจสอบพบว่า ชายชาวต่างชาติเป็นเจ้าของปางช้าง ตั้งอยู่ในพื้นที่ ต.เชิงทะเล และเป็นเจ้าของมูลนิธิเกี่ยวกับช้างอีกด้วย

ล่าสุดเมื่อเวลา 08.40 น. วันนี้ (1 มี.ค. 67) ที่สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดภูเก็ตนายสุทัศน์ นิยมไทย ปศุสัตว์จังหวัดภูเก็ต กล่าวถึงการเข้าลงพื้นที่ตรวจสอบปางช้างของชาวต่างชาติ ที่ถูกอ้างว่าทำร้ายร่างกายแพทย์หญิงจนได้รับบาดเจ็บ ริมหาดสาธารณะยามู ต.ป่าคลอก อ.ถลาง ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ต.เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ว่าเมื่อวันที่ 29 ก.พ. ที่ผ่านมา พบว่าปางช้างดังกล่าวมีช้างอยู่จำนวน 14 เชือก มีทั้งของปางช้างเองและเช่ามา ส่วนรายละเอียดต่าง ๆ ในวันนี้ เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์จะลงพื้นที่เพื่อที่จะตรวจสแกนไมโครชิฟว่าถูกต้องและตรงตามที่ยื่นขอไว้หรือไม่

ส่วนกรณีใบอนุญาตประกอบกิจการปางช้างนั้น ปศุสัตว์จังหวัดภูเก็ตกล่าวด้วยว่าเป็นอำนาจของเทศบาลหรือ อบต. ในพื้นที่นั้น ๆ ในส่วนของปศุสัตว์เองจะรับผิดชอบในเรื่องการเคลื่อนย้ายสัตว์เข้าออกตรวจสอบใบอนุญาตและเรื่องโรคระบาดต่าง ๆ ของสัตว์

อย่างไรก็ตามในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต มีปางช้างอยู่ทั้งหมด 42 ปาง แยกเป็น อ.เมืองภูเก็ต 12 ปาง ช้างจำนวน 72 เชือก อ.ถลาง 16 ปาง ช้างจำนวน  92 เชือก และ อ.กะทู้ 14 ปาง ช้างจำนวน 167 เชือก รวมช้างที่มีอยู่ในภูเก็ต 331 เชือก

นอกจากนั้นผู้สื่อข่าวรายงานในเวลา 11.00 น. วันนี้ นายเดวิด นักธุรกิจชาวสวิสเซอร์แลนด์ คู่กรณีที่แพทย์หญิงชาวไทยอ้างว่าถูกทำร้ายร่างกายจะเข้าพบรองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต และในเวลา 16.00 น. วันเดียวกันจะเข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน สภ.ถลาง หลังจากแพทย์หญิงคู่กรณีเข้าแจ้งความเมื่อวันที่ 29 ก.พ. ที่ผ่านมา

advertisement

advertisement

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส