บิ๊กต่อ ยัน ตำรวจไม่ได้ทะเลาะกัน ไม่ต้องเรียก 2 บิ๊กเคลียร์ใจ แจงสั่งลูกน้องพูดน้อยๆ แต่ทำให้เยอะ เพราะพูดไม่มีข้อมูลทำองค์กรเสียหาย
วันที่ 27 ก.พ. เวลา 09.00 น. พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าร่วมดื่มกาแฟและอาหารเช้าร่วมกับนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หลังมีกระแสข่าวว่าการดื่มกาแฟครั้งนี้จะมีการเชิญบิ๊กตำรวจที่มีข้อพิพาทมาเคลียร์ใจกันนั้น ว่า เป็นการมาพูดคุย Morning Brief ซึ่งมีการเชิญผู้บังคับบัญชาระดับตร. ที่เป็นอดีตผบ.ตร. หรืออดีต อธิบดี มาเล่าประสบการณ์ ซึ่งตนจะมีมุมมองอีกมุมมองหนึ่ง เพื่อจะได้เป็นแนวทางในการปฏิบัติ ซึ่งเป็นประสบการณ์ชีวิตที่เราหาเรียนไม่ได้หลายเรื่องราวที่เราไม่เคยรู้ก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ชีวิต ซึ่งจะนำประสบการณ์เหล่านั้นมาถ่ายทอดให้ผู้บังคับบัญชาระดับตร. ได้ฟัง และที่สำคัญคือเป็นความกตัญญู กับผู้มีคุณูปการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเจ้านายเก่าๆ เราไม่ควรปล่อยหรือไม่ให้ความสำคัญ เนื่องจากได้มีการช่วยพัฒนาสำนักงานตำรวจแห่งชาติมาทุกคน พร้อมยืนยันว่าไม่ใช่การมาเคลียร์ใจ ขณะที่ในวันนี้พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ไม่ได้มาร่วมด้วยนั้น เพราะมีภารกิจติดตามนายกรัฐมนตรีลงพื้นที่จังหวัด 3 ชายแดนภาคใต้ และตนก็จะต้องตามไปในพื้นที่เช่นเดียวกัน
ส่วนกรณีมีคำสั่งกำชับการให้ข่าว การแถลงข่าว การให้สัมภาษณ์ การเผยแพร่ภาพต่อสื่อมวลชน ถึงรอง ผบ.ตร. และจตช. ผู้ช่วยผบ.ตร. และรองจตช. ผบช.หรือตำแหน่งเทียบเท่า และผบก. หรือตำแหน่งเทียบเท่า ว่า คำสั่งดังกล่าวเพื่อให้ได้อยู่อย่างสงบ และให้เข้าใจ ว่าตนทำอะไรให้กับองค์กร ไม่ได้มีการทะเลาะกัน ซึ่งบางครั้งการไม่ได้เตรียมการให้สัมภาษณ์ เมื่อไมค์จ่อปาก ก็ช็อตไมค์ หรือเออเร่อ เนื่องจากไม่มีข้อมูลที่จะส่งไปยังพี่น้องประชาชน ทำให้ภาพองค์กรเสียหาย ดังนั้นการที่จะสัมภาษณ์อะไรต้องมีการเตรียมข้อมูลไว้ด้วย และทุกอย่างต้องทำด้วยความยุติธรรมกับทั้งสองฝ่าย ต้องมีการตรวจสอบได้ ซึ่งทุกคนแฮปปี้ ทั้งนี้ตนได้มีการประสานคนรอบข้างทั้งหมดมีการพูดคุยกัน ทำให้ 3 วันเรื่องเงียบ ให้เขาไปทำบุญหรือไปทำอะไรให้กับพี่น้องประชาชนดีกว่าที่จะมานั่งทะเลาะกัน เพราะมีประชาชนที่เดือดร้อนอีกตั้งเยอะ
ขณะเดียวกันนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ก็สั่งการให้ดูแลเรื่องยาเสพติด หรือการที่นายกรัฐมนตรีไปตรวจที่ ตม.มีหลายเรื่องที่เราจะต้องแก้ปัญหาและไม่ใช่เพียงแค่ตำรวจ ต้องทำงานร่วมกับหลายหน่วยราชการอื่นด้วย
อย่างไรก็ตาม ถือว่าทุกฝ่ายให้ความร่วมมือ การที่ทุกคนออกมาพูดไม่มีอะไรดี เช่นที่ตนเคยระบุไว้ว่า “พูดไปสองไพเบี้ย” ก่อนพูด เราเป็นนายคำพูด แต่เมื่อพูดออกไปแล้วคำพูดนั้นจะกลับมาเป็นนายเราในทันที ดังนั้นการสงวนคำพูดถือว่าดีที่สุด ส่วนการแนะนำผู้ใต้บังคับบัญชานั้น ตนได้มีการพูดคุยและมีการส่งข้อความพร้อมรูปภาพ โดย นกแก้วพูดเก่งมากแต่ต้องอยู่ในกรง ขณะที่นกอินทรีย์ไม่พูดเป็นนักล่า สิงโตนานๆ คำรามที เป็นเจ้าป่า ซึ่งเป็นการสอนให้เราพูดให้น้อย ทำให้เยอะ
ส่วนจะต้องเคลียร์ใจ ระหว่าง พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว หรือไม่นั้น ผบ.ตร. ระบุว่า “ไม่ต้องมาเคลียร์ใจ และต้องถามว่าเขาทะเลาะอะไรกัน เนื่องจากเป็นลักษณะการเถียงกันมากกว่า ซึ่งตนเชื่อว่าทั้งสองไม่ได้ทะเลาะกัน ตำรวจไม่ได้ทะเลาะกัน แต่เป็นการทำตามพยานหลักฐาน และท้ายที่สุดก็เป็นพี่น้องกัน เพราะที่นี่คือบ้าน แล้วตนอยากทำให้เป็นบ้าน และในฐานะพ่อบ้านก็ถือว่าทำได้ส่วนหนึ่ง และให้เวลาเป็นตัวพิสูจน์”
ส่วน ป.ป.ช.จะพิจารณาว่าจะทำเครือข่ายคดีเว็บพนันมินนี่เอง หรือจะส่งให้ พนักงานสอบสวนคลี่คลายคดี เป็นคนดำเนินการ พลตำรวจเอกต่อศักดิ์ ระบุว่า ให้รอทาง ป.ป.ช. ซึ่งตนทราบข่าวว่า ป.ป.ช. จะพิจารณาวันนี้ แต่ยังไม่ทราบในรายละเอียด.
