หนุ่มเกาหลีแทบอ้วก ซดกาแฟแบรนด์ดังเกือบหมดแก้ว เจอแมลงสาบตัวเบิ้ม!

27 ก.พ. 67

หนุ่มเกาหลีแทบอ้วก ซดกาแฟดำแบรนด์ดังเกือบหมดแก้ว เจอแมลงสาบตัวเบิ้ม! แฟนสาวบอก เจอแบบนี้คือไม่กล้ากินอีกแล้ว 

จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์ภาพ พร้อมระบุข้อความว่า “ขยะแขยงมาก กินxxx จนจะหมดแล้ว อปป้านางเห็นอะไรดำๆ ใต้แก้ว พอพลิกดูเท่านั้นล่ะ อ้วกแทบพุ่ง นี่เป็นแบรนด์กาแฟดังของประเทศไทยเลยนะคะ การตรวจทาน และการจัดการเรื่องความสะอาดของที่ให้ลูกค้ากินเข้าไปต้องมาก่อนรึเปล่าคะ อปป้านางต้องกินกาแฟทุกวัน และ สั่ง xxx เป็นประจำ เจอแบบนี้คือไม่กล้ากินแล้วค่ะ พอเลย“ 

ต่อมาวันที่ 26 ก.พ. 67 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ภายในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ต.มหาสวัสดิ์ อ.บางกรวย จ.นนทบุรี เพื่อสอบถามกรณีดังกล่าวกับ น.ส.พลอย นามสมมติ อายุ 30 ปี อาชีพธุรกิจส่วนตัว และนายฟิล์ม นามสมมติ อายุ 33 ปี แฟนหนุ่มสัญชาติเกาหลี อาชีพธุรกิจส่วนตัว 

โดย น.ส.พลอย เล่าว่า ปกติแฟนตนจะสั่งเครื่องดื่มอเมริกาโน่เย็นทุกวันผ่านช่องทางเดลิเวอรี่วันละ 2 แก้ว สั่งกาแฟแบรนด์ดังที่สาขานี้มาประมาณ 2 ปี ตั้งแต่เริ่มย้ายมาอยู่บ้านที่นี่ จนกระทั่งกินแก้วที่มีปัญหา ระหว่างใช้หลอดคนในแก้ว เพื่อจะดื่มต่อ แฟนของตนรู้สึกหลอดไปสะดุดกับอะไรบางอย่างภายในแก้ว ตอนนั้นรู้สึกตกใจมาก ไม่คิดว่าเป็นแมลงสาบ อาจจะเป็นตัวกาแฟที่ติดมา แต่พอเขี่ยดูชัดๆ เห็นขาและตัวแมลงสาบ 

ภายในแก้วมีจุดกระจายๆ สีดำๆ บริเวณก้นแก้ว ซึ่งแฟนของตนรู้สึกวิตกกังวลว่าที่เคยสั่งกินไปทั้งหมดก่อนหน้านี้ มันมีแบบนี้หรือเปล่า หรือที่ดูดก่อนจะเห็นตัวแมลงสาบได้กินไข่ที่ลอยอยู่บริเวณก้นแก้วไปด้วยหรือไม่ จากนั้นจึงรู้สึกกลัว ไม่ว่าจะสั่งน้ำเปล่ามาดื่มต้องคอยดูในแก้ว หรือในขวดตลอดว่ามีสิ่งแปลกปลอมอะไรหรือไม่ ต้องเช็กก่อนตลอด 

น.ส.พลอย กล่าวต่อว่า หลังจากเกิดเหตุ ตนพยายามเช็กอาการแฟนว่ามีการคลื่นไส้อาเจียนหรือไม่ ซึ่งไม่ได้มีอาการใดๆ จึงไม่ได้พาไปหาหมอ หลังเกิดเหตุตนจึงติดต่อร้องเรียนกับร้านกาแฟแบรนด์ดัง และรวบรวมข้อมูลส่งไป วันรุ่งขึ้นทางเจ้าของร้านติดต่อมาเพื่ออยากที่จะพูดคุย สิ่งที่ตนคิดคืออยากได้รับคำขอโทษ หรือการใส่ใจกับลูกค้า สอบถามอาการว่าเราเป็นอย่างไร แต่กลับไม่มีการสอบถามอะไรเลย ได้แต่อธิบายเหตุผลฝั่งของร้านว่ามีการตรวจสอบแล้ว และดูกล้องวงจรปิด แจ้งว่าไม่เห็นแมลงสาบ หาไม่พบว่ามาจากไหน และมีการปิดร้านทำ Big Cleaning เจ้าของร้านพยายามจะนำ Gift Set มาให้ทางตน พร้อมกับบอกให้ตนลบโพสต์ในเฟซบุ๊ก ซึ่งตนกับแฟนไม่ได้อยากได้ของหรือเงิน เราแค่รอว่าทางร้านจะออกมาขอโทษตนในรูปแบบไหน 

ซึ่งตนได้มาคุยกับแฟนและรู้สึกว่าการใส่ใจลูกค้าในฐานะผู้บริโภคจากทางร้านค่อนข้างน้อย อยากได้การแสดงความรับผิดชอบที่จริงใจ ระหว่างการเจรจาไม่ลงตัวทางเจ้าของร้านจึงเสนอให้ค่าตรวจสุขภาพ จำนวน 3,000 บาท ซึ่งตนเลือกที่จะไม่รับเงินจากทางร้าน เพราะตนเสียความรู้สึกไปแล้ว แฟนของตนเป็นคนเกาหลีค่อนข้างซีเรียสกับเรื่องที่เกิดขึ้น ลองนึกว่าถ้าแก้วนี้ไม่ได้อยู่ในมือของแฟนตน แต่ไปอยู่ในมือของคนที่แพ้แมลงจะเป็นอย่างไร เรื่องแบบนี้อาจจะเกิดขึ้นกับใครอีกหลายๆ คน อยากให้ทางร้านออกมาแสดงความรับผิดชอบมากกว่านี้ ทางร้านควรเป็นคนเสนอความรับผิดชอบ ไม่ใช่ให้ตนไปนำเสนอเอง อยากให้ทางร้านแสดงความรับผิดชอบแบบจริงใจกับลูกค้า การเป็นมืออาชีพในแบรนด์ควรแสดงออกหรืออธิบายอะไรตนมากกว่านี้ ว่าจะแก้ไขอย่างไรเมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้นแบบนี้ 

น.ส.พลอย กล่าวอีกว่า แล้วช่วงเดือน ธ.ค. ที่ผ่านมา พ่อกับแม่ของแฟนตนมาประเทศไทย และได้มีการสั่งกาแฟแบรนด์ดังนี้ให้กับทางบ้านดื่ม ตอนนี้ก็ไม่กล้าบอกตรงๆ กับเรื่องที่เกิดขึ้น ได้แต่พยายามสอบถามอาการข้างเคียง เพราะถ้าเป็นที่เกาหลีจะค่อนข้างซีเรียสในเรื่องนี้มาก เรื่องของความสะอาด ถ้าเป็นแบบนี้เกิดขึ้นจะเป็นเรื่องใหญ่มาก ตนยังไม่ได้แจ้งความ เนื่องจากตนพยายามจะติดต่อคู่กรณีก่อน และไม่ได้คิดว่าจะต้องไปแจ้งความ คิดว่าวิธีการติดต่อไปทางแบรนด์โดยตรงน่าจะสะดวกกว่า แก้ปัญหาได้เร็วที่สุดและดีที่สุด อยากให้ทางร้านควรที่จะแคร์ลูกค้าและแสดงความรับผิดชอบมากกว่านี้

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส