ศาลยกคำร้อง ไม่ให้ประกันตัวชั่วคราว ตะวัน-แฟรงค์ ไม่มีเหตุให้เปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม ระบุอดอาหาร เป็นอุดมการณ์ทางการเมือง ไม่ใช่อาการทางจิต
หลังจากเมื่อวานนี้ นายสมหมาย ตัวตุลานนท์ พ่อของ น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ หรือ ตะวัน เดินทางมายื่นขอประกันตัว น.ส.ตะวัน และ นายณัฐนนท์ ไชยมหาบุตร หรือ แฟรงค์ 2 ผู้ต้องหาในคดีตามประมวลกฎหมายอาญา ม.116 ซึ่งต่อมาทั้งคู่อดอาหารประท้วงขณะถูกคุมขัง
และวันที่ 25 ก.พ. 67 เวลา 11.00 น. ที่ ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก นายสมหมาย ตัวตุลานนท์ พร้อมด้วย นายนภสินธุ์ ตรีรยาภิวัฒน์ และคณะ เดินทางมาฟังคำวินิจฉัยการขอปล่อยตัวชั่วคราว น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ หรือ ตะวัน และ ณัฐนนท์ ไชยมหาบุตร หรือ แฟรงค์ ผู้ต้องหาคดี ม.116 บีบแตรขัดขวางขบวนเสด็จฯ ซึ่งศาลจะอ่านคำวินิจฉัยในช่วงบ่ายของวันนี้
นายสมหมาย กล่าวว่า เมื่อวานนี้ (24 ก.พ.) ศาลได้ขอเอกสารเพิ่มเติมเป็นใบรับรองทางการแพทย์ ระบุรายละเอียดอาการของ ตะวัน และ แฟรงค์ โดยของตะวันจะเป็นใบรับรองแพทย์จากโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ส่วนของแฟรงค์เป็นใบรับรองแพทย์จากโรงพยาบาลราชทัณฑ์ วันนี้ ตนจึงนำเอกสารทางการแพทย์มายื่นตามที่ศาลร้องขอ พร้อมขอความเมตตาจากศาลให้พิจารณาการปล่อยตัวชั่วคราว
ส่วนที่ นายสนธิญา สวัสดี เดินทางมายื่นคัดค้านการประกันตัว ตะวัน และ แฟรงค์ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมานั้น นายสมหมาย กล่าวว่า ก็เป็นสิทธิของเขา ใครจะยื่นประกันตัว หรือยื่นคัดค้านก็เป็นสิทธิตามกฏหมาย แต่สุดท้ายต้องให้ศาลพิจารณา
ล่าสุดศาลยกคำร้อง ไม่ให้ประกันตัวชั่วคราว ตะวัน-แฟรงค์ โดยระบุไม่มีเหตุให้เปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม
นายนภสินธุ์ ตรีรยาภิวัฒน์ หรือสายน้ำ นักกิจกรรมทางการเมือง ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนหลังฟังคำพิจารณาของศาลอาญา โดยระบุว่า ในวันนี้ตนขอชี้แจงแทนเนื่องจากว่าพ่อของทานตะวัน ยังไม่ไหวไม่สามารถมาให้สัมภาษณ์ได้ สำหรับคำแนบท้ายการพิจารณา วิเคราะห์คำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราวของผู้ต้องหาทั้ง 2 ประกอบความเห็นแพทย์โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ
ซึ่งได้ทำการตรวจรักษานางสาวทานตะวัน ตัวตุลานนท์ ผู้ต้องหาที่ 1 พบว่าการรักษาตัวในโรงพยาบาลด้วยสภาวะทุพโภชนาการ และระดับเกลือแร่ในร่างกายผิดปกติ ซึ่งผู้ป่วยปฏิเสธการให้สารน้ำ และยาทางหลอดเลือดดำ เห็นสมควรเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล 22 กุมภาพันธ์ 2567 ถึงปัจจุบัน เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับสารน้ำเกลือแร่อย่างเพียงพอและตรวจติดตามสังเกตุอาการ ตรวจติดตามผลเลือดเป็นระยะ
ส่วนแพทย์โรงพยาบาลราชทัณฑ์ ซึ่งตรวจรักษาอาการนายณัฐนนท์ ไชยมหาบุตร หรือแฟรงค์ ผู้ต้องหาที่ 2 มีความเห็นตั้งแต่วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2567 เข้ารับการรักษาตัวในหอผู้ป่วยอายุรกรรมชายชั้น 6 ด้วยอาการปวดท้อง อ่อนเพลีย 3 วัน เนื่องจากการอดอาหารจากความประสงค์ของผู้ป่วยเอง สอบถามสาเหตุเป็นอุดมการณ์ทางการเมือง ไม่ใช่อาการทางจิต แพทย์จึงเห็นว่าปัจจุบันรักษาในทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ เพื่อสังเกตุอาการอย่างใกล้ชิด และผู้ป่วยปฏิเสธการรับยารับสารน้ำทางหลอดเลือด และปฏิเสธการรับการฉีดยาน้ำเกลือ
ซึ่งเห็นว่าศาลมีความเห็นไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 โดยระบุเหตุผลไว้อย่างชัดเจนแล้ว ส่วนกรณีการเจ็บป่วยของผู้ต้องหาทั้ง 2 ขณะนี้ขณะนี้อยู่ภายใต้การรักษาของแพทย์อย่างใกล้ชิด กรณีไม่มีเหตุเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิมจึงไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวผู้ต้องหาทั้ง 2 ยกคำร้อง
นอกจากนี้พนักงานสอบสวนได้มีการยื่นเรื่องขอฝากครั้งต่อผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ต่ออีก 12 ผลัด เนื่องจากรอตรวจประวัติอาชญากรรมผู้ต้องหา และต้องสอบปากคำเพิ่มอีก 5 ปาก
โดยส่วนตัวตนและเพื่อนๆ มองว่าผู้ต้องหาทั้ง 2 คน เป็นเพียงแค่เด็กคงไม่มีความสามารถไปคุกคามหรือข่มขู่พยานได้ นอกจากนี้การตรวจตรวจสอบประวัติอาชญากรรมผู้ต้องหา ตนเชื่อว่าไม่ว่าเค้าจะอยู่ที่ไหนก็สามารถตรวจสอบได้ไม่จำเป็นต้องอยู่ในราชทัณฑ์
ส่วนคำร้องที่ศาลสั่งให้รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลซึ่งทั้ง 2 คนนั้นยังยืนยันไม่ได้รับการรักษา เพียงแค่ไปอยู่ที่โรงพยาบาลเท่านั้น ส่วนที่ระบุว่าไม่มีเหตุให้เปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม เนื่องจากคำสั่งเดิมระบุว่าทั้งสองคนมีพฤติการณ์ไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย ซึ่งตนอยากยืนยันแทนเพื่อนว่าทั้งสองคนได้ขอโทษไปแล้วตั้งแต่วันที่อยู่หน้าสน.ปทุมวัน ในเหตุการณ์ที่ขับรถไม่ระมัดระวัง และตนอยากย้ำว่าสิทธิ์ในการได้รับการประกันตัวเป็นของทุกคน และเพื่อนของเราสมควรได้รับการประกันตัว และคืนเพื่อนเพื่อนของเราออกมาสู่พ่อกับแม่ของเขา
สำหรับครอบครัวของนางสาวทานตะวัน จะดำเนินการอย่างไรนั้น ในขณะนี้ตนยังไม่กล้าสอบถาม เนื่องจากพ่อของนางสาวทานตะวัน ยังคงไม่ไหว เราจึงขอให้เวลากับทางครอบครัวได้พิจารณาก่อน และหลังจากศาลฯ มีคำสั่งในลักษณะนี้ ตนมองว่าคนเป็นพ่อเป็นแม่คงไม่ไม่ไหว ที่ต้องเห็นลูกของตัวเองกำลังอาการย่ำแย่มากๆ
ขณะเดียวกัน ภายหลังการอ่านคำวินิจฉัยฯเสร็จสิ้น กลุ่มคนที่มาให้กำลังใจ น.ส.ทานตะวัน และ นายณัฐนนท์ ทราบคำวินิจฉัย บางรายมีอาการเศร้าโศก ร้องไห้ และเสียใจกับคำวินิจฉัยดังกล่าว.
