แม่ออกโรงเปิดใจตัดลูกชาย 3 คนออกจากกองมรดกหมื่นล้าน เพราะใช้เงินเปลือง ด้านพี่ชายยืนยัน ยังไงก็ต้องมีการพูดคุยกันเพื่อหาจุดลงกันให้ได้
จากกรณี 3 พี่น้องทายาทหมื่นล้าน จากทั้งหมด 4 คน มหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งหนึ่งในภาคอีสาน พร้อมด้วยทีมทนายความได้มาแถลงข่าวและนำเอกสารพร้อมคลิปวิดีโอบางส่วนมานำเสนอขอความเป็นธรรมกับสื่อมวลชนให้ช่วยกันตรวจสอบพฤติกรรมอันไม่ชอบมาพากลหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการทำพินัยกรรมที่ไม่ชอบมาพากล และการถ่ายโอนเปลี่ยนแปลงชื่อในโฉนดที่ดินหลายแปลงก่อนที่เป็นพ่อจะเสียชีวิตและทรัพย์สมบัติอีกหลายอย่างรวมไปถึงการตัดทายาททั้ง 3 คน ซึ่งเป็นลูกที่ชอบด้วยกฎหมายออกจากกองมรดก
3 ทายาทหมื่นล้านร้องสื่อ พินัยกรรมพ่อผิดปกติ โดนตัดจากกองมรดกยกให้พี่คนโตคนเดียว
ล่าสุดวันนี้ที่มหาวิทยาลัย นางปราณี ผู้ได้รับใบอนุญาติสถานศึกษา ภรรยาของอาจารย์มุข พร้อมด้วยว่าที่ร้อยตรีเอกชัย ประธานสภาทนายความจังหวัดสระบุรีและทีมทนายความ โดยมีอาจารย์ ดร.ณัฐวัฒม์ ลูกชายคนโตอธิการบดีมหาวิทยาลัยคนปัจจุบันร่วมสังเกตการณ์ช่วงแถลงข่าวปมตระกูลมีปัญหาพินัยกรรมหมื่นล้านชี้แจงข้อเท็จจริงทั้งหมด
นางปราณี เผยว่า ขอยืนยันว่ามีการตัดลูกชายทั้ง 3 คน ออกจากกองมรดกจริง สาเหตุเกิดจากพฤติกรรมของลูกชายประพฤติไม่ดีหลายอย่าง บริหารงานไม่โปร่งใส รวมไปถึงเงิน 134 ล้าน ก็เป็นฝั่งของลูกชายคนที่ 2-3-4 เป็นคนเอาไป หลักฐานการเปิดจ่ายทุกอย่างมีหมดแล้วยังมากล่าวหาว่าคนอื่นเอาไปอีก เงินส่วนใหญ่ที่นำไปใช้จ่ายก็นำไปสร้างบ้านกันทั้งสามคน ซื้อของที่ฟุ่มเฟือยและยังใช้จ่ายอื่นๆ อีกมากมาย นอกจากนี้ขอยืนยันว่าสามีไม่ได้เป็นป่วยโรคอัลไซเมอร์เพราะแพทย์ไม่ได้ระบุเป็นแค่ความจำหลงๆ ลืมๆ กันบ้างและก็ไม่ได้ป่วยติดเตียงแต่อย่างใดยังสามารถพูดคุยรู้เรื่อง
ในส่วนของพินัยกรรมนั้นจากกันดูเอกสารทั้งหมดส่วนใหญ่เป็นลายเซ็นของอาจารย์มุขไม่มีการปั๊มลายนิ้วมือแต่อย่างใด แล้วในช่วงที่พ่อป่วยลูกทั้ง 3 คน รวมไปถึงสะใภ้ก็ไม่เคยเข้ามา ถ้าจะเข้ามาก็ต้องมาหาผลประโยชน์โดยการถ่ายคลิปวิดีโอเพื่อเอาไปเป็นหลักฐานในการสู้คดี โดยทางเราไม่ได้มีการห้ามแต่อย่างใดในส่วนของที่ดินของสถานศึกษาทั้ง 3 แห่งนั้น มอบให้กลับจริงก็ต้องมอบแล้วตามกระทรวงศึกษาธิการตามหลักของกฎหมายและขอยืนยันอีกครั้งว่าจะขอใช้สิทธิ์ตามกฎหมายในการดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
ด้าน ดร.ณัฐวัฒม์ ลูกชายคนโตอธิการบดีมหาวิทยาคนปัจจุบัน เผยว่าเย็นนี้จะมีการพูดคุยกันทั้งครอบครัวเกี่ยวกับเรื่องราวทั้งหมดในส่วนของพิธีกรรมที่มีการทำกันขึ้นไว้ น้องทั้งหมดจะยอมรับได้หรือไม่หลังจากนี้หากมรดกตกทอดมาอยู่ในมือของตนจะมีการแบ่งปันสันปันส่วนให้น้องที่เหลือหรือไม่นั้นขอยืนยันจะทำให้ดีที่สุด หากถามว่ากลัวหรือไม่ว่าจะมีความรุนแรงในครอบครัวตนก็ยืนยันว่ายังไงก็ต้องมีการพูดคุยกันเพื่อหาจุดลงกันให้ได้
