แม่วอนหมาปลาช่วย ลูกสาวทำงานเป็นแม่บ้าน รพ. ไปกินน้ำแดงไหว้ศาล แล้วอาการแปลกไป พูดจาไม่รู้เรื่องบอกว่ามีคนมายืมร่างตัวเอง ร่างทรงชี้วิญญาณผีตายโหง 9 ตน เข้าสิง
วันนี้ (3 ก.พ.67) นางอภัย เข็มบุพผา อายุ 67 ปี ชาวตำบลหนองปล่อง อ.ชำนิ จ.บุรีรัมย์ พร้อมด้วยแม่บ้านโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดบุรีรัมย์ ได้นำพวงมาลัย น้ำแดง น้ำเปล่า และธูปเทียนไปไหว้ขอขมาศาลพระภูมิที่ตั้งอยู่ภายในโรงพยาบาล ตามคำแนะนำของหมอดูร่างทรง หลังจาก น.ส.ปฑิตา หรือติ๊ก อายุ 42 ปี ซึ่งทำงานเป็นแม่บ้านภายในโรงพยาบาลเดียวกัน และเป็นลูกสาวของนางอภัย ไปกินน้ำแดงและผลไม้ที่ญาติผู้ป่วยนำไปเซ่นไหว้ที่ศาลพระภูมิ แล้วเกิดอาการผิดปกติทั้งโวยวายอาละวาด พูดจาไม่รู้เรื่องบอกว่ามีคนมายืมร่างตัวเอง
บางครั้งนอนกลิ้งกับพื้น คล้ายกับถูกผีหรือสิ่งลี้ลับสิงร่าง ทั้งยังชอบรื้อหิ้งพระทิ้ง มีอาการลักษณะนี้มานานกว่า 1 สัปดาห์ จนไม่สามารถไปทำงานได้ ทางครอบครัวจึงได้นิมนต์พระมาสวดปัดเป่าและรดน้ำมนต์แต่ก็ไม่หาย พอไปดูหมอร่างทรงก็ทักว่ามีวิญญาณผีตายโหง 9 ร่าง ที่เสียชีวิตอยู่ภายใน รพ.มาสิงร่างอยู่ และเขาจะเปลี่ยนร่างทุกวันแต่ละวันจึงมีอาการไม่เหมือนกัน ทางครอบครัวจึงอยากให้หมอปลามาช่วยเพราะหมดหนทางไม่รู้จะทำวิธีไหนแล้ว
นางอภัย พาผู้สื่อข่าวและหน่วยกู้ภัยตำรวจทางหลวงบุรีรัมย์ เดินทางไปดูลูกสาวที่มีอาการคล้ายถูกผีเข้าที่บ้าน ซึ่งเมื่อไปถึงบ้านก็พบ น.ส.ปฑิตา สวมใส่ผ้าถุงลายเดินไปมารอบบ้าน ผู้สื่อข่าวพยายามไปพูดคุยสอบถามว่าเป็นอะไร ก็ตอบว่าไม่ได้เป็นอะไรแค่มอบร่างอันไร้วิญญาณที่ไม่มีตัวตนแล้วก็พูดถึงพวงมาลัยที่ใช้สำหรับไหว้ศาลซึ่งแห้งเหี่ยวหยิบขึ้นมาให้ดู ทั้งยังไล่นักข่าวและกู้ภัยฯ ให้ออกไปห้ามเข้าใกล้อย่ามายุ่ง แต่นักข่าวก็พยายามจะถามว่ามอบร่างอะไรให้ใคร น.ส.ปฑิตา ก็ยังตอบเหมือนเดิมว่ามอบร่างอันไร้วิญญาณที่ไม่ให้พี่น้องคนไหนรู้วุ่นวายเลย ดวงตาก็แกะออกไป เพื่อมอบร่างให้พระศิวะ จากนั้นก็เดินเข้าบ้านแล้วบอกว่าห้ามใครเข้ามาต้องได้รับอนุญาตเท่านั้น บางช่วงก็จะโวยวายเดินเตะข้าวของ เมื่อถามว่าจำได้มั้ยก็บอกว่าจะไม่ได้เพราะเกิดใหม่แล้ว ซึ่งขณะที่พูดก็จะเดินไปมาตลอดเวลา บางช่วงก็เดินร้องเพลงและเต้นไปด้วย แต่บางครั้งก็พูดคนเดียวและไปยืนโบกรถกลางถนน
นางอภัย เล่าให้ฟังว่า ลูกสาวทำงานเป็นแม่บ้านอยู่ที่ รพ. ในตัวอำเภอนางรอง เมื่อวันที่ 25 ม.ค.67 ที่ผ่านมา เขาบอกว่าทางเจ้านายได้เลื่อนขั้นให้ จากที่ทำงานอยู่ชั้น 1 ให้ขึ้นไปอยู่ชั้น 2 แต่เพื่อนที่ทำงานด้วยกันไม่ได้ขึ้นไปด้วย และเขาก็บอกว่าได้มีเพื่อนที่ทำงานเป็นแม่บ้านด้วยกันเอาน้ำแดงจากศาลพระภูมิมาให้เขากิน หลังจากกินแล้วเย็นวันนั้นก็มีอาการผิดปกติเลย ด่าสาดไปทั่วแม่ถามเขาก็บอกไม่ต้องพูดเขาบอกมีคนมายืมร่าง ซึ่งแต่วันลูกจะมีอาการไม่เหมือนเดิมเปลี่ยนเป็นวันละคนบางวันก็เหมือนเด็ก บางวันเห็นใครไม่ได้จะเข้าไปปล้ำเขา ซึ่งตนไปดูหมอทรงมาเขาก็บอกว่ามีวิญญาณผีตายโหงอยู่ในตัวลูกสาว 9 ร่าง เขาก็แนะนำว่าให้แม่เอาเครื่องเซ่นไปไหว้ขอขมาเขา ก็มีเทียน 2 เล่ม พวงมาลัย 2 พวง น้ำแดง 2 ขวด น้ำเปล่า 2 ขวด และธูป 9 ดอกไปไหว้ขอขมาที่ศาลพระภูมิที่ลูกสาวไปเอาน้ำแดง และผลไม้เซ่นไหว้มากินตนก็ไปทำแล้วแต่ไม่รู้จะหายมั้ย ตนสงสารลูกมากเป็นแบบนี้มาสัปดาห์กว่าแล้ว ไปทำงานก็ไม่ได้ แม่ยังพูดทั้งน้ำตาด้วยว่าไม่รู้จะทำยังไงอยากขอให้หมอปลามาช่วย
ด้านนายแสงอุทัย ดวงศิลป์ อายุ 53 ปี สามีของคนถูกผีเข้า บอกว่า หลังจากที่ภรรยากินน้ำแดง และผลไม้ที่เซ่นไหว้ศาลพระภูมิ ซึ่งเพื่อนร่วมงานเอามาให้กิน ก็มีอาการผิดปกติตั้งแต่วันนั้น ด่าสาดไปเรื่อยพูดไม่หยุดไม่ยอมหลับยอมนอน ไปดูหมอเขาก็บอกว่าถูกผีเข้าสิง มีทั้งกุมาร ผีบิ๊กไบค์ ผีคนแก่ที่ตายใน รพ. ก็ไม่รู้ว่าเพื่อนที่เอาให้กินอิจฉาภรรยา หรือไม่ที่ได้เลื่อนขึ้นไปทำงานชั้น 2 จึงเอาน้ำแดงมาให้กินโดยไม่บอกว่าเอามาจากศาลพระภูมิ ที่ผ่านมาก็เคยนิมนต์พระมาสวดปัดเป่าแล้วก็ไม่หาย อยากร้องขอให้หมอปลามาช่วยเหลือ เพราะตอนนี้ครอบครัวหมดหนทางแล้วไม่รู้จะทำยังไง
จากนั้นได้สอบถามนางวัง อายุ 63 ปี แม่บ้าน รพ.ที่เป็นเพื่อนร่วมงาน บอกว่าวันนั้นตนเห็น น.ส.ปาฑิตา เดินไปที่ศาลพระภูมิตนจึงแบ่งผลไม้เป็นส้ม 2 ลูก ทับทิม 1 ลูกที่ขอลามาจากศาลพระภูมิให้จริง ซึ่งก็ให้เพื่อนร่วมงานอีกคนไปเหมือนกัน แต่ไม่ได้เอาน้ำแดงให้ เพราะปกติตนเองจะมาขอลาของเซ่นไหว้ไปกินเป็นปกติอยู่แล้ว แต่ไม่รู้ว่าคนอื่นเขามาลาเอาไปกินหรือเปล่า แต่ตนกินแล้วไม่เป็นอะไร ส่วนที่ น.ส.ปาฑิตา มีอาการผิดปกติคล้ายถูกผีเข้า ตนก็ไม่รู้ว่าเกิดจากอะไรแค่ได้ยินเขาเล่ากันว่าถูกวิญญาณคนที่กระโดดตึกเข้าสิงแต่ก็อยากให้เขาหาย
