เจ้าอาวาส ประกาศกลางที่ประชุม ขอลาออกจากเจ้าอาวาสวัดจันพอ หลังกระทำทารุณกรรม “เจ้าย่น” ส่วนจะสึกหรือไม่นั้น ยังไม่ตัดสินใจ
กรณี พระนพดล มังคลสุ หรือ “ท่านหนึ่ง” อายุ 44 ปี พระลูกวัดจันพอ ต.ดอนตะโก อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช ได้ถ่ายคลิป“เจ้าย่น” สุนัขเพศเมีย วัยเกือบ 2 ปี ที่เลี้ยงไว้ในวัดจันพอ ได้ถูก พระอธิการดนัย ญาณสุทฺโธ อายุ 37 ปี เจ้าอาวาสวัดจันพอ พร้อมด้วยเด็กวัด ได้รุมใช้ไม้หน้าสามไล่ทุบตีทิ่มแทงและยิงซ้ำด้วยหนังสติ๊ก จน“เจ้าย่น” ร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด เบ้าตาและดวงตา ทั้งสองข้างแตก เลือดคั่งในเบ้าตา และดวงตาได้รับบาดเจ็บอาการสาหัส และมีโอกาสตาบอดสนิททั้งสองข้าง และถูกนำตัวส่งรักษาตัวที่คลินิกสัตวแพทย์เอกชนแห่งหนึ่ง ในตัวเมืองนครศรีธรรมราช
โดยมีสาเหตุมาจาก เจ้าอาวาสเกิดจากความไม่พอใจที่ “เจ้าย่น” ไปกัดแทะอาสนะของพระได้รับความเสียหาย และเจ้าอาวาสเป็นคนท้าทาย ให้พระนพดล นำคลิปที่ถ่ายไว้ไปโพสต์เผยแพร่ในโลกโซเชียล
จนพระนพดล ได้เดินทางเข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.ท่าศาลา เพื่อเอาผิดเจ้าอาวาส และ ฆราวาส วัย 15 ปี และศาลแขวงนครศรีธรรมราชไ ด้มีคำพิพากษาตัดสินลงโทษจำคุก พระอธิการดนัยญาณสุทฺโธ เจ้าอาวาสวัด เป็นเวลา 2 เดือน ปรับเป็นเงิน 5,000 บาทโดยโทษจำคุกให้รออาญาเป็นเวลา 1 ปี
ล่าสุดวันนี้ (1 ก.พ.67) ที่วัดจันพอ ต.ดอนตะโก อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช ทางคณะสงฆ์ เจ้าคณะอำเภอ เจ้าคณะตำบลตัวแทน จากตำรวจ สภ..ท่าศาลา สำนักงานพุทธศาสนานครศรีธรรมราช กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง หลายฝ่ายร่วมกันประชุม โดยมีชาวบ้านในพื้นที่เข้าร่วมประชุมกว่า 300 คน เพื่อร่วมกันพิจารณากรณีที่เกิดเรื่องฉาวโฉ่ขึ้น แม้ศาลจะพิพากษารอลงอาญา และในทางวินัยสงฆ์เป็นความผิดเล็กน้อยแค่ปาจิตตีย์ เป็นอาบัติเบาลหุโทษเท่านั้น แต่เรื่องที่เกิดขึ้นมีกระทบต่อความรู้สึกของชาวพุทธเป็นอย่างมาก เนื่องจากพระภิกษุจะต้องยึดมั่นในหลักธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า
โดยในที่ประชุมจึงมีตัวแทนชาวบ้านได้ตั้งคำถามประมาณ 3-4 ข้อ คำถามสุดท้ายว่า ท่านเจ้าอาวาสจะยังอยู่ที่วัดจันพอ อีกหรือไม่ อย่างไรซึ่งเป็นคำถามที่ชาวบ้านพอใจและปรบมือกันกึกก้องห้องประชุม
หลังจากนั้นพระอธิการดนัยฯ กล่าวตอบชัดเจนกลางที่ประชุมว่า “ผมขอลาออกจากเจ้าอาวาสวัดจันพอ และจะไม่อยู่จำพรรษาที่วัดจันพออีกต่อไป ส่วนเรื่องผมจะไปอยู่ที่ไหน หรือผมจะสึกไปเป็นฆราวาสหรือไปศึกษาต่อนั้น ก็อีกเรื่องหนึ่ง แต่ผมขอยืนยันว่าผมจะไม่ขออยู่วัดจันพอ โดยอยู่กันมา 6 ปี สำหรับการทุ่มเทพัฒนาวัดและคงได้แค่นี้ ท่ามกลางเสียงปรบมืออย่างดีใจของชาวบ้านที่เข้าร่วมประชุม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในการประชุมทางคณะกรรมการวัดเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองและเจ้าหน้าที่ตำรวจ ไม่ยินยอมให้สื่อมวลชนเข้าไปถ่ายภาพ ทำข่าวในห้องประชุมสร้างความไม่พอใจให้กับสื่อมวลชน ทั้งส่วนกลางและในท้องถิ่นเป็นอย่างมาก เพราะการประชุมก็ไม่ได้เป็นความลับอะไร และเป็นเพียงการชี้แจงการดำเนินการต่างๆให้ประชาชนที่ติดตามข่าวนี้ได้รับรู้ผลสรุปในการประชุมเท่านั้น
ในขณะที่ชาวบ้านส่วนใหญ่กล่าวไปในทิศทางเกียวกันว่า พอใจผลสรุปในที่ประชุม เพราะแค่เรื่องเดียวที่เจ้าอาวาสรับปากกลางที่ประชุมขอขอลาออกจากเจ้าอาวาสวัดจันพอ และจะไม่อยู่จำพรรษาหรือพำนักที่วัดจันพออีกต่อไป แค่เรื่องเดียวเท่านี้ก็เพียงพอแล้ว เรื่องอื่นๆมันแค่ประเด็นปลีกย่อยเท่านั้น ส่วนทางคณะสงฆ์จะแต่งตั้งพระรูปใดมาเป็นเจ้าอาวาสวัดจันพอ อย่าให้ใจร้ายโหดเหี้ยมอำมหิตเหมือนเจ้าอาวาสองค์นี้อีกนะครับชาวบ้านคนหนึ่งกล่าวในที่สุด.
