รวบยกแก๊งปล้นทอง 30 บาท ตะลึงเยาวชนวัย 14-15 ร่วมทีม

1 ก.พ. 67

2 โจรควงปืนชิงทองห้างโลตัสสาขาไชยา พบกวาดทองรูปพรรณไปกว่า 30 บาท ล่าสุดตำรวจรวบยกแก๊ง ตะลึงเยาวชนวัย 14-15 ร่วมทีม

ความคืบหน้าเหตุคนร้าย 2 คนใช้อาวุธปืนขนาด .38 จำนวน 3 กระบอก บุกปล้นชิงทรัพย์ร้านทองเยาวราชกรุงเทพ ในห้างเทสโก้โลตัส สาขาไชยา ริมถนนทางหลวงเอเชีย 41 ต.เลม็ด อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี ได้ทรัพย์สินสร้อยทองรูปพรรณจำนวน 40 เส้น น้ำหนัก 33.5 บาท มูลค่าประมาณ 1.3 ล้านบาท โดยนำรถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุไปทิ้งคลองชลประทาน บ้านในไร่ หมู่ที่ 3 ต.เวียงอ.ไชยา ห่างที่เกิดเหตุประมาณ 3.7 กิโลเมตร แล้วหลบหนีไปเหตุเกิดเมื่อวันที่ 20 มกราคม 2567 นั้น

ล่าสุดตำรวจจับตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุได้ยกแก๊ง และควบคุมตัวผู้ต้องหา 4 คนไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ยังที่เกิดเหตุ มี 1.นายสรายุทธ หรือ อิฐ ฉิมกล่อง อายุ 38 ปี พื้นเพเดิมเป็นชาว จ.สุราษฎร์ธานี หัวหน้าแก๊ง ทำหน้าที่บุกปีนเข้าไปกวาดเอาทอง 2.นายภูวดล อายุ 18 ปี ถืออาวุธปืน 2 กระบอกทำหน้าที่คุ้มกันก่อเหตุ 3. นายอโนชา หรือ บอล แซ่หลี อายุ 33 ปี ทำหน้าที่ดูเป้าหมาย 4.นายสมโชค อายุ 15 ปี ทำหน้าที่ดูต้นทาง

ส่วนคนที่ 5.ด.ช. อัครพนธ์ อายุ 14 ปี ทำหน้าที่ขี่รถจักรยานยนต์มารับคนร้ายที่จุดทิ้งอำพรางรถในคลอง ซึ่งยังจับตัวไม่ได้

พล.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผบช.ภ.8 กล่าวว่าคดีนี้ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งรัดสืบสวนติดตามจับกุมคนร้ายให้ได้ โดยพบว่ามีคนร้ายทั้งหมด 5 คน ซึ่งเป็นเยาวชนอายุ 14-15 ปี อยู่ 2 คน ทั้งหมดเป็นชาว อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี จึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน ขออนุมัติศาลออกหมายจับ และหมายเรียกในข้อกล่าวหาร่วมกันปล้นทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยมีและใช้อาวุธปืนโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกในการกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม

จากการสืบสวนทราบว่า นายสรายุทธ ซึ่งก่อนหน้านี้อาศัยอยู่ที่กรุงเทพฯ เป็นหนี้พนันออนไลน์ 2 ล้านบาท จึงเดินทางกลับมายังจ.สุราษฎร์ธานี และคิดปล้นร้านทองหาเงินใช้หนี้ แต่ไปดูลาดเลาแล้วไม่สามารถลงมือได้ จึงมาบอก นายอโนชา ซึ่งเป็นญาติและมีพฤติกรรมจำหน่ายยาเสพติดให้ร่วมก่อเหตุ และได้ชักชวนกลุ่มวัยรุ่นที่เป็นลูกน้องส่งยาเสพติดอยู่แถวชุมชน ร่วมก่อเหตุแบ่งหน้าที่กันทำงาน ซึ่งนายสรายุทธคนวางแผนและตัวการสำคัญหลบหนีตามไปจับกุมได้ ที่ อ.แกดำ จ.มหาสารคาม อีก 3 คนจับได้ในพื้นที่อ.พุนพิน และ เหลือเยาวชน อายุ 14 ปีจะได้ตัวเร็วๆนี้

“ทั้งหมดให้การรับสารภาพว่าได้ร่วมกันวางแผน โดยมาดูเป้าหมายก่อนลงมือก่อเหตุ 1 สัปดาห์ หลังก่อเหตุได้แยกย้ายกันหลบหนีและนำทองคำที่ปล้นมาได้ไปขายที่กรุงเทพฯ และจังหวัดต่างๆในภาคตะวันออก จากนั้นนำทองคำและเงินที่ได้จากการขายมาแบ่งกัน โดยตำรวจใช้เวลา 10 วัน สามารถปิดคดีได้ ซึ่งนายสรายุทธ ตัวหัวโจกเป็นผู้ชักชวนชี้นำเยาวชนที่เปราะบาง มีปัญหามาจากครอบครัวร่วมก่อเหตุ ด้วยความฮึกเหิม และคึกคะนอง เป็นที่น่าวิตกห่วงใยมาก”พล.ต.ท.สุรพงษ์กล่าว.

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส