ครูปุ๊ก-ครูจ๋า เปิดใจทั้งน้ำตา ขอโทษ เข็มกลัดทิ่มปาก ป.2 ยกห้อง

26 ม.ค. 67

ครูปุ๊ก-ครูจ๋า เปิดใจทั้งน้ำตา ขอโทษ เข็มกลัดทิ่มปาก ป.2 ยกห้อง แค่หวังเพียงขู่สอนเด็ก ขณะที่ตำรวจ จ่อแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกาย และจิตใจ 

วันที่ 26 ม.ค. 67 ที่ สภ.สำโรงเหนือ ผู้สื่อข่าวรายงาน น.ส.วัชรียา หรือ ครูปุ๊ก อายุ 50 ปี พร้อมด้วย น.ส.ธัญญภัสร์ หรือ ครูจ๋า อายุ 27 ปี เดินทางเข้าพบกับ พล.ต.อ.วิชิต บุญชินวุฒิกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ และพนักงานสอบสวนของ สภ.สำโรงเหนือ เพื่อเข้าให้ปากคำ 

หลังจากที่ถูกออกหมายเรียกให้เข้าพบพนักงานสอบสวน จากกรณีที่ก่อเหตุใช้เข็มกลัดทิ่มริมฝีปากของนักเรียนชั้น ป.2 ของโรงเรียนแห่งหนึ่ง 

ด้าน พล.ต.ต.วิชิต เปิดเผยว่า จากการสอบสวนข้อเท็จจริง เป็นไปตามที่ข่าวนำเสนอจากการสอบปากคำ ครูสารภาพยอมรับผิด และขอโทษ แต่เจตนาเพื่อให้นักเรียนรู้จักยอมรับผิด แต่วิธีการไม่ถูกต้องเกินเลย จากนี้จะต้องว่าไปตามกฎหมาย มีเด็กที่ได้รับบาดเจ็บบางส่วน สอบสวนแล้วขณะนี้รอผลแพทย์ก่อนแจ้งข้อกล่าวหา หากพบครูประจำชั้นมีส่วนด้วย ก็จะถูกดำเนินคดีเช่นเดียวกัน 

ขณะที่ ครูปุ๊ก ที่ก่อเหตุทำร้ายเด็กได้ขอโทษกับสิ่งที่ทำ เพราะหวังดี ไม่มีเจตนาจะทำร้ายเด็ก โดยหลังเกิดเหตุเครียดทั้งคืน ที่ทำเพราะสอนเด็กว่ากล้าทำก็ต้องกล้ารับผิด ไม่คิดว่าจะทำให้เด็กบาดเจ็บ แต่ละห้องเด็กจะอยู่ห้องตัวเอง เด็กทิ้งหมากฝรั่งไว้หน้ากระดานดำ ครูประจำชั้นถามไม่มีใครยอมรับ 

ส่วนกรณีให้สาบานนำธูปเอามาให้เด็ก แต่ไม่ได้จุดให้เด็กสาบาน ถ้าใครทำขอให้ผีเอาตัวหนูไปเลย ส่วนเข็มกลัดเป็นเข็มกลัดใหม่ เอามาใช้กลัดเสื้อผ้าตอนเด็กแสดง เป็นครั้งแรกที่ทำ เมื่อถามเด็กแต่ทั้งห้องไม่ตอบ ที่ผ่านมาทำโทษ หากเกินสามครั้งจะตีมือ ใช้ไม้บรรทัด หรือไม้ตี หรือนำไม้เอามาตีโต๊ะขู่เด็ก 

ด้าน ครูจ๋า ซึ่งเป็นครูประจำชั้น บอกว่า ขณะที่ตนอยู่หลังห้อง ไม่คิดว่าครูปุ๊กจะทำรุนแรง คิดว่าแค่ขู่ยอมรับผิดที่ละเลยหน้าที่ที่ไม่ดูแลปกป้องเด็กนักเรียน ไม่คิดว่าจะเกิดเหตุด้านคดี พร้อมรับความผิด ขอโทษนักเรียนในห้องที่ทำให้มาเจอเหตุการณ์แบบนี้ และขอโทษผู้ปกครองที่ดูแลนักเรียนไม่ดี หลังเกิดเหตุไม่ได้หลบหน้าผู้ปกครอง แต่ไปที่เขต เพราะจะตั้งคณะกรรมการสอบวินัย ตอนนี้ไปช่วยราชการ 

ขณะที่ความคืบหน้าทางคดี พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างดำเนินการสอบสวนเด็กและแจ้งข้อหาต่อไป

 

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส