แม่เลี้ยงเดี่ยว ขอข้าววัดไปกินกับลูก ถูกกระบะชนดับอนาถ

10 ม.ค. 67

สุดเวทนา!​ แม่เลี้ยงเดี่ยวลูกสอง ขอข้าววัดกลับไปกินกับลูกที่บ้าน ถูกกระบะชนดับอนาถ คู่กรณีเสียใจ พร้อมชดใช้เยียวยาดูแลเต็มที่ 

วันที่ 10 ม.ค. 67 พ.ต.ต.พนม หงษ์ทอง สารวัตรสอบสวน สภ.คลองวาฬ รับแจ้งอุบัติเหตุรถกระบะชนกับรถจักรยานยนต์ มีผู้เสียชีวิตบนถนนทางหลวงชนบทปข.1041 ถนนประจวบ​-หว้ากอ ไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วย​แพทย์เวรโรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์อาสามสมัครกู้ภัยมูลนิธิสว่างประจวบธรรมสถาน 

ที่เกิดเหตุเป็นทางสามแยกตัดทางรถไฟบ้านนาทอง หมู่ 8 บ้านนาทอง ต.คลอง มีสะพานข้ามทางรถไฟเพิ่งก่อสร้างเสร็จ​ และเพิ่งเปิดใช้งานไม่นาน โดยจุดทางสามแยกไม่มีป้ายหรือสัญญาณไฟเตือน 

พบรถจักรยานยนต์สีน้ำเงิน ​สภาพหน้ารถบังโคลนแตก ตะกร้าหน้าหลุดได้รับความเสียหาย มีถุงกับข้าวและอาหารต่างๆ กระจัดกระจายเกลื่อนถนน ใกล้กันพบศพ นางมะลิ ภูผา อายุ 36 ปี พักอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเอื้ออาทร หมู่ 4 บ้านหนองบัว ต.เกาะหลัก อ.เมือง ​นอนเสียชีวิตอยู่ในลักษณะนอนคว่ำหน้า สวมเสื้อแขนยาว และกางเกงเก่าๆ มีเลือดไหลนองเต็มพื้น​รถจักรยานยนต์ถูกชนกระเด็นไปไกลหลายเมตร 

แม่เลี้ยงเดี่ยว ขอข้าววัดไปกินกับลูก ถูกกระบะชนดับอนาถ

ส่วนรถคู่กรณีเป็นรถกระบะสี่ประตูสีขาว สภาพกันชนด้านหน้ารถแตกได้รับความเสียหาย หลังจากเกิดเหตุผู้ขับขี่ได้ขับรถไปแจ้งเหตุที่โรงพักคลองวาฬ และรอเจรจาค่าเสียหายกับคู่กรณี 

น.ส.เอ๋ อายุ 40 ปี ซึ่งเป็นพี่สาวของผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า น้องสาวของตนเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว มีลูก 2 คน และได้เลิกกับสามีไปแล้ว ก่อนเกิดเหตุน้องสาวได้ตระเวนไปตามวัดต่างๆ เพื่อเก็บเงินโปรยทานตามงานบุญ และขอกับข้าวอาหารจากวัดกลับมากินกับลูกที่บ้าน เนื่องจากมีฐานะยากจน ขณะเกิดเหตุไม่แน่ใจว่าเดินทางมาจากวัดธรรมิการาม เพื่อจะไปวัดคลองวาฬ หรือกลับจากวัดคลองวาฬแล้วนำกับข้าวไปกินกับลูกที่บ้าน แต่ก่อนจะเสียชีวิตได้นำหลานไปฝากไว้กับตน แล้วมาเกิดอุบัติเหตุเสียชีวิตดังกล่าว 

แม่เลี้ยงเดี่ยว ขอข้าววัดไปกินกับลูก ถูกกระบะชนดับอนาถ

ด้านผู้ขับขี่รถยนต์คู่กรณี ซึ่งไม่ประสงค์ขอออกนาม กล่าวว่า ตนเป็นข้าราชการอยู่ที่อำเภอบางสะพาน และได้เดินทางมาประชุมเกี่ยวกับงานราชการที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา แต่เดินทางไปผิดที่ศาลากลางจังหวัด​จึงรีบขับรถกลับจากศาลากลาง เพื่อไปประชุมที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา 

เมื่อมาถึงทางสามแยกจุดเกิดเหตุได้ขับรถแซงรถยนต์ที่อยู่ด้านหน้าระหว่างนั้นได้มีรถจักรยานยนต์ของผู้เสียชีวิตขับออกมาจากข้างทาง คาดว่าจะกลับบ้านในระยะกระชั้นชิด ทำให้มองไม่เห็น​และเบรกไม่ทัน จึงได้พุ่งชนเข้าอย่างจัง ซึ่งตนรู้สึกเสียใจและไม่อยากให้เหตุการณ์ลักษณะเช่นนี้เกิดขึ้น ยินดีพร้อมที่จะชดใช้เยียวยาดูแลฝ่ายผู้เสียหายอย่างเต็มที่

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส