ผู้บริหาร รพ.เลอลักษณ์ แฉแหลกพฤติกรรมตบทรัพย์ นิกกี้ ขยี้ข่าว

8 ม.ค. 67

ผู้บริหาร รพ.เลอลักษณ์ แฉแหลกพฤติกรรมตบทรัพย์ นิกกี้ ขยี้ข่าว ลั่นทำธุรกิจมาทั้งชีวิต ไม่เคยเจอคนแบบนี้ ขออย่าไปทำร้ายใครอีกเลย

นางพิศพรรณ ศรีไชยยันต์ ผู้บริหารโรงพยาบาล เลอลักษณ์ กล่าวว่า นิกกี้ ขยี้ข่าว หรือ นิกกี้ ศรินทิพย์ ศรีภักดิ์ เวนไรท์ ได้ทำหน้าอกกับ รพ.ไปตั้งแต่ในปี 2555 ที่ผ่านมาไม่เคยมีปัญหาอะไรแต่เมื่อปี 2561 มีการโพสต์ผ่านกลุ่มสวยสยอง มีการระบุว่าเกิดความเสียหายจากโรงพยาบาลดัง เพื่อที่จะสื่อมาที่โรงพยาบาลเลอลักษณ์ ซึ่งมีการติดต่อให้ลบโพสต์ดังกล่าว แต่ไม่มีการลบแต่อย่างใด จึงมีการใช้เงินและจ่ายไป 4 แสนบาท ซึ่งเรารู้วิธีการของเขาจะเป็นแบบนี้ การพิมพ์ข้อความลงในเพจในกลุ่มปิดที่กำลังดังเราเองก็กลัวเสียชื่อเนื่องจากทำธุรกิจ และบางครั้งคนไม่ผิดก็ต้องยอมเหมือนกัน ซึ่งตนได้มีการปรึกษาคุณหมอซึ่งเป็นสามี ว่านิกกี้มาแกล้งเราแบบนี้จะทำอย่างไร ซึ่งคุณหมอก็บอกว่าเราทำธุรกิจมีได้มีเสียยอมใช้เงินไปแล้วกัน จึงมีการจ่ายไป 3 แสนบาท จากนั้นจ่ายเพิ่มอีก 1 แสน เพราะเขาจะไปแก้กับหมออื่น หลังจากนั้นอีกสองปี นิกกี้ได้โทรมาหาตนบอกว่าคุณแม่ป่วยหนัก ขอยืมเงินหนึ่งล้านบาท แต่ตนมองว่าคงไม่ได้คืนแน่ๆ และด้วยความสงสารจึงให้ยืมเงินไป 2 แสนบาท และได้คืนมาเพียงแค่ 1 แสนบาท

หลังจากนั้นปี 66 จะให้ตนลงทุนกับกลุ่มปิดของเขาอีก 4 แสนบาท ซึ่งตนมองว่าเป็นกลุ่มที่มีประสิทธิภาพ และมีแต่หน้าม้าเข้าไป ซึ่งยังมีการตัดสินใจลงทุนมีการส่งเลขบัญชีมาตลอด แต่ตนไม่ได้อ่าน เนื่องจากว่าไม่อยากมีปัญหา แต่ก็ยังมีการส่งมาที่การตลาด ซึ่งเรายืนยันว่าเราไม่ลงทุน หลังจากนั้นเขาก็แกล้ง เขาเอาเรื่องนมทีเราจ่ายเงินไป 4 แสน กลับมาโพสต์ใหม่ว่าทำนมไปนมรั่ว เลือกถุงนมของอเมริกา แต่ได้ของฝรั่งเศส รวมถึงไซส์นมไม่ตรง ซึ่งมีการเขียนเรื่องเพื่อที่จะใส่ร้าย และมีการลงโพสต์ในกลุ่มปิด และยืนยันมีการย้อนกลับไปดูรูปหลังทำพบว่าปกติดี

“หลังจากปี 2555 มาถึง 2561 และมาปี 2566 ผ่านมาทุก 6 ปี เขาจะมีปัญหาตลอดและต้องการมาให้คุณหมอ รพ.เราแก้ ทั้ๆที่เขาไปแก้กับหมออื่นในปี 61 ซึ่งพ้นจากเราไปแล้ว ทั้งนี้ตั้งแต่ปี 2561 ด้วยความที่ตนทำธุรกิจมานาน แต่กลับต้องร้องไห้ ไม่ใช่เสียดายเงิน แต่เอาเงินไปบริจาคดีกว่า ทั้งรู้สึกว่าเหตุใดต้องเจอเหตุการณ์ถูกข่มขู่ขนาดนี้ มีการแกล้งลงโพสต์อยากได้เงินต้องทำขนาดนี้เลยเหรอ และตนต้องมาให้เงินกับคนที่เป็นแบบนี้ ซึ่งหลังจากนั้นก็มาอีก และมีการบอกกล่าวกับทีมงานว่าจะเล่นโรงพยาบาลเลอลักษณ์ให้เละ การหาข้อมูลเก่าต่างๆ รวมถึงคนไข้ที่ไม่ได้มีปัญหากับโรงพยาบาล ซึ่งมีการทำจมูกแบบโอเพ่นกับคลินิกของลูกสาวตน ซึ่งนำเรื่องไปลงว่าทำได้ 2 เดือนแล้วมีปัญหาคลินิกไม่แก้ให้ ซี่งตนรับรู้ว่าเขาเป็นคนมีพฤติกรรมแบบนี้ สร้างสตอรี่ขึ้นมา“

นางพิศพรรณ กล่าวว่า ยอมรับว่าเรื่องดังกล่าวนี้ส่งผลต่อภาพลักษณ์ของโรงพยาบาลเป็นอย่างมาก เมื่อเราเป็นโรงพยาบาลใหญ่ มีการลงเรื่องราวไป มีการให้เด็กร่วมแชร์เรื่องราว ซึ่งเราได้รับผลกระทบ หากคนไข้ได้เห็น ซึ่งเขาอาจจะไม่รู้ว่าความจริงคืออะไร อาจจะรู้สึกไม่เชื่อมั่นในโรงพยาบาล บางคนถึงขอยกเลิกและขอมัดจำคืน สำหรับแนวทางการดำเนินคดี โดยหลังจากนี้หากมีการกระทบกระทั่งตนจะมีการดำเนินคดี พร้อมยอมรับว่าก่อนเข้ารายการตนเองใจสั่น แต่ไม่ได้รู้สึกกลัว ตนทำธุรกิจมานาน แต่คนแบบนี้ไม่เคยเจอ เนื่องจากไม่รู้ว่าใครให้ความช่วยเหลือ หรือเพราะความง่ายของเราหรือไม่ จึงได้มาทำร้ายเรา

ทั้งนี้ตนอยากฝากว่าเขาเป็นคนที่เลวร้ายบริสุทธิ์ ถึงเวลาที่อยากได้เงินก็ทำร้าย แม้กระทั่งคนที่คิดดีกับเขา ซึ่งตนไม่เคยเจออะไรแบบนี้และอัดอั้นใจมาตั้งแต่เมื่อ 6 ปีที่แล้ว และอยากบอกว่าอย่าทำร้ายใครอีกเลย.

advertisement

advertisement

คุณอาจสนใจข่าวนี้

ข่าวยอดนิยม

ข่าวทั่วไป เป็นกระแส